สภาพสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมากจากอดีต จนถึงปัจจุบัน ทั้งปัญหาจากการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหา รุมเร้าอีกหลากหลายรูปแบบ ที่นับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ความคิดเห็นของประชาชนจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่มีผลกระทบและ ควรเร่งแก้ไข “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,629 คน ระหว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2552 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 เพิ่มขึ้น 70.22%
เพราะ รู้สึกว่าประเทศชาติกำลังอ่อนแอ ต้องอาศัยความรักความสามัคคีของคนไทยทุกคนในการร่วมแรงร่วมใจกันปกป้อง
ดูแลไม่ให้ใครมาย่ำยี ,อยากตอบแทนบุญคุณผืนแผ่นดินไทยที่ให้คนไทยได้อาศัยพึ่งพิงอยู่ทุกวันนี้ ฯลฯ
อันดับ 2 เท่าเดิม 27.54%
เพราะ เป็นคนไทยคนหนึ่งที่รักและหวงแหนประเทศชาติอยู่แล้ว ตั้งแต่จำความได้ก็จะได้ยินผู้ใหญ่พูดถึงในหลวงและความอุดมสมบูรณ์
ความร่มเย็นของประเทศไทย โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ฯลฯ
อันดับ 3 ลดลง 2.24%
เพราะ รู้สึกเบื่อ ระอาเป็นอย่างมาก ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องมาเห็นคนไทยด้วยกันเองทะเลาะกัน จนถึงขั้น
เอาประเทศชาติมาเป็นเดิมพัน รู้สึกเสียใจกับการกระทำของคนไทยด้วยกันเอง ฯลฯ
ความตื่นตัว /ความสนใจทางการเมือง
อันดับ 1 สนใจการเมืองเพิ่มขึ้น 57.76%
เพราะ จากความขัดแย้งระหว่างไทย กัมพูชา ส่งผลให้กระแสการเมืองไทยและการเมืองระหว่างประเทศร้อนแรงยิ่งขึ้น ,
รูปแบบการเมืองไทยในปัจจุบันนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก มีกลยุทธ์ เทคนิค การแก้เกมต่างๆที่คาดไม่ถึงและรุนแรงมากขึ้น,
การเมืองไทยมีความสำคัญต่อประเทศชาติและประชาชน ฯลฯ
อันดับ 2 สนใจการเมืองเท่าเดิม 30.77%
เพราะ ปกติก็จะติดตามข่าวสารบ้านเมืองเป็นประจำอยู่แล้ว ,จะรู้ข่าวการเมืองจากสื่อต่างๆทุกวัน ฯลฯ
อันดับ 3 สนใจการเมืองลดลง 11.47%
เพราะ รู้สึกเบื่อกับนักการเมืองและการเมืองไทยในขณะนี้อย่างมาก เป็นการทะเลาะกันของผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองเพียงไม่กี่คน
เท่านั้น นักการเมืองที่หวังทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองมีมาก ฯลฯ
อันดับ 1 ต้องคอยติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆมากขึ้น เพราะการเมืองมีความสำคัญต่อประเทศชาติ 36.18% อันดับ 2 รู้สึกเครียด กังวล กับปัญหาการเมืองขณะนี้ 30.53% อันดับ 3 ต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุนในประเทศไทย /ยกเลิกการท่องเที่ยว การทำธุรกิจต่างๆ 24.61% อันดับ 4 หากมีการเลือกตั้งในครั้งหน้า จะต้องรู้จักเบื้องลึกของนักการเมืองให้ดีกว่านี้ 8.68% 3. ความวิกฤตทาง “เศรษฐกิจ” ส่งผลกระทบที่เป็นรูปธรรมต่อประชาชน คือ อันดับ 1 ต้องประหยัด รู้จักกินรู้จักใช้มากขึ้น 45.53% อันดับ 2 ต้องกู้หนี้ยืมสิน หรือนำสิ่งของมีค่าไปจำนำ 16.33% อันดับ 3 ขายของได้น้อยลง ลูกค้าหายหน้าหายตาไป 15.81% อันดับ 4 ต้องทำงานมากขึ้น ทำให้ไม่มีเวลาหรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวได้ 13.07% อันดับ 5 ลดการเดินทางไปต่างจังหวัด กรณี ไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติ 9.26% 4. ความโหดร้ายทาง “สังคม” ส่งผลกระทบที่เป็นรูปธรรมต่อประชาชน คือ อันดับ 1 รู้สึกกลัว หวาดระแวงทุกครั้งเมื่อออกไปข้างนอกบ้าน 33.39% อันดับ 2 มีความระมัดระวังมากขึ้น ไม่ใส่เครื่องประดับหรือของมีค่าติดตัวมากๆ /พยายามสังเกตสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวให้มากขึ้น 23.12% อันดับ 3 ไม่ไปไหนคนเดียว จะชวนคนสนิทหรือมีเพื่อนไปด้วยทุกครั้ง 21.59% อันดับ 4 หากมีธุระหรือมีงานข้างนอกจะพยายามหลีกเลี่ยงการนัดในช่วงค่ำๆ 14.86% อันดับ 5 มีการพกอุปกรณ์หรืออาวุธชิ้นเล็กๆติดตัวหรือใส่ไว้ในกระเป๋า 7.04%
--สวนดุสิตโพล--