จากกรณีที่รัฐบาลมีมาตรการในการจัดระเบียบซิมการ์ดที่เติมเงิน โดยผู้ที่ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตร
ประชาชน เพื่อควบคุมการไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะการจุดชนวนระเบิด เช่น กรณีในภาคใต้ “สวนดุ
สิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพในเขตกรุงเทพฯ และ
ปริมณฑลที่ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ระบบรายเดือนและไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ จำนวนทั้งสิ้น 1,343 คน (ผู้
ที่ใช้โทรศัพท์มือถือระบบ เติมเงิน 875 คน 65.15% ผู้ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน 347
คน 25.84% ผู้ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ 121 คน 9.01%) โดยสำรวจระหว่างวันที่ 18 - 19 เมษายน
2548 สรุปผลได้ดังนี้
1. ความคิดเห็นกรณี การจัดระเบียบซิมการ์ดเติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตรประชาชนนั้น จะสามารถ
แก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในภาคใต้ (โดยเฉพาะกรณีจุดระเบิด) ได้มากน้อยเพียงใด?
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 น่าจะแก้ไขได้ 42.97% 34.29% 33.88% 39.91%
เพราะ ได้รู้ว่าซิมการ์ดนั้นเป็นของใคร,สามารถใช้เป็นหลักฐานในการเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ฯลฯ
อันดับที่ 2 คงแก้ไขไม่ได้ 28.91% 44.09% 32.23% 33.13%
เพราะ มีวิธีการมากมายที่จะก่อการร้าย,คิดว่าไม่เกี่ยวกัน ค่อนข้างทำยาก,มีประชาชนใช้กันมากคงหายาก ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 21.37% 15.56% 28.93% 20.55%
เพราะ มีอีกหลายวิธีที่จะก่อเหตุไม่ใช่แค่เพียงโทรศัพท์อย่างเดียว,บัตรประชาชนสามารถปลอมกันได้ ฯลฯ
อันดับที่ 4 แก้ไขได้แน่นอน 6.40% 6.05% 2.48% 5.96%
เพราะ มีหลักฐานไว้ตรวจสอบได้,เป็นอีกทางหนึ่งในการค้นหาต้นตอของปัญหา,จะได้รู้ว่าการระเบิดเกิดจากที่ไหน ฯลฯ
2. การจัดระเบียบซิมการ์ดเติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตรประชาชนนั้น “เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพ”
ของประชาชนหรือไม่?
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่ริดรอน 64.69% 72.62% 58.68% 66.20%
เพราะ เป็นความมั่นคงของประเทศที่ทุกคนควรช่วยกัน,จะได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน,คงไม่ได้เอาข้อมูลไปทำอะไร ฯลฯ
อันดับที่ 2 ริดรอน 21.37% 15.56% 16.53% 19.43%
เพราะ เป็นการยุ่งยาก ไม่สะดวก,อาจเกิดการดักฟังข้อมูลส่วนตัวและของผู้อื่นที่ไม่ใช่โจรผู้ร้าย,บัตรประชาชนเป็น
สิทธิส่วนบุคคลที่ต้องการหรือไม่ต้องการแสดงให้ใครเห็น ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 13.94% 11.82% 24.79% 14.37%
เพราะ ไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้,บางคนอาจห่วงสิทธิเสรีภาพ แต่ละคนไม่เหมือนกัน,ทำเพื่อความสงบสุข ฯลฯ
3. การจัดระเบียบซิมการ์ดเติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตรประชาชนนั้น เมื่อ “เปรียบเทียบกับการแก้
ปัญหาเพื่อความมั่นคงของประเทศ” แล้วคุ้มค่าหรือไม่?
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 คุ้มค่า 62.06% 60.52% 65.29% 61.95%
เพราะ ทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากขึ้น,เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาได้,สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 23.09% 20.75% 27.27% 22.86%
เพราะ ต้องรอดูผลก่อนว่าจะเป็นอย่างไร,เป็นการยุ่งยากและเสียเวลาหรือเปล่า,ปัญหาทางภาคใต้เป็นเรื่องใหญ่ ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่คุ้มค่า 14.51% 18.16% 7.44% 14.82%
เพราะ ยังมีวิธีอื่นอีกมากที่จะก่อการร้ายได้ไม่ใข่แค่โทรศัพท์อย่างเดียว,ทำให้เกิดความยุ่งยาก,เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ฯลฯ
4. ประชาชน “เห็นด้วย” หรือไม่? กับการจัดระเบียบซิมการ์ดที่เติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตร
ประชาชนก่อน
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 57.83% 61.67% 60.33% 59.05%
เพราะ จะสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใคร,สามารถแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ได้บ้าง ฯลฯ
อันดับที่ 2 เฉยๆ 24.34% 23.63% 34.71% 25.09%
เพราะ ประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอยู่ดี,อาจจะแก้ไขปัญหาได้บางส่วนเท่านั้น ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่เห็นด้วย 17.49% 13.83% 4.96% 15.41%
เพราะ ทำให้เกิดความยุ่งยาก,เป็นการริดรอนสิทธิส่วนบุคคล,เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ฯลฯ
5. ความคิดเห็นกรณี ผู้ที่ซื้อซิมการ์ดแบบเติมเงินไปก่อนหน้านี้จะต้องแสดงบัตรประชาชนภายใน 6 เดือนดังนี้
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วยที่ต้องแสดงภายใน 6 เดือน 40.34% 48.41% 44.63% 42.81%
เพราะ ควรดำเนินการให้เร็วที่สุด,ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเวลา,เป็นเวลาที่เหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่ควรแสดงเลย 38.97% 28.82% 31.40% 35.67%
เพราะ ทำให้เกิดความวุ่นวาย เสียเวลา,ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง,การก่อการร้ายมีอีกหลายวิธีไม่ใช่แค่โทรศัพท์อย่างเดียวฯลฯ
อันดับที่ 3 ควรให้เวลาภายใน 1 ปี 13.71% 10.66% 12.40% 12.81%
เพราะ ประชาชนบางคนอาจยังไม่พร้อม,ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาต้องทำงาน,ให้เวลาในการเตรียมหลักฐาน ฯลฯ
อันดับที่ 4 ควรให้เวลาภายใน 9 เดือน 5.37% 7.78% 9.09% 6.33%
เพราะ ต้องให้เวลากับประชาชนบ้าง,มีผู้ใช้ซิมการ์ดที่เติมเงินมาก ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--
-พห-
ประชาชน เพื่อควบคุมการไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะการจุดชนวนระเบิด เช่น กรณีในภาคใต้ “สวนดุ
สิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพในเขตกรุงเทพฯ และ
ปริมณฑลที่ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ระบบรายเดือนและไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ จำนวนทั้งสิ้น 1,343 คน (ผู้
ที่ใช้โทรศัพท์มือถือระบบ เติมเงิน 875 คน 65.15% ผู้ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน 347
คน 25.84% ผู้ที่ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ 121 คน 9.01%) โดยสำรวจระหว่างวันที่ 18 - 19 เมษายน
2548 สรุปผลได้ดังนี้
1. ความคิดเห็นกรณี การจัดระเบียบซิมการ์ดเติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตรประชาชนนั้น จะสามารถ
แก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในภาคใต้ (โดยเฉพาะกรณีจุดระเบิด) ได้มากน้อยเพียงใด?
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 น่าจะแก้ไขได้ 42.97% 34.29% 33.88% 39.91%
เพราะ ได้รู้ว่าซิมการ์ดนั้นเป็นของใคร,สามารถใช้เป็นหลักฐานในการเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ฯลฯ
อันดับที่ 2 คงแก้ไขไม่ได้ 28.91% 44.09% 32.23% 33.13%
เพราะ มีวิธีการมากมายที่จะก่อการร้าย,คิดว่าไม่เกี่ยวกัน ค่อนข้างทำยาก,มีประชาชนใช้กันมากคงหายาก ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 21.37% 15.56% 28.93% 20.55%
เพราะ มีอีกหลายวิธีที่จะก่อเหตุไม่ใช่แค่เพียงโทรศัพท์อย่างเดียว,บัตรประชาชนสามารถปลอมกันได้ ฯลฯ
อันดับที่ 4 แก้ไขได้แน่นอน 6.40% 6.05% 2.48% 5.96%
เพราะ มีหลักฐานไว้ตรวจสอบได้,เป็นอีกทางหนึ่งในการค้นหาต้นตอของปัญหา,จะได้รู้ว่าการระเบิดเกิดจากที่ไหน ฯลฯ
2. การจัดระเบียบซิมการ์ดเติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตรประชาชนนั้น “เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพ”
ของประชาชนหรือไม่?
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 ไม่ริดรอน 64.69% 72.62% 58.68% 66.20%
เพราะ เป็นความมั่นคงของประเทศที่ทุกคนควรช่วยกัน,จะได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน,คงไม่ได้เอาข้อมูลไปทำอะไร ฯลฯ
อันดับที่ 2 ริดรอน 21.37% 15.56% 16.53% 19.43%
เพราะ เป็นการยุ่งยาก ไม่สะดวก,อาจเกิดการดักฟังข้อมูลส่วนตัวและของผู้อื่นที่ไม่ใช่โจรผู้ร้าย,บัตรประชาชนเป็น
สิทธิส่วนบุคคลที่ต้องการหรือไม่ต้องการแสดงให้ใครเห็น ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่แน่ใจ 13.94% 11.82% 24.79% 14.37%
เพราะ ไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้,บางคนอาจห่วงสิทธิเสรีภาพ แต่ละคนไม่เหมือนกัน,ทำเพื่อความสงบสุข ฯลฯ
3. การจัดระเบียบซิมการ์ดเติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตรประชาชนนั้น เมื่อ “เปรียบเทียบกับการแก้
ปัญหาเพื่อความมั่นคงของประเทศ” แล้วคุ้มค่าหรือไม่?
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 คุ้มค่า 62.06% 60.52% 65.29% 61.95%
เพราะ ทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากขึ้น,เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาได้,สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่แน่ใจ 23.09% 20.75% 27.27% 22.86%
เพราะ ต้องรอดูผลก่อนว่าจะเป็นอย่างไร,เป็นการยุ่งยากและเสียเวลาหรือเปล่า,ปัญหาทางภาคใต้เป็นเรื่องใหญ่ ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่คุ้มค่า 14.51% 18.16% 7.44% 14.82%
เพราะ ยังมีวิธีอื่นอีกมากที่จะก่อการร้ายได้ไม่ใข่แค่โทรศัพท์อย่างเดียว,ทำให้เกิดความยุ่งยาก,เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ฯลฯ
4. ประชาชน “เห็นด้วย” หรือไม่? กับการจัดระเบียบซิมการ์ดที่เติมเงิน โดยผู้ซื้อซิมการ์ดต้องแสดงบัตร
ประชาชนก่อน
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วย 57.83% 61.67% 60.33% 59.05%
เพราะ จะสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใคร,สามารถแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ได้บ้าง ฯลฯ
อันดับที่ 2 เฉยๆ 24.34% 23.63% 34.71% 25.09%
เพราะ ประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอยู่ดี,อาจจะแก้ไขปัญหาได้บางส่วนเท่านั้น ฯลฯ
อันดับที่ 3 ไม่เห็นด้วย 17.49% 13.83% 4.96% 15.41%
เพราะ ทำให้เกิดความยุ่งยาก,เป็นการริดรอนสิทธิส่วนบุคคล,เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ฯลฯ
5. ความคิดเห็นกรณี ผู้ที่ซื้อซิมการ์ดแบบเติมเงินไปก่อนหน้านี้จะต้องแสดงบัตรประชาชนภายใน 6 เดือนดังนี้
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายเดือน ผู้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ภาพรวม
อันดับที่ 1 เห็นด้วยที่ต้องแสดงภายใน 6 เดือน 40.34% 48.41% 44.63% 42.81%
เพราะ ควรดำเนินการให้เร็วที่สุด,ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเวลา,เป็นเวลาที่เหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป ฯลฯ
อันดับที่ 2 ไม่ควรแสดงเลย 38.97% 28.82% 31.40% 35.67%
เพราะ ทำให้เกิดความวุ่นวาย เสียเวลา,ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง,การก่อการร้ายมีอีกหลายวิธีไม่ใช่แค่โทรศัพท์อย่างเดียวฯลฯ
อันดับที่ 3 ควรให้เวลาภายใน 1 ปี 13.71% 10.66% 12.40% 12.81%
เพราะ ประชาชนบางคนอาจยังไม่พร้อม,ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาต้องทำงาน,ให้เวลาในการเตรียมหลักฐาน ฯลฯ
อันดับที่ 4 ควรให้เวลาภายใน 9 เดือน 5.37% 7.78% 9.09% 6.33%
เพราะ ต้องให้เวลากับประชาชนบ้าง,มีผู้ใช้ซิมการ์ดที่เติมเงินมาก ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--
-พห-