จากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยืดเยื้อจนยาวไปถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่วิตกกังวลต่อสถานการณ์ดัง กล่าวและส่งผลให้บรรยากาศในช่วงสงกรานต์ไม่คึกคักเท่าที่ควร ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างโอดครวญ เสียดายเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ควรจะได้ในช่วงสงกรานต์นี้ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและญี่ปุ่น ที่เป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญก็มีจำนวนลดลงอย่าง เห็นได้ชัด เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าการชุมนุมการเมืองได้ทำลายบรรยากาศทางการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศให้ตกต่ำลง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีต่อวันสงกรานต์ในปีนี้ จำนวน 1,044 คน ระหว่างวันที่ 16-17 เมษายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 สงกรานต์ปีนี้เป็นช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวายส่งผลให้บรรยากาศในกรุงเทพฯไม่คึกคักเท่าที่ควรแต่ตามต่างจังหวัด ยังมีประชาชนออกไปเที่ยวพักผ่อน /เล่นน้ำกันมาก 36.43% อันดับ 2 เป็นเทศกาลที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาหรือมีเวลาไปพบปะ เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ 23.76% อันดับ 3 ยังคงมีอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ หรือพบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในช่วงสงกรานต์อยู่บ้าง 15.82% อันดับ 4 เห็นใจพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ ที่อยู่บริเวณที่มีการชุมนุมเพราะค้าขาย/ทำธุรกิจไม่ได้ 14.39% อันดับ 5 ส่วนราชการยังคงมีการจัดกิจกรรม ประเพณีต่างๆที่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมเหมือนเดิม 9.60% 2. เปรียบเทียบภาพรวม “เทศกาลสงกรานต์” ในปีนี้ กับ ปีที่ผ่านมา (เศรษฐกิจ /บรรยากาศ /อุบัติเหตุ) อันดับ 1 แย่ลง 67.60%
เพราะ เป็นช่วงที่ประเทศกำลังประสบปัญหาทางการเมืองอย่างหนัก ทำให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศไม่ดี ,
ชาวต่างชาติไม่กล้าเข้ามาท่องเที่ยว ,ย่านธุรกิจไม่สามารถเปิดกิจการได้ตามปกติ รายได้จากช่วงสงกรานต์
เข้าประเทศลดลง ,อุบัติเหตุในแต่ละวันมีจำนวนมาก ฯลฯ
อันดับ 2 เหมือนเดิม 28.37%
เพราะ ในหลายพื้นที่ตามต่างจังหวัดยังคงเห็นประชาชนออกมาทำบุญ ใส่บาตร ทำกิจกรรมต่างๆ /เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
เหมือนเดิม ฯลฯ
อันดับ 3 ดีขึ้น 4.03%
เพราะ แม้จะมีเหตุการณ์ความวุ่นวาย แต่ประชาชนก็ยังออกมาร่วมประเพณีสงกรานต์กันเป็นจำนวนมาก ฯลฯ
อันดับ 1 ช่วยได้มาก 57.16%
เพราะ บรรยากาศช่วงสงกรานต์ช่วยให้ผ่อนคลายและเป็นการพักผ่อนที่ดี ,ได้เปลี่ยนบรรยากาศ ช่วยให้จิตใจสดชื่นมากขึ้น ,
หยุดการติดตามข่าวสารทางการเมืองไปชั่วขณะหนึ่งฯลฯ
อันดับ 2 ช่วยได้บ้าง 31.98%
เพราะ ถึงจะได้เปลี่ยนบรรยากาศ พบปะญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง แต่ก็ยังกังวลและเป็นห่วงบ้านเมืองอยู่ ฯลฯ
อันดับ 3 ช่วยไม่ได้เลย 10.86%
เพราะ ปัญหาของบ้านเมืองเป็นเรื่องใหญ่ที่สะสมมานานหลายปี ช่วงเวลาแห่งความสุขจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ในความเป็นจริง
ทุกคนต้องได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ฯลฯ
อันดับ 1 ขอให้บ้านเมืองสงบสุขในเร็ววัน 31.75% อันดับ 2 ขอให้คนไทยรักกัน สมัครสมานสามัคคี 20.26% อันดับ 3 ขอให้ครอบครัวมีความสุข ร่ำรวย ปราศจากทุกข์ภัย 17.12% อันดับ 4 ขอให้ตัวเองมีสุขภาพแข็งแรง ทำมาค้าขึ้น การงานรุ่งเรือง /มีความสุขความเจริญ 16.35% อันดับ 5 ขอให้เศรษฐกิจดี ประชาชนกินดีอยู่ดี 14.52% 5. ประชาชนคิดว่าบ้านเมืองหลังสงกรานต์จะเป็นอย่างไร ? อันดับ 1 ยังคงมีความวุ่นวายทางการเมืองอยู่ซึ่งยังหาข้อยุติไม่ได้ / ยังคงมีการชุมนุมที่ยืดเยื้อต่อไป 30.34% อันดับ 2 นายกฯ อภิสิทธิ์ต้องเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยเร่งด่วน 27.30% อันดับ 3 เศรษฐกิจ /การท่องเที่ยวของประเทศยังคงน่าเป็นห่วง หากสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ดีขึ้น 24.07% อันดับ 4 ประชาชนก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วง กังวล กับสถานการณ์บ้านเมืองต่อไป 18.29% 6. ความคาดหวังของประชาชน ต่อ เทศกาลสงกรานต์ในปีหน้า เป็นอย่างไร? อันดับ 1 บรรยากาศของบ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติ บ้านเมืองสงบสุข คนไทยรักกันและมีความสุข 43.81% อันดับ 2 เศรษฐกิจดี /มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก /พ่อค้าแม่ค้าค้าขายดี ผู้ประกอบการต่างๆ มีกำไร 30.58% อันดับ 3 สงกรานต์ในปีต่อๆไปอยากให้ภาครัฐ เอกชนและประชาชนคนไทยจะยังคงอนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมที่ดีต่อไป 10.44% อันดับ 4 การเกิดอุบัติเหตุลดน้อยลงโดยเฉพาะเมาแล้วขับ 9.79% อันดับ 5 อยากให้สภาพอากาศในช่วงสงกรานต์ปีหน้าไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนในปีนี้ 5.38% --เอแบคโพลล์-- -พห-