**ประชาชนยังระแวงเรื่องของการปรองดอง “ไม่แน่ใจ” ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาหรือว่าเป็นเกมการต่อรองทางการเมือง!!!
จากที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนในชาติ 5 ข้อ ที่จะให้เกิดความปรองดอง โดยพร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่เพื่อต้องการเห็นบ้านเมืองเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย แต่ก็มีบางกระแสออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้ว่า การออกมาแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยจะเป็นการต่อรองทางการเมืองหรือไม่ และข้อเสนอทั้ง 5 ข้อนี้จะสามารถปฏิบัติได้จริงและเป็นรูปธรรมขึ้นได้มากน้อยเพียงใด “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,296 คน ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้
อันดับ 1 เห็นด้วย 58.49%
เพราะ ถือเป็นสัญญาณที่ดีทางการเมืองที่มีการเสนอแนวทางเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ,เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ,อยากเห็นรัฐบาลกับฝ่ายค้านร่วมมือกัน ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 22.01%
เพราะ ต้องรอดูท่าทีของทั้ง 2 ฝ่ายต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ,ยังไม่มีการพูดคุยหรือตกลงกันอย่างชัดเจน ,เป็นเพียงการออกมาแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยเพียงฝ่ายเดียว ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เห็นด้วย 19.50%
เพราะ จากคำแถลงการณ์อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอยู่ , อาจเป็นเกมทางการเมืองอย่างหนึ่ง ฯลฯ
อันดับ 1 เป็นการส่งสัญญาณที่ดีที่อาจจะนำไปสู่ความสามัคคี ปรองดองในบ้านเมือง 39.61% อันดับ 2 คงต้องรอดูต่อไปเพราะไม่อยากจะคาดหวังอะไรกับนักการเมืองมากนัก 31.69% อันดับ 3 คิดว่าการออกมาแถลงการณ์ครั้งนี้อาจมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง 17.84% อันดับ 4 รู้สึกดีใจและมีความหวังที่จะได้เห็นนักการเมืองมาช่วยกันทำในสิ่งดี ๆให้กับบ้านเมือง 10.86% 3. จากที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ถึงแนวทางเพื่อสร้างความปรองดอง ประชาชนคิดว่าเป็นเกมการต่อรองทางการเมืองหรือไม่? อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 39.21%
เพราะ ไม่รู้ว่าสมาชิกของพรรคเพื่อไทยทุกคนจะเห็นด้วยกับนายปลอดประสพ ที่ออกมาพูดในครั้งนี้หรือไม่ , เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของการสร้างกระแสที่อยากเห็นความปรองดองอีกครั้งของพรรคฝ่ายค้าน ฯลฯ
อันดับ 2 เป็นเกมการต่อรองทางการเมือง 36.93%
เพราะ จากแนวทางทั้ง 5 ข้อ มีบางประเด็นที่ดูเหมือนว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลบางกลุ่ม , คิดว่าน่าจะมี เบื้องหน้าเบื้องหลังอยู่ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เป็นเกมการต่อรองทางการเมือง 23.86%
เพราะ คิดว่าเป็นการแถลงออกมาด้วยความจริงใจ และตั้งใจจริงที่จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ,ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบทเรียนจากการกระทำที่ผ่านมา ทำให้ประเทศชาติและประชาชนต้องได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 37.72%
เพราะ เป็นเพียงการออกมาพูดของผู้ใหญ่ในพรรคแต่สมาชิกภายในพรรคก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ,การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ไม่มีอะไรแน่นอน ฯลฯ
อันดับ 2 สามารถปฏิบัติได้ 32.57%
เพราะ ถ้านักการเมืองทุกคนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความบริสุทธิ์ใจ จริงใจที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆให้ดีขึ้นได้ , เป็นเรื่องดีที่สังคมต่างเฝ้ารอและอยากเห็นเป็นรูปธรรม ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ได้ 29.71%
เพราะ จากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ผ่านมาไม่น่าจะทำได้จริง ,ส.ส.บางคนอาจไม่เห็นด้วย ควบคุมยาก ฯลฯ
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 46.55%
เพราะ สถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่แน่นอน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ฯลฯ
อันดับ 2 แก้ปัญหาทางการเมืองได้ 32.76%
เพราะ ถ้านักการเมืองปฏิบัติตามข้อเสนอทั้ง 5 ข้อได้ ทุกฝ่ายก็จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ,การบริหารบ้านเมืองก็จะเป็นไปได้ด้วยดี ฯลฯ
อันดับ 3 แก้ปัญหาทางการเมืองไม่ได้ 20.69%
เพราะ เป็นเรื่องยากที่จะทำได้ ,สมาชิกภายในพรรคอาจมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ,ที่ผ่านมาเกิดปัญหามากมายยากที่จะประสานให้ดีได้ ฯลฯ
--สวนดุสิตโพลล์--