?สวนดุสิตโพล? มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยทั่วประเทศ เรื่อง?เสียงสะท้อนจากเด็กไทย ปี 2568? กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กไทยอายุระหว่าง 6-18 ปี จำนวน 1,030 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 สรุปผลได้ ดังนี้ 1. สิ่งที่เด็กไทยชอบหรือประทับใจที่สุดในวัยเรียน อันดับ 1 เล่นกับเพื่อน ๆ ในโรงเรียน 66.21% อันดับ 2 ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่สนุกและท้าทาย 55.15% อันดับ 3 เล่นกีฬา ทัศนศึกษา เข้าค่าย 53.20% 2. นอกเหนือจากห้องเรียน เด็กไทยชอบเรียนรู้จากที่ไหนมากที่สุด อันดับ 1 ดูคลิปหรือเรียนรู้จากมือถือ/แท็บเล็ต 76.99% อันดับ 2 เล่นและทำกิจกรรมกับเพื่อน 49.81% อันดับ 3 ท่องเที่ยวในพิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ หรือธรรมชาติ 48.25% 3. เด็กไทยคิดว่าตนเองควรมีทักษะอะไรที่สำคัญสำหรับอนาคต อันดับ 1 การรู้จักป้องกันและรับมือกับภัยอันตรายทั้งในชีวิตจริงและออนไลน์ 74.76% อันดับ 2 พูดภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ได้ 56.21% อันดับ 3 ใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี 52.14% 4. เด็กไทยอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงเรื่องอะไร อันดับ 1 โรงเรียนและการเรียนสนุกขึ้น 61.26% อันดับ 2 เทคโนโลยีพัฒนาเจริญก้าวหน้า 60.58% อันดับ 3 ชีวิตปลอดภัยจากอันตราย 53.59% 5. วันเด็กปีนี้อยากได้ของขวัญอะไรจากรัฐบาล/นายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือ 74.37% อันดับ 2 แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์สำหรับเรียน 58.83% อันดับ 3 ของเล่นสนุก ๆ อุปกรณ์เกม 39.61% 6. นอกจากคุณพ่อคุณแม่ ใครคือคนที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจ อันดับ 1 ลิซ่า ลลิษา มโนบาล 47.09% อันดับ 2 คุณครู 41.26% อันดับ 3 เจ ชนาธิป 30.94% อันดับ 4 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 28.25% อันดับ 5 แพทองธาร ชินวัตร 26.46%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยทั่วประเทศ เรื่อง ?เสียงสะท้อนจากเด็กไทย ปี 2568? ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กไทยอายุระหว่าง 6 ? 18 ปี จำนวน 1,030 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า สิ่งที่เด็กไทยชอบหรือประทับใจที่สุดในวัยเรียน คือ การเล่นกับเพื่อน ๆ ในโรงเรียน ร้อยละ 66.21 นอกเหนือจากห้องเรียน เด็กไทยชอบเรียนรู้จากการดูคลิปหรือเรียนรู้จากมือถือ/แท็บเล็ตมากที่สุด ร้อยละ 76.99 ทักษะที่สำคัญสำหรับอนาคต คือ ทักษะการรู้จักป้องกันและรับมือกับภัยอันตรายทั้งในชีวิตจริงและออนไลน์ ร้อยละ 74.76 ทั้งนี้เด็กไทยอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลง คือ โรงเรียนและการเรียนสนุกขึ้น ร้อยละ 61.26 ของขวัญที่อยากได้จากรัฐบาล/นายกรัฐมนตรีในวันเด็กปีนี้ คือ ทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือ ร้อยละ 74.37 นอกจากคุณพ่อคุณแม่ คนที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจ คือ ลิซ่า ลลิษา ร้อยละ 47.09 รองลงมาคือ คุณครู ร้อยละ 41.26 นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนเสียงของเด็กไทยอายุ 6-18 ปี ว่า ?ความสนุก? ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของช่วงวัยนี้ ทั้งการเล่นกับเพื่อนในโรงเรียนและคาดหวังให้การเรียนในห้องเรียนสนุกมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มุ่งเน้น ?เรียนดี มีความสุข? หากสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้ย่อมตอบโจทย์ผู้เรียนอย่างแท้จริง ผลโพลยังชี้ให้เห็นว่าเด็กไทยตระหนักถึงภัยมิจฉาชีพออนไลน์ การพัฒนาด้านเทคโนโลยี รวมถึงชื่นชมบุคคลศิลปินระดับโลกอย่าง ?ลิซ่า ลลิษา? คุณครู นักกีฬา ไปจนถึงนักการเมืองอย่าง ?พิธา? และ ?แพทองธาร? นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนินทร์ ฐิติเพชรกุล อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต อธิบายว่า การสำรวจนี้สะท้อนประเด็นสำคัญหลายด้านเกี่ยวกับเด็กไทยในปัจจุบัน พฤติกรรมการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงของเด็กไทยคือเรียนรู้ผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลจากมือถือหรือแท็บเล็ต ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างชัดเจน แต่ขณะเดียวกันเด็กยังให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในโรงเรียน แสดงถึงความจำเป็นในการคงไว้ซึ่ง Social Learning ควบคู่กับ Digital Learning ด้านการตระหนักถึงความปลอดภัย เด็กไทยก็ให้ความสำคัญกับทักษะการป้องกันภัยทั้งในโลกจริงและออนไลน์สูง แสดงถึงความกังวลต่อภัยคุกคามในยุคดิจิทัล และการที่เด็กไทยต้องการทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์สำหรับเรียนนั้นเป็นการยืนยันว่าความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังคงมีอยู่ สุดท้ายที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจ น่าสนใจที่ศิลปินและนักกีฬาได้รับความนิยมมากกว่านักการเมือง แต่ครูยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของเด็กไทย แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของครูและบุคคลสาธารณะยืนยันถึงความสำคัญของตัวแบบทางสังคมต่อการพัฒนาเยาวชนไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนินทร์ ฐิติเพชรกุล อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่มา: สวนดุสิตโพล