จากที่ฝ่ายค้านเดินหน้าการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะยื่นให้ที่ประชุมพรรคในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนเรื่องกรอบเวลาในการยื่นญัตติขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค ในขณะที่กระแสการดึงคนนอกพรรคเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีสร้างความไม่พอใจให้กับ ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมแจงว่าหากมีการเสนอชื่อคนนอกพรรคตนก็จะไม่ขออภิปราย ทำให้หลายฝ่ายต่างจับตามองพรรคฝ่ายค้านว่าจะยุติเรื่องนี้อย่างไร “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ กรณี ฝ่ายค้านเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จำนวน 3,042 คน ระหว่างวันที่ 15-20 กุมภาพันธ์ 2553 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง 46.71%
เพราะ มีความเป็นผู้นำ มีบทบาททางการเมืองสูง ลูกล่อลูกชนดี มีบารมีและเป็นนักการเมืองระดับแนวหน้าของประเทศ ฯลฯ
อันดับ 2 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ 37.28%
เพราะ เคยเป็นนายกรมต.มาก่อน มีทั้งวัยวุฒิ/คุณวุฒิที่เหมาะสม ,นักการเมืองส่วนใหญ่ให้ความเคารพ นับถือ มีประสบการณ์สูง ฯลฯ
อันดับ 3 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ 11.20%
เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา ใจเย็น มีประสบการณ์ด้านงานบริหาร ทำงานเป็นระบบ ฯลฯ
อื่นๆ เช่น พล.ต.อ ประชา พรหมนอก ,พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์, 4.81%
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ,พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ,นายวิทยา บุรณศิริ ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 44.45%
เพราะ ฝ่ายค้านมีนักการเมืองที่เก่ง ฝีมือดีหลายคน อาจคัดเลือกให้มาเป็นผู้อภิปรายหลัก , ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของหลักฐานที่จะนำมาใช้ประกอบการอภิปรายมากกว่า ฯลฯ
อันดับ 2 น้อยลง 35.89%
เพราะ ภาพลักษณ์ภายในพรรคขณะนี้มีแต่ความขัดแย้งแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า ,ขาดความน่าเชื่อถือ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่น้อยลง 19.66%
เพราะ เป็นคนละเรื่องกัน เป็นเรื่องภายในพรรค ส่วนการอภิปรายเป็นการพูดถึงการทำงานของรัฐบาล ฯลฯ
อันดับ 1 พอๆกัน 48.53%
เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีจุดอ่อนพอๆกัน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งภายใน เรื่องอำนาจ ผลประโยชน์ที่ไม่เข้าใครออกใคร ฯลฯ
อันดับ 2 ผลดีมากกว่า 32.18%
เพราะ เป็นจังหวะดีที่การอภิปรายครั้งนี้จะหยิบยกประเด็นที่เป็นปัญหาที่สังคมให้ความสนใจขึ้นมาอภิปราย ,ประชาชนได้รู้ข้อเท็จจริงมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 3 ผลเสียมากกว่า 19.29%
เพราะ ทั้ง 2 ฝ่ายก็จะนำข้อมูลของแต่ละฝ่ายมาแฉเพื่อลดความน่าเชื่อถือ ,เหมือนดูปาหี่ทางการเมือง ฯลฯ
อันดับ 1 การทุจริตโครงการต่างๆ เช่น ไทยเข้มแข็ง ต้นกล้าอาชีพ กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น 29.30% อันดับ 2 คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน 22.03% อันดับ 3 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ /กู้เงิน 20.17% อันดับ 4 การบริหารงานของรัฐบาล 16.82% อันดับ 5 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 11.68% 5. ใคร ? คือผู้ที่สมควรจะเป็นแกนนำฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อันดับ 1 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง 63.51%
เพราะ ฝีปากกล้า การอภิปรายน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ มีการเตรียมข้อมูลเป็นอย่างดี, ประสบการณ์สูง ฯลฯ
อันดับ 2 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ 20.83%
เพราะ มีความอาวุโส พูดจานุ่มนวล สุภาพ ประนีประนอม เคยเป็นอดีตนายกฯ มาก่อน, อ่านเกมออก ฯลฯ
อันดับ 3 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ 15.66%
เพราะ มีภาพลักษณ์เป็นนักบริหารมืออาชีพ มีวิสัยทัศน์ น่าจะวางแผนการอภิปรายได้ดี ฯลฯ
อันดับ 1 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 72.70%
เพราะ เป็นหัวหน้ารัฐบาล สามารถชี้แจงข้อมูลและควบคุมอารมณ์ได้ดี ,เป็นผู้ที่ฝ่ายค้านอยากให้พูดอภิปราย ฯลฯ
อันดับ 2 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 17.56%
เพราะ เป็นเหมือนแม่บ้านประจำพรรค รู้ความเป็นไปภายในพรรคทุกเรื่อง มีความอาวุโส ฯลฯ
อันดับ 3 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี 9.74%
เพราะ มีสไตล์การพูดที่น่าสนใจ มีสีสัน มีความรู้ความสามารถดี มีประสบการณ์สูง ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่มีผลทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ 79.58%
เพราะ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายและกระบวนการพิจารณาของศาล ฯลฯ
อันดับ 2 ทำให้รัฐบาลได้เปรียบ 14.74%
เพราะ สถานการณ์ของฝ่ายค้านในขณะนี้อยู่ในภาวะที่ขาดผู้นำและมีความแตกแยกภายในพรรคสูง ไม่สามารถผนึกกำลังสู้รัฐบาลได้ ฯลฯ
อันดับ 3 ทำให้ฝ่ายค้านได้เปรียบ 5.68%
เพราะ ประชาชนบางกลุ่มเห็นว่ารัฐบาลใช้ระบบ 2 มาตรฐาน กลั่นแกล้งฝ่ายค้านมากเกินไป ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--