จากกรณีการลาออกจากประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางการ เมืองอย่างกว้างขวาง เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนอันเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์การเมืองไทย “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 2,173 คน ระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม 2552 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 เสียดาย เพราะจะทำให้ขาดสีสันทางการเมือง โดยเฉพาะการโต้ตอบและการอภิปราย 41.19% อันดับ 2 น่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยอ่อนแอลง เกิดความแตกแยก ขัดแย้ง 25.26% อันดับ 3 ทำให้บทบาทหน้าที่ของฝ่ายค้านไม่เข้มข้น โดยเฉพาะการตรวจสอบรัฐบาล 15.28% อันดับ 4 เป็นเรื่องของเกมการเมืองที่ไม่มีอะไรแน่นอน ขึ้นอยู่กับอำนาจและผลประโยชน์ 9.48% อันดับ 5 เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยขาดเอกภาพ มีหลายกลุ่ม หลายมุ้ง ขาดหัวหน้าพรรคตัวจริงที่จะประสาน 8.79% 2. การลาออกจากประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ของ ร.ต.อ.เฉลิม มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยมากน้อยเพียงใด? อันดับ 1 กระทบมาก 60.93%
เพราะ เป็นคนที่มีบารมีทางการเมือง มีฐานเสียง มีข้อมูลมาก และมีบุคลิกเฉพาะที่เป็นสีสันทางการเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ค่อนข้างกระทบ 23.84%
เพราะ มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง มีประชาชนนิยมชมชอบมาก ฯลฯ
อันดับ 3 กระทบน้อย 10.63%
เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ค่อยมีบทบาทในฐานะผู้บริหารอยู่แล้ว ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่กระทบ 4.60%
เพราะ หัวหน้าพรรคตัวจริงก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ฯลฯ
อันดับ 1 การเมืองไทยจะขาดสีสันลงไปมาก โดยเฉพาะการโต้ตอบและอภิปราย เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมมีประสบการณ์ ทางการเมืองสูง 56.60% อันดับ 2 ฝ่ายค้านจะอ่อนแอลง 22.04% อันดับ 3 ฝ่ายรัฐบาลจะบริหารงานได้ง่ายขึ้น อายุรัฐบาลจะยาวขึ้น 16.52% อันดับ 4 การแบ่งกลุ่ม แบ่งมุ้ง ในพรรคเพื่อไทยจะมากขึ้น เกิดความขัดแย้งทำให้บริหารยากขึ้น 4.84% 4. ผู้ที่จะช่วยแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากกรณีการลาออกจากประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ของ ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อไม่ทำให้พรรคเพื่อไทยแตกแยก อันดับ 1 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 73.35% อันดับ 2 คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ 16.71% อันดับ 3 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 5.29% อันดับ 4 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ 3.08% * อื่นๆ เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย ฯลฯ 1.57% --เอแบคโพลล์-- -พห-