** จากผลชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชน “ไม่แน่ใจ” ว่า คนกรุงเทพฯ ชื่นชอบ“รัฐบาลอภิสิทธิ์” ถ้ามีการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า คนกรุงเทพฯ จะเลือก “พรรคประชาธิปัตย์” และขอให้ทั้ง 2 พรรคทำหน้าที่ให้ดีที่สุด !!!
จากที่นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 6 โดยมีคะแนนห่างนายก่อ แก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครหมายเลข 4 จากพรรคเพื่อไทย แค่ 96,480 ต่อ 81,776 คะแนน ทำให้ผลที่ออกมาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดานัก วิชาการและประชาชนผู้ที่สนใจติดตามการเมืองโดยทั่วกัน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชน ในกรุงเทพฯ ต่อ ควันหลง “เลือกตั้งซ่อม” ส.ส. กทม.เขต 6 จำนวน 1,018 คน หลังจากปิดหีบเลือกตั้งและรู้ผล EXIT POLL ในวันที่ 25- 26 กรกฎาคม 2553 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 เป็นไปตามที่คาดไว้เนื่องจากผู้สมัครมีความพร้อมในทุกๆด้านและยังได้รับการสนับสนุนจากนายกฯ 40.32% อันดับ 2 ถึงนายพนิชจะชนะ แต่คะแนนทิ้งห่างกันไม่มาก /การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ควรประมาท 29.94% อันดับ 3 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีกำลังใจและมีการเตรียมพร้อมมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า 20.56% อันดับ 4 การเลือกตั้งครั้งนี้ยังพบเห็นสิ่งผิดปกติอยู่บ้าง เช่น แจกข้าวสาร เป็นต้น 9.18% 2. จากผลชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าประชาชนนิยมชมชอบ“พรรคประชาธิปัตย์” ใช่หรือไม่? อันดับ 1 ใช่ 38.95%
เพราะ จากผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าคนกรุงเทพฯยังคงให้ความนิยมพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 33.68%
เพราะ ดูจากจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์น้อยเกินไป ,การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอาจเป็นอุปสรรคแก่ผู้สมัครคนอื่นๆ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ใช่ 27.37%
เพราะ เป็นแค่เพียงการเลือกตั้งซ่อมเขตเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด , ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 37.50%
เพราะ เป็นเรื่องปกติที่พรรคใดชนะก็จะเหมารวมว่าประชาชนชื่นชอบ ,ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ฯลฯ
อันดับ 2 ใช่ 32.18%
เพราะ หากประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครคนใดก็เลือก ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ใช่ 30.32%
เพราะ อาจพิจารณาจากคุณสมบัติ หรือผลงานของตัวผู้สมัครเอง ฯลฯ
อันดับ 1 พรรคประชาธิปัตย์ 38.54%
เพราะ มาจากความนิยมชมชอบในตัวนายกฯอภิสิทธิ์และผลงานของรัฐบาลที่ทำไว้ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 27.05%
เพราะ ต้องรอดูนโยบาย ตัวผู้สมัครและการหาเสียงของพรรคก่อน ฯลฯ
อันดับ 3 พรรคเพื่อไทย 22.91%
เพราะ ได้คะแนนสงสารเห็นใจจากประชาชน ,พรรคเพื่อไทยยังคงมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบเดิมอยู่ไม่น้อย ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่เลือกทั้ง 2 พรรค 11.50%
เพราะ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองทำให้ประชาชนบางคนอยากลองเลือกผู้สมัครหน้าใหม่ๆ ดูบ้าง ฯลฯ
อันดับ 1 ยังคงขัดแย้งเหมือนเดิม 63.16%
เพราะ เป็นความขัดแย้งที่สะสมมานาน ,ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ,เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 16.84%
เพราะ ขึ้นอยู่กับผู้นำของทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะมีความเห็นอย่างไร? ฯลฯ
อันดับ 3 ความขัดแย้งลดลง 11.58%
เพราะ ยิ่งขัดแย้งกันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้บ้านเมืองเสียหาย ,ไม่เป็นผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย ฯลฯ
อันดับ 4 ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น 8.42%
เพราะ เป็นการเพิ่มความไม่พอใจให้กับพรรคเพื่อไทยมากขึ้น , ผู้ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอาจไม่ยอมรับผลครั้งนี้ฯลฯ
อันดับ 1 ขอให้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนที่เลือกเข้ามา 44.63% อันดับ 2 อยากให้บริหารบ้านเมืองให้ดีขึ้นโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ /ปากท้องของประชาชน 31.16% อันดับ 3 อยากเห็นนักการเมืองมีความสามัคคี ปรองดอง 24.21% 7. สิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอก “พรรคเพื่อไทย” คือ อันดับ 1 ขอให้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ /เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง 38.02% อันดับ 2 อยากเห็นนักการเมืองมีความสามัคคี ปรองดอง 35.71% อันดับ 3 ปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายค้านให้ดีที่สุด /ตรวจสอบการทำงานอย่างตรงไปตรงมา 26.27%
--สวนดุสิตโพล--