รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดีและประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต เปิดเผยว่า ในสภาพปัจจุบันการที่จะทำให้องค์กรหรือหน่วยงานทางการศึกษาเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการวัดความรู้เป็นเครื่องมือ แต่ว่าปัญหา อุปสรรคที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การแสวงหารูปแบบของการจัดการความรู้ที่เป็นรูปธรรม และตัวอย่างในการดำเนินงานที่เกิดผลอย่างชัดเจน ที่จะทำให้การจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ ยังค่อนข้างสับสน เพื่อแสวงหาแนวทางในการใช้การจัดการความรู้ (KM) เป็นเครื่องมือที่ก่อให้เกิดผลโดยตรงต่อการพัฒนาองค์กรและหน่วยงานการศึกษาซึ่งจะเป็นแรงส่งให้การปฏิรูปการศึกษา รอบที่ 2 เกิดผล สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของประเทศ จำนวน 406 คน สำรวจระหว่างวันที่ 21-24 กรกฎาคม 2553 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 ผู้นำองค์กรต้องมีวิสัยทัศน์ มีความคิดริเริ่มและถ่ายทอดความคิดไปยังลูกน้องให้เข้าใจตรงกัน 31.04% อันดับ 2 ต้องมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน 26.21% อันดับ 3 ขอคำแนะนำปรึกษา หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ /ผู้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆให้ชัดเจนและเข้าใจ 17.56% อันดับ 4 ศึกษาดูงานพร้อมทั้งค้นคว้าข้อมูลจากสื่อทุกประเภท เช่น เว็บไซต์ นสพ. เอกสารตำรา เป็นต้น 13.30% อันดับ 5 สื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอก /สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง 11.89% 2. ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจากการใช้ (KM) เป็นเครื่องมือ คือ อันดับ 1 มีภาพลักษณ์ดี มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ และเป็นต้นแบบแห่งการเรียนรู้ 35.27% อันดับ 2 ได้ทีมงานที่เข้มแข็ง /บุคลากรที่มีคุณค่า คุณภาพ และมีทักษะในการทำงาน /บรรยากาศการทำงานที่ดี 21.63% อันดับ 3 ได้รับโอกาส ความร่วมมือ และการสนับสนุนที่ไม่ใช่ตัวเงิน หรืองบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติม 20.80% อันดับ 4 เป็นกำลังใจในการพัฒนาองค์กรและหน่วยงานการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น 12.54% อันดับ 5 สามารถแปลงความสำเร็จที่ได้รับให้ออกมาในรูปของคู่มือ เอกสารตำรา หรือโมเดล 9.76%
--สวนดุสิตโพล--