สวนดุสิตโพลล์: "ระเบิดหน้าพรรคภูมิใจไทย” กับ "การเมืองไทย”

ข่าวผลสำรวจ Monday June 28, 2010 07:22 —สวนดุสิตโพล

** จากเหตุการณ์ระเบิด ประชาชน 75.68% เชื่อว่ามีการเมืองเกี่ยวข้อง / 60.53% คิดว่าจะไม่ได้ตัวผู้อยู่เบื้องหลัง และส่งผลต่อการปรองดองทางการเมือง **

จากเหตุการณ์ระเบิดหน้าพรรคภูมิใจไทย ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจ และท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่เกิดขึ้นยังอยู่ระหว่างที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง และมีแนวโน้มว่าความรุนแรงจะยังคงมีต่อไป “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จำนวนทั้งสิ้น 1,266 คน ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้

1. ความคิดเห็นของประชาชน กับ เหตุการณ์ระเบิดที่หน้าพรรคภูมิใจไทย

อันดับ 1          เป็นการกระทำที่อุกอาจ รุนแรง หวังที่จะเอาชีวิต /ท้าทายกฎหมายบ้านเมือง               34.29%
อันดับ 2          มาจากความขัดแย้งทางการเมือง / มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง                    30.86%
อันดับ 3          แสดงให้เห็นว่าบ้านเมืองของเรายังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ / ความขัดแย้งต่าง ๆ
                ยังคงมีอยู่และอาจรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก                                              21.77%
อันดับ 4          เป็นการสร้างสถานการณ์ /ต้องการข่มขู่หรือส่งสัญญาณเตือนถึงอะไรบางอย่าง               13.08%

2. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบอะไรบ้าง?
อันดับ 1          ส่งผลให้การเมืองไทยร้อนแรงมากขึ้น                                            37.61%
อันดับ 2          ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐบาล                                 31.05%
อันดับ 3          สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชน  เกรงว่าจะได้รับอันตรายและไม่มีความปลอดภัย         16.44%
อันดับ 4          ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติในเรื่องของความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน      14.90%

3. จากเหตุการณ์ระเบิดที่หน้าพรรคภูมิใจไทย ประชาชนคิดว่ามีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่?
อันดับ 1          มี เรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง                        75.68%

เพราะ มีปมหรือประเด็นทางการเมืองที่สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ,มาจากเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่แน่ใจ                                           18.91%

เพราะ อาจเป็นมือที่สามที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย ฯลฯ

อันดับ 3          ไม่มี เรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง                       5.41%

เพราะ อาจจะมีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัว เรื่องธุรกิจ ผลประโยชน์ / ไม่ทราบข้อมูล-สาเหตุที่แท้จริง ฯลฯ

4. ประชาชนคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถดำเนินคดี /จับกุมผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริงได้หรือไม่?
อันดับ 1          ไม่ได้                                            60.53%

เพราะ มีหลายคดีที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันแต่ก็เงียบหายไป , ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะเป็นพวกมีสีหรือมีอิทธิพล ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่แน่ใจ                                          31.58%

เพราะ อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่มากกว่านี้ ,ขึ้นอยู่กับการเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ

อันดับ 3          ได้                                              7.89%

เพราะ เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและควรแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ

5. รัฐบาลควรมีวิธีการหรือหาแนวทางป้องกันอย่างไร?
อันดับ 1          เร่งจับตัวผู้กระทำความผิดเพื่อนำตัวมาสืบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย                        43.26%
อันดับ 2          รัฐบาลเองต้องเร่งแก้ปัญหาต่างๆให้ยุติลงโดยเร็ว                                        30.07%
อันดับ 3          หน่วยข่าวกรองต้องสืบหาข้อเท็จจริงและมีการข่าวที่แม่นยำเพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุร้ายที่อาจมีขึ้น     17.35%
อันดับ 4          ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนให้ช่วยเป็นหูเป็นตา ดูแลสอดส่องสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล              9.32%

6. จากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ควรจะมีการยืด พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่
อันดับ 1          ควร                                            42.11%

เพราะ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน อุทาหรณ์ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น ง่ายต่อการควบคุมดูแล ฯลฯ

อันดับ 2          ไม่ควร                                          39.47%

เพราะ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรงถึงกับต้องประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน , กระทบต่อภาพลักษณ์และสังคมโดยรวม ฯลฯ

อันดับ 3          ไม่แน่ใจ                                         18.42%

เพราะ ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ระเบิด ฯลฯ

7. การประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินมีผลต่อการเลือกตั้งซ่อม เขต 6 กทม. ที่จะมีขึ้น หรือไม่?
อันดับ 1          ไม่มีผล                                          44.73%

เพราะ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนว่าจะเลือกใคร? , หากทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไร ฯลฯ

อันดับ 2          มีผล                                            38.47%

เพราะ มีผลกระทบต่อการลงพื้นที่หาเสียง , มีกฎ ข้อบังคับหลายอย่างที่ผู้สมัครอาจไม่ได้รับความสะดวกในการหาเสียง ฯลฯ

อันดับ 3          ไม่แน่ใจ                                         16.80%

เพราะ ยังไม่รู้ว่าในช่วงที่มีการเลือกตั้งจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง คงต้องรอดูต่อไป ฯลฯ

8. จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อแผนการสร้างความปรองดองหรือไม่?
อันดับ 1          ส่งผล                                           56.26%

เพราะ อาจถูกนำมาใช้เป็นประเด็นโจมตีกัน ก่อให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความปรองดองยากขึ้นฯลฯ

อันดับ 2          ไม่ส่งผล                                         27.95%

เพราะ ไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกัน , ที่ผ่านมาก็ไม่สามารถปรองดองหรือหาข้อยุติลงได้ ฯลฯ

อันดับ 3          ไม่แน่ใจ                                         15.79%

เพราะ แผนสร้างความปรองดองยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ฯลฯ

--สวนดุสิตโพล--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ