จากวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทยอย่างมาก แม้ว่าสถานการณ์ ณ วันนี้ ดูเหมือนว่าจะคลี่คลายลง โดยหลายๆฝ่าย ที่เกี่ยวข้องพยายามที่จะร่วมมือกันโดยใช้แนวทางปรองดองเพื่อลดความขัดแย้งทางสังคม และตั้งความหวังไว้ที่นักการเมือง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องต่อการพัฒนาประเทศโดยตรง หากนักการเมืองมีความสามัคคี ปรองดองกันก็จะส่งผลต่อความมั่นคงและความมีเสถียรภาพของบ้านเมือง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ กรณี “นักการเมือง” ในยุคของความปรองดองที่ประชาชนต้องการ จำนวน 1,282 คน ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2553 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 นักการเมืองทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้เต็มความสามารถ เพื่อให้เห็นผลงานออกมาอย่างเป็นรูปธรรม 30.54% อันดับ 2 การพูดคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์มาเป็นเครื่องตัดสิน 26.29% อันดับ 3 จัดกิจกรรมให้นักการเมืองทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เช่น การแข่งขันกีฬา จัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อสาธารณประโยชน์ ฯลฯ 19.73% อันดับ 4 ให้นักการเมืองทุกฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าจะซื่อสัตย์ ปรองดองและทำงานเพื่อบ้านเมือง 12.81% อันดับ 5 ให้นักการเมืองลงพื้นที่พบปะพูดคุยขอความร่วมมือจากประชาชนให้เป็นหูเป็นตา ดูแลความสงบเรียบร้อยในชุมชนที่อาศัยอยู่ 10.63% 2. “การปรองดอง” ของ “นักการเมือง” จะเป็นการฮั้วกันหรือไม่? อันดับ 1 กลัวเป็นการฮั้วกัน 64.28%
เพราะ อาจเป็นเกมการเมืองที่นักการเมืองร่วมกันสร้างภาพเพื่อให้ประชาชนเชื่อใจ ไว้วางใจ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่กลัวเป็นการฮั้วกัน 35.72%
เพราะ คิดว่านักการเมืองแต่ละกลุ่มมีความคิดเห็นต่อบ้านเมืองที่แตกต่างกันมาก ,
นักการเมืองต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนที่ชัดเจนเป็นของตนเอง ฯลฯ
อันดับ 1 ดีขึ้น 73.04%
เพราะ จะได้ร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ,บรรยากาศบ้านเมืองจะได้สงบสุข ,การบริหารประเทศทุกด้านต้องอาศัยนักการเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 เหมือนเดิม 17.39%
เพราะ ไม่เชื่อว่านักการเมืองทุกคนจะปรองดองกันได้จริง เหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมา ,การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ฯลฯ
อันดับ 3 แย่ลง 9.57%
เพราะ ไม่มีการคานอำนาจหรือตรวจสอบการทำงานซึ่งกันและกันของนักการเมือง ฯลฯ
อันดับ 1 คงปรองดองกันยาก 48.21%
เพราะ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมที่จะลดราวาศอกกัน ดูเหมือนยังเล่นเกมการเมืองกันอยู่ ฯลฯ
อันดับ 2 คงปรองดองกันได้ 26.79%
เพราะ นักการเมืองจะต้องเรียกความศรัทธาจากประชาชนกลับคืนมา และหวังว่าจะพัฒนาการเมืองไทย
ให้เป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ฯลฯ
อันดับ 3 ปรองดองกันไม่ได้ 17.86%
เพราะ เป็นความขัดแย้งที่ร้าวลึก ยากที่จะประสานให้ดีกันได้ การเปลี่ยนความคิดของนักการเมืองเป็นเรื่องยาก ฯลฯ
อันดับ 4 ปรองดองกันได้แน่ 7.14%
เพราะ คนไทยทุกคนต่างได้รับผลกระทบของความขัดแย้งที่นำมาซึ่งความเสียหายอย่างมาก
เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สำหรับคนไทยและการเมืองไทย ฯลฯ
อันดับ 1 มีความจริงใจ ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ 37.98% อันดับ 2 อยากให้นักการเมืองแก้ปัญหาต่างๆด้วยสติและเหตุผลแทนการใช้อารมณ์หรือกำลัง 20.12% อันดับ 3 อยากให้นักการเมืองมองว่านักการเมืองทุกคนมีสายเลือดของความเป็นไทยเหมือนกัน 14.90% อันดับ 4 อยากให้นักการเมืองลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบ รับฟังเรื่องราวปัญหาความเดือดร้อนต่างๆด้วยตนเอง 13.61% อันดับ 5 ให้ความร่วมมือในทุกเรื่องที่จะช่วยให้ความขัดแย้งในสังคมไทยลดลงได้ /ทำให้การเมืองไทยเป็นการเมืองที่ดี 13.39%
--สวนดุสิตโพล--