![สวนดุสิตโพล: ควันหลงเลือกตั้งท้องถิ่น](/img/files/20250210/iqd7902e9f2b990b7ba899a820afe6bc96.jpg)
?สวนดุสิตโพล? มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ เรื่อง ?ควันหลงเลือกตั้งท้องถิ่น? กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,386 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ 2568 สรุปผลได้ดังนี้ 1. ประชาชนไปเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 68 ที่ผ่านมาหรือไม่ อันดับ 1 ไป 63.28% อันดับ 2 ไม่ได้ไป 36.72% เพราะ ติดภารกิจ ต้องทำงาน ที่พักอาศัยปัจจุบันอยู่คนละพื้นที่กับเขตเลือกตั้ง ใช้เวลาในการเดินทางนาน 2. ประชาชนคิดว่าสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้น้อยกว่าที่คาดการณ์ อันดับ 1 ติดธุระ ไม่สะดวกในการเดินทางไปใช้สิทธิ 68.99% อันดับ 2 ตรงกับวันเสาร์ 47.18% อันดับ 3 ผู้สมัครไม่น่าสนใจ/ไม่มีทางเลือกที่ดีพอ 33.49% 3. ประชาชนเห็นว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาติมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร อันดับ 1 แตกต่างกัน 52.89% เพราะ ผู้สมัครท้องถิ่นเป็นคนในพื้นที่ รู้และเข้าใจปัญหาของชุมชนได้ดี มีความใกล้ชิดประชาชนมากกว่า อันดับ 2 เหมือนกัน 47.11% เพราะ นโยบายและวิธีการหาเสียงคล้ายกัน มีพรรคการเมืองสนับสนุนเหมือนกัน ประชาชนมีสิทธิออกไปใช้เสียงเหมือนกัน 4. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งนี้ อันดับ 1 ประชาชนมีแนวคิดใหม่ ๆ ในการเลือกผู้บริหารท้องถิ่น 54.91% อันดับ 2 การเข้าถึงปัญหาท้องถิ่นโดยแท้จริงเป็นเรื่องสำคัญกว่ากระแส 51.15% อันดับ 3 การคัดเลือกตัวผู้สมัครมีผลต่อคะแนนเสียง 42.93% 5. ประชาชนคิดว่าผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้จะส่งผลต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดของท่านมากน้อยเพียงใด อันดับ 1 ไม่แน่ใจ อาจต้องรอดูผลลัพธ์ในระยะยาว 26.98% อันดับ 2 ส่งผลในระดับหนึ่ง อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางด้าน 25.32% อันดับ 3 ส่งผลน้อย ไม่คาดหวังการเปลี่ยนแปลงมากนัก 20.07% อันดับ 4 ไม่ส่งผลเลย ทุกอย่างน่าจะเหมือนเดิม 16.45% อันดับ 5 ส่งผลอย่างมากและเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน 11.18%
*หมายเหตุ ข้อ 2 และ 4 ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
?สวนดุสิตโพล? มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ เรื่อง ?ควันหลงเลือกตั้งท้องถิ่น? กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,386 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 63.28 ไปเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา อีกร้อยละ 36.72 ไม่ได้ไปเพราะติดภารกิจ ต้องทำงาน โดยคิดว่าสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้น้อยกว่าที่คาดการณ์เพราะติดธุระ ไม่สะดวกในการเดินทางไปใช้สิทธิ ร้อยละ 68.99 รองลงมาคือ ตรงกับวันเสาร์ ร้อยละ 47.18 ทั้งนี้มองว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาติมีความแตกต่างกัน ร้อยละ 52.89 เพราะผู้สมัครท้องถิ่นเป็นคนในพื้นที่ รู้และเข้าใจปัญหาของชุมชนได้ดี มีความใกล้ชิดประชาชนมากกว่า โดยสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งนี้ คือ ประชาชนมีแนวคิดใหม่ ๆ ในการเลือกผู้บริหารท้องถิ่น ร้อยละ 54.91 สุดท้ายในแง่ของผลการเลือกตั้งที่ส่งผลต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดนั้นอาจต้องรอดูผลลัพธ์ในระยะยาว ร้อยละ 26.98 นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ควันหลงการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของอำนาจในแต่ละพื้นที่ ผู้ใช้สิทธิที่ลดลงจากความไม่สะดวกและการเลือกตั้งที่ตรงกับวันเสาร์และการตั้งคำถามถึงการประชาสัมพันธ์ของ กกต. สร้างความสงสัยให้กับประชาชน สำหรับพรรคการเมืองที่ลงสนามแบบเปิดหน้า การเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า ประชาชนต้องการ ?ผู้นำใกล้ชิด? และ ?เข้าใจพื้นที่? มากกว่าผู้นำในเชิงนโยบายกว้าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากการเมืองระดับชาติ นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533 ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัย สวนดุสิต อธิบายว่า หากพิจารณาสถิติของผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.2568 เป็นตัวชี้วัดการทำงานของ กกต. ก็คงต้องกล่าวว่าประสบความล้มเหลวในด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน เนื่องจากจำนวนประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มีสัดส่วนเพียง 58% เมื่อเทียบกับการเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศในวันที่ 20 ธ.ค.2563 ซึ่งมีสัดส่วน 62.86% ลดลงถึง 4.86% จากผลสำรวจพบว่าสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้น้อย เนื่องจากประชาชนไม่สะดวกในการเดินทางไปใช้สิทธิ เพราะติดภารกิจ และเป็นวันเสาร์ ประชาชนที่ทำงานในภาคเอกชนบางบริษัทยังคงต้องทำงานตามปกติ ซึ่งมีความสอดคล้องกับเสียงสะท้อนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ผลกระทบที่ตามมาคือ ทำให้ประชาชนที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิถูกจำกัดสิทธิจากเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 5 ประการเป็นเวลา 2 ปี เว้นแต่ได้แจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งในช่วงระยะเวลาที่กำหนด คือ ก่อนการเลือกตั้ง 7 วันหรือภายใน 7 วันนับหลังวันเลือกตั้ง เช่นเดียวกับกรณีของบัตรเสียจำนวน 900,000 ใบ สะท้อนความล้มเหลวในการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์กับประชาชนแต่ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการบริหารจัดการของ กกต. มากกว่า ส่วนประชาชนที่ไปใช้สิทธิแต่กากบาทในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนก็เป็นเสียงสะท้อนของความ ไม่เชื่อมั่นในตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งของแต่ละพื้นที่ แม้จะมีนโยบายดี แม้จะมีสังกัดพรรคใหญ่แต่ยังไม่รัก ไม่มั่นใจ จึงไม่เลือก ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่มา: สวนดุสิตโพล