สวนดุสิตโพลล์: ครบ 1 เดือน "การสลายการชุมนุม”

ข่าวผลสำรวจ Monday June 21, 2010 07:10 —สวนดุสิตโพล

**หลังจากการสลายการชุมนุมประชาชนเห็นว่า “การเมืองยังเหมือนเดิม ” ไม่ดีขึ้น และ “ไม่แน่ใจ” ว่าการสร้างความปรองดองจะทำได้สำเร็จ

**นักการเมืองต้องลดทิฐิ พบกันคนละครึ่งทาง จึงจะช่วยให้การเมืองดีขึ้น !!!

นับจากเหตุความรุนแรงเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ผ่านมาครบ 1 เดือน มีประชาชนจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงไปร่วมทำบุญใหญ่กันที่วัดปทุมวนารามเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ในขณะที่ด้านนายกฯ อภิสิทธิ์ก็เร่งดำเนินการหาแนวทางสร้างความปรองดอง และแผนปฏิรูปประเทศที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้เป็นรูปธรรมชัดเจน โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน และนายแพทย์ประเวศ วะสี เข้าร่วมการปฏิรูปครั้งนี้ จนเป็นประเด็นที่สังคมต่างให้ความสนใจและติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นจากประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,274 คน ระหว่างวันที่ 16-19 มิถุนายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้

1. หลังจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมผ่านมาเป็นเวลา 1 เดือน ประชาชนคิดว่า “สภาพความขัดแย้ง” เป็นอย่างไร?
อันดับ 1          เหมือนเดิม                    48.28%

เพราะ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาจากที่คนบางกลุ่มมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ,ปัญหาต่างๆหรือข้อกังขาที่มีขึ้นยังไม่ได้รับการชี้แจงหรือคลี่คลายให้หมดไป ฯลฯ

อันดับ 2          ดีขึ้น                        39.65%

เพราะ ที่ผ่านมาคนไทยทุกคนต่างได้รับบทเรียนครั้งใหญ่ ทำให้คนไทยหวังที่จะเห็นความสงบสุขของบ้านเมืองเกิดขึ้นอีกครั้ง ฯลฯ

อันดับ 3          แย่ลง                       12.07%

เพราะ สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ในขณะนี้ยังมองไม่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน บางฝ่ายยังมองว่าเป็นสองมาตรฐานอยู่ ฯลฯ

2. หลังจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมผ่านมาเป็นเวลา 1 เดือน ประชาชนคิดว่า “สภาพการเมืองไทย” เป็นอย่างไร?
อันดับ 1          เหมือนเดิม                   66.93%

เพราะ นักการเมืองเหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมา ,การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ฯลฯ

อันดับ 2          แย่ลง                       22.81%

เพราะ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมที่จะลดราวาศอกกัน ดูเหมือนยังเล่นเกมการเมืองกันอยู่ ฯลฯ

อันดับ 3          ดีขึ้น                        10.26%

เพราะ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนครั้งสำคัญต่อทุกคน คงไม่มีใครอยากเห็นบ้านเมืองและคนไทยต้องบอบช้ำอีก ,ไม่มีการชุมนุมเกิดขึ้นให้เห็น ฯลฯ

3. จากที่ฝ่ายต่างๆพยายามจะสร้างความปรองดองอยู่ในขณะนี้ ประชาชนคิดว่าจะสมหวังมากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1          ไม่แน่ใจ                     34.48%

เพราะ กลัวเป็นเพียงแค่กระแสระยะสั้นๆ ที่รัฐบาลใช้ในการสร้างคะแนนนิยม ,ที่ผ่านมาทุกคนต่างได้รับบทเรียนและผลกระทบมากมาย ,การสร้างความปรองดองต้องใช้เวลานาน และอาศัยการปลูกฝังจิตสำนึกตั้งแต่วัยเยาว์ ฯลฯ

อันดับ 2          น่าจะสมหวัง                  25.86%

เพราะ จากกระแสข่าวในช่วงนี้เห็นได้ว่าทุกฝ่ายต้องการที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น ,มีทั้งบุคคลภายนอกที่เข้ามาช่วยและอีกหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนที่เต็มใจให้ความร่วมมือ ฯลฯ

อันดับ 3          คงไม่สมหวัง                  20.69%

เพราะ การเปลี่ยนความคิดของแต่ละบุคคลเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะนักการเมือง ,มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลพยายามจะสร้างความปรองดอง ฯลฯ

อันดับ 4          ไม่สมหวังแน่นอน               15.52%

เพราะ ไม่เชื่อว่าการปรองดองจะเกิดขึ้นได้จริง ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าแต่ละฝ่ายมีความขัดแย้งที่ร้าวลึก ยากที่จะประสานให้ดีกันได้ ฯลฯ

อันดับ 5          สมหวังแน่นอน                  3.45%

เพราะ เชื่อว่าคนไทยทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข รัฐบาลได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะสร้างความปรองดองและสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ฯลฯ

4. ทำอย่างไร? ความปรองดองของคนในชาติจึงจะเกิดขึ้นได้ตามความคาดหวังของประชาชน
อันดับ 1          คนในชาติต้องสมัครสมานสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันที่จะฟื้นฟูประเทศ                                   34.62%
อันดับ 2          นักการเมืองทุกคนต้องลดทิฐิ ไม่มีอคติต่อกัน /ยอมพบกันคนละครึ่งทาง                                  27.18%
อันดับ 3          การรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนตัดสินใจในเรื่องสำคัญ   16.48%
อันดับ 4          การแก้ปัญหาความยากจน / ลดช่องว่างระหว่างคนรวย-คนจน /ในเมือง-ชนบท                          16.07%
อันดับ 5          ต้องเริ่มจากตัวเองก่อน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและลุกขึ้นมาเริ่มต้นทำสิ่งดีๆเพื่อส่วนรวม                          5.65%

5. ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการปรองดอง  คือ
อันดับ 1          การแตกแยกทางความคิด / ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มองคนละมุม          57.78%
อันดับ 2          ความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหา / การปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ         18.63%
อันดับ 3          ความเหลื่อมล้ำในสังคม  / ไม่ได้รับความยุติธรรม                      12.57%
อันดับ 4          การไม่เคารพกฎหมายและกติกาของสังคม                             11.02%

6. บุคคลใดหรือหน่วยงานใด? ที่จะช่วยให้มีความสมหวังในเรื่องของความปรองดอง
อันดับ 1          นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล                                         41.33%
อันดับ 2          นักการเมือง                                                  35.61%
อันดับ 3          คนไทยทุกคน                                                  13.27%
อันดับ 4          นายอานันท์ ปันยารชุน และ นายแพทย์ประเวศ วะสี                      4.99%
อันดับ 5          สื่อมวลชน                                                     4.80%

--สวนดุสิตโพล--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ