จากที่รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งพระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันได้ทรงลงพระนามรับรอง พระราชกฤษฎีกาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆตามมามากมาย ทั้งการเรียกทูตไทยประจำ เขมรกลับมาเพื่อทบทวนความสัมพันธ์ และอาจส่งผลกระทบระลอกใหม่ต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา หลังจากที่สมเด็จฯ ฮุน เซน เคยสร้าง ความไม่พอใจแก่รัฐบาลไทยเมื่อครั้งเดินทางมาเข้าร่วมการประชุม อาเซียน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็น ของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อกรณีดังกล่าว จำนวน 1,014 คน ระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2552 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 ก่อให้เกิดผลกระทบด้านความสัมพันธ์และความขัดแย้งระหว่างไทย กับ กัมพูชา 31.63% อันดับ 2 เป็นเรื่องของผลประโยชน์ระหว่างฮุนเซน กับ ทักษิณ 22.48% อันดับ 3 แสดงว่าทักษิณเป็นบุคคลที่มีความสามารถและมีศักยภาพ / ฮุนเซนเชื่อมั่นในการบริหารด้านเศรษฐกิจ 19.38% อันดับ 4 ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยพอสมควรเนื่องจาก ทักษิณ เป็นผู้หลบหนีคดีอาญา 15.27% อันดับ 5 เป็นเรื่องภายในของกัมพูชาและเป็นสิทธิส่วนตัวของทักษิณ 11.24% 2. “ทักษิณ” ควรตอบรับเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจในครั้งนี้หรือไม่? อันดับ 1 ไม่ควรตอบรับ 69.20%
เพราะ จะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น , ทักษิณยังมีสถานะเป็นผู้หลบหนีคดีอาญาอยู่ ฯลฯ
อันดับ 2 ควรตอบรับ 19.09%
เพราะ เป็นการแสดงความสามารถและศักยภาพให้ผู้อื่นได้เห็น , ไม่น่าจะเสียหายอะไร อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนมากกว่าและ
มองว่าทักษิณเป็นตัวแทนของประเทศไทยที่จะเข้าไปพัฒนากัมพูชาให้ดีขึ้น ฯลฯ
อันดับ 3 ยังไงก็ได้ 11.71%
เพราะ ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนมากกว่า น่าจะมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ,ควรรอฟังการตัดสินใจของทักษิณ
ก่อนว่าจะออกมาอย่างไร ? ฯลฯ
อันดับ 1 ส่งผลกระทบอย่างมาก 46.91%
เพราะ ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งและความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่ลดลง , ทำให้ฮุนเซนได้ใจเกิดความฮึกเหิม
ไม่ให้เกียรติและไม่เกรงใจรัฐบาลไทย ฯลฯ
อันดับ 2 ส่งผลกระทบบ้าง 36.08%
เพราะ ประเทศไทยอาจลดระดับความสัมพันธ์และการให้ความช่วยเหลือกัมพูชาทั้งด้านการค้าการลงทุน ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยส่งผลกระทบ 9.27%
เพราะ อาจเป็นเพียงการสร้างกระแสข่าวขึ้นมาให้เป็นที่สนใจ ,สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเท่านั้น ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่ส่งผลกระทบเลย 7.74%
เพราะ มองว่าเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งทางการเมืองที่ทักษิณเดินไว้เท่านั้น ฯลฯ
อันดับ 1 แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ เป็นการตอบโต้ทางการเมืองและการทูต 40.62% อันดับ 2 เป็นการเรียกกลับมาเพื่อจะได้ปรึกษา หารือและกำหนดท่าทีของรัฐบาลให้ชัดเจน 25.07% อันดับ 3 เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าจะเกิดความขัดแย้งระหว่างไทย กับ กัมพูชา มากขึ้น 14.58% อันดับ 4 ไม่ควรรีบร้อนเรียกกลับมา ควรรอดูท่าทีของกัมพูชาไปก่อน 12.56% อันดับ 5 เป็นเรื่องของรัฐบาลไทยว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร? 7.17% 5. ถ้าประชาชนเป็น นายกฯ อภิสิทธิ์ จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร? อันดับ 1 ทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างไทย —กัมพูชา ทั้งด้านความร่วมมือและพันธกรณีต่างๆ 33.12% อันดับ 2 เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมปรึกษาหารือ เพื่อวางแผนรองรับกับสถานการณ์ที่ 21.89%
อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
อันดับ 3 นายกฯ อภิสิทธิ์ควรเจรจากับฮุนเซนโดยตรง 16.52% อันดับ 4 ควรรอฟังผลการตัดสินใจของทักษิณก่อนว่าจะเป็นอย่างไร 15.23% อันดับ 5 ประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่แนวชายแดนทำการค้าขายหรือดำรงชีวิตเหมือนเดิม ไม่ต้อง 13.24%
วิตกกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น
--สวนดุสิตโพล--