สวนดุสิตโพลล์: ความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนต่อ เหตุการณ์การเสียชีวิตของเด็กที่เกี่ยวกับการเล่นเกม

ข่าวผลสำรวจ Friday May 22, 2009 15:16 —สวนดุสิตโพล

จากเหตุการณ์สลดเด็กชาย ป.6 กระโดดอาคารเรียนชั้น 6 ซึ่งเป็นห้องเรียนคอมพิวเตอร์เสียชีวิตอนาถ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น้อยใจที่ถูกพ่อตำหนิที่ชอบมาเล่นเกมคอมพิวเตอร์ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน ที่มีอายุระหว่าง 8-16 ปี จำนวน 1,242 คน ต่อกรณีดังกล่าว เพื่อสะท้อนแนวคิดของเด็กและเยาวชนที่มีต่อการเล่นเกม ระหว่างวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2552 สรุปผลการสำรวจ ได้ดังนี้

1 . พฤติกรรมในการเล่นเกมของเด็กและเยาวชน
อันดับ 1          ประมาณเดือนละ1-3 ครั้ง           54.77%
อันดับ 2          เล่นแทบทุกวัน                    21.59%
อันดับ 3          ไม่ค่อยได้เล่น                    13.40%
อันดับ 4          เล่นทุกวัน                       10.24%

2 . การเล่นเกมในสายตาของเด็กและเยาวชนเห็นว่ามีความสำคัญมากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1          มีความสำคัญน้อย          56.05%

เพราะ ทำให้เสียการเรียน ,เล่นเพื่อความสนุกสนานไม่ได้เล่นเป็นจริงเป็นจัง ,พ่อแม่ สั่งไม่ให้เล่นหรือเล่นได้

แต่อย่านาน ,มีกิจกรรมอย่างอื่นที่ต้องทำมากกว่า ฯลฯ

อันดับ 2          พอสมควร               38.46%

เพราะ ไว้เล่นแก้เหงาหรือช่วงวันหยุดอยู่บ้าน, สามารถเล่นคนเดียวได้ ,เกมมีหลายประเภทที่ให้เลือกเล่น ,บาง เกมก็มีประโยชน์แก่ผู้เล่น ช่วยให้เกิดทักษะ ความจำ ฯลฯ

อันดับ 3          มีความสำคัญมาก           5.49%

เพราะ ทำให้สนุกสนาน เพลิดเพลิน ,เล่นเกมมานานแล้ว , การเล่นเกมเป็นสิ่งที่คู่กับเด็กทุกคน ,เกมใหม่ๆที่

น่าสนใจมีออกมาให้เล่นอยู่เรื่อยๆ ฯลฯ

3 . ถ้าเด็กและเยาวชนไม่ได้เล่นเกมในรอบ 7 วัน จะมีความรู้สึกอย่างไร ?
อันดับ 1          ไม่มีผลอะไร                                           39.61%
อันดับ 2          พยายามทำอย่างอื่นแทน เช่น อ่านการ์ตูน ดูทีวี  ฟังเพลง          23.87%
อันดับ 3          โทรคุยกับเพื่อน /ออกไปเที่ยวกับเพื่อน                        17.34%
อันดับ 4          รู้สึกหงุดหงิด เบื่อ   อยากเล่นเกม                          12.08%
อันดับ 5          ถามเพื่อนว่าตอนนี้เล่นเกมถึงด่านไหนแล้ว /เป็นยังไงบ้าง           7.10%

4 . เด็กและเยาวชนเห็นว่าถ้าพ่อแม่ และครู จะบอกให้หยุดเล่นเกมน่าจะใช้วิธีการหรือคำพูดดังนี้
อันดับ 1          ถ้าอยากเป็นเด็กดี ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ และคุณครู                  43.82%
อันดับ 2          พูดด้วยเหตุผล ไม่โกรธ ไม่ดุ                               19.10%
อันดับ 3          เล่นเกมมากเกินไปทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สายตา สมอง       15.73%
อันดับ 4          ทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ /จะถูกตัดค่าขนม               14.61%
อันดับ 5          หากิจกรรมอื่นทำแทน เช่น พาไปเที่ยว เล่นกีฬา ออกกำลังกาย       6.74%

5 . ความคิดเห็นต่อข่าวเด็ก ป.6 กระโดดตึกฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจพ่อดุเรื่องเล่นเกม
อันดับ 1          เป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง /ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ                                  36.10%
อันดับ 2          รู้สึก เศร้าใจ เสียใจกับพ่อแม่ของเด็ก                                            28.51%
อันดับ 3          เป็นห่วงเพื่อนๆ น้องๆที่อยู่ในวัยเรียนและชอบเล่นเกม                                 25.26%
อันดับ 4          เป็นคนที่ใจกล้ามาก /เรื่องที่ทำเป็นเรื่องที่น่าหวาดเสียว                                5.95%
อันดับ 5          ยังไม่เชื่อกับข่าวที่ออกมาว่ามีสาเหตุจากการเล่นเกม /อยากรู้สาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากเรื่องอะไร  4.18%

6 . ควรหาวิธีป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก
อันดับ 1          พ่อแม่ต้องดูแลและให้ความรักความอบอุ่นแก่ลูกอย่างใกล้ชิด          44.63%
อันดับ 2          อยากให้พ่อแม่เข้าใจในตัวลูก / ค่อยๆพูด ค่อยๆสอน              30.37%
อันดับ 3          ถ้าลูกอยากทำอะไรก็ให้ลองทำดู แต่ก็มีการแนะนำหรือตักเตือนบ้าง    15.18%
อันดับ 4          หากิจกรรมอย่างอื่นให้ลูกทำ เช่น เล่นกีฬา ไปเที่ยว เรียนพิเศษ      6.53%
อันดับ 5          ไม่ให้ลูกอยู่คนเดียว /อยู่ตามสถานที่ต่างๆคนเดียว                 3.29%

--สวนดุสิตโพล--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ