ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สข/น. 2/2550
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน
(ฉบับที่ 4)
___________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 141(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกอบกับข้อ 18(6) และข้อ 19 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. 30/2547 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุน ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2547 สำนักงานออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 11/1 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 1/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 7/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 11/1 ความในส่วนนี้ให้ใช้บังคับเฉพาะกับกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) แต่ไม่รวมถึงกองทุนรวมดังต่อไปนี้
(1) กองทุนรวมวายุภักษ์
(2) กองทุนรวมตราสารแห่งทุนซึ่งมิใช่กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ
(3) กองทุนรวมตลาดเงินที่โครงการจัดการกองทุนรวมดังกล่าวกำหนดการดำรงอายุถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักของกระแสเงินที่จะได้รับจากทรัพย์สินที่กองทุนรวมลงทุนไว้ (portfolio duration) ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกินหกเดือน ซึ่งมีผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันใดถือหน่วยลงทุนไม่เกินร้อยละห้าสิบของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด”
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 11/4 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 1/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 7/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 11/4 ในกรณีของกองทุนรวมที่จดทะเบียนกองทุนรวมอยู่แล้วก่อนวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 หากในวันดังกล่าวกองทุนรวมมีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันใดถือหน่วยลงทุนเกินกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวมนั้น บริษัทจัดการกองทุนรวมไม่ต้องดำเนินการตามข้อ 11/2 และข้อ 11/3 สำหรับการถือหน่วยลงทุนที่เกินอัตราส่วนในกรณีนั้น แต่ให้ดำเนินการตามข้อ 11/5 แทน”
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 11/5 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 1/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 7/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 11/5 ในกรณีที่กองทุนรวมใดที่จดทะเบียนกองทุนรวมอยู่แล้วก่อนวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 หากในวันดังกล่าวกองทุนรวมมีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันใดถือหน่วยลงทุนเกินกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวมนั้น ให้บริษัทจัดการ
กองทุนรวมดำเนินการสำหรับการถือหน่วยลงทุนที่เกินอัตราส่วนในกรณีดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) รายงานให้สำนักงานทราบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวภายในสามสิบวันนับแต่วันที่14 มีนาคม พ.ศ. 2549 โดยให้ระบุชื่อกองทุนรวม รายชื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันที่ถือหน่วยลงทุนเกินกว่าอัตราดังกล่าว และจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลนั้นถือไว้ และ
(2) ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ 14 มีนาคม พ. ศ. 2549
(ก) เสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติม หรือควบกองทุนรวมหรือรวมกองทุนรวมดังกล่าว เพื่อให้อัตราการถือหน่วยลงทุนของ
บุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันดังกล่าวไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวม
นั้น
(ข) เลิกกองทุนรวมนั้น
(ค) ดำเนินการอื่นใดโดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน”
ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 11/6 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 1/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 7/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 11/6 การดำเนินการตามข้อ 11/5 มิให้นำมาใช้ หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) การดำเนินการตามข้อ 11/5(2) มิให้นำมาใช้ หากการถือหน่วยลงทุนเกินอัตราตามกรณีที่กำหนดในข้อ 11/5 เป็นกรณีที่เข้าข้อยกเว้นตามข้อ 14(2)(ก) หรือ (ข) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดตั้งกองทุนรวมและการเข้าทำสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคล
(2) การดำเนินการตามข้อ 11/5(2) มิให้นำมาใช้ หากการถือหน่วยลงทุนเกินอัตราตามกรณีที่กำหนดในข้อ 11/5 เป็นกรณีที่เข้าข้อยกเว้นตามข้อ 14(2)(ค) หรือ (ง) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดตั้งกองทุนรวมและการเข้าทำสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคล และโครงการของกองทุนรวมมีข้อกำหนดให้บริษัทจัดการกองทุนรวมไม่ต้องนับคะแนนเสียงในส่วนที่เกินกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด รวมในจำนวนเสียงในการขอมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนในเรื่องใด ๆ
(3) การดำเนินการตามข้อ 11/5 ทั้งกรณีตาม (1) และ (2) มิให้นำมาใช้กับกองทุนรวมที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
(ก) เป็นกองทุนรวมปิดที่กำหนดวันสิ้นอายุโครงการไว้อย่างแน่นอนโดยไม่มีการแก้ไขอายุโครงการหรือมีการแปลงสภาพ
เป็นกองทุนรวมเปิด
(ข) เป็นกองทุนรวมเปิดที่ไม่มีการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมอีก
(ค) เป็นกองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนในต่างประเทศ”
ข้อ 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (5) ของวรรคหนึ่งของข้อ 82 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 1/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
“(5) มีการขายคืนหน่วยลงทุนโดยบุคคลที่ถือหน่วยลงทุนเกินกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลตามข้อยกเว้นตามข้อ 14(2)(ข)(ค) และ (ง) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดตั้งกองทุนรวมและการเข้าทำสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีการขายคืนหน่วยลงทุนรวมกันเป็นจำนวนเกินกว่าสองในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนใด”
ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 83 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 1/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 83 เมื่อปรากฏกรณีตามข้อ 82 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ยุติการรับคำสั่งซื้อและคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนตั้งแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(1) หรือตั้งแต่วันทำการที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(2)(3)(4) หรือ (5)
(2) แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนทราบโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียน รวมทั้งแจ้งเป็นหนังสือให้สำนักงานทราบด้วยทั้งนี้ภายในสามวันทำการนับแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(1) หรือนับแต่วันทำการที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(2)(3)(4) หรือ (5)
(3) จำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของกองทุนเปิดดังกล่าวภายในห้าวันทำการนับแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(1) หรือนับแต่วันทำการที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(2) (3)(4) หรือ (5)เพื่อรวบรวมเงินเท่าที่สามารถกระทำได้เพื่อชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ
(4) ชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนตามสัดส่วนจำนวนเงินที่รวบรวมได้ตาม (3) ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนภายในสิบวันทำการนับแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(1) หรือวันทำการที่ปรากฏกรณีตามข้อ 82(2)(3)(4) หรือ (5) และเมื่อได้ดำเนินการชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนแล้วให้ถือว่าเป็นการเลิกกองทุนรวมเปิดนั้น
เมื่อได้ดำเนินการตาม (1) ถึง (4) แล้ว หากมีหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินคงเหลืออยู่จากการดำเนินการตาม (3) ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการชำระบัญชีของกองทุนรวม”
ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 104 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข/น. 1/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 104 เมื่อปรากฏกรณีตามข้อ 103 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ยุติการรับคำสั่งซื้อและคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนตั้งแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(1) หรือตั้งแต่วันทำการที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(2)(3) หรือ (4)
(2) แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนทราบว่าบริษัทจะดำเนินการการโอนย้ายการลงทุนตามข้อ 101 และดำเนินการตามข้อ 104 โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนรวมทั้งแจ้งเป็นหนังสือให้สำนักงานทราบ ทั้งนี้ ภายในสามวันทำการนับแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(1) หรือนับแต่วันทำการที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(2)(3) หรือ (4)
(3) จำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของกองทุนรวมดังกล่าวภายในห้าวันทำการนับแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(1) หรือนับแต่วันทำการที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(2)(3) หรือ (4) เพื่อรวบรวมเงินเท่าที่สามารถกระทำได้และชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มิได้แสดงเจตนาโอนย้ายการลงทุนไปยังกองทุนรวมหุ้นระยะยาวอื่นโดยอัตโนมัติ
(4) ชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มิได้แสดงเจตนาโอนย้ายการลงทุนไปยังกองทุนรวมหุ้นระยะยาวอื่นตามสัดส่วนจำนวนเงินที่รวบรวมได้ตาม (3) ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนภายในห้าวันทำการนับแต่วันทำการที่ห้าที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(1) หรือภายในสิบวันทำการนับแต่วันทำการที่ปรากฏเหตุตามข้อ 103(2)(3) หรือ (4) และเมื่อได้ดำเนินการชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนแล้วให้ถือว่าเป็นการเลิกกองทุนรวมนั้น
เมื่อได้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งแล้ว หากมีหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินคงเหลืออยู่จากการดำเนินการตาม (3) ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการชำระบัญชีของกองทุนรวม”
ข้อ 8 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หมายเหตุ : เหตุผลในการออกประกาศฉบับนี้ คือ เพื่อเพิ่มเติมประเภทกองทุนรวมที่ได้รับยกเว้นไม่นำหลักเกณฑ์ตามส่วนที่ 1 ของหมวด 2 เรื่อง
การถือหน่วยลงทุนเกินหนึ่งในสาม มาใช้บังคับ และปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับหลักปฏิบัติในเรื่องการถือหน่วยลงทุนเกิน
หนึ่งในสามสำหรับกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นก่อนวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 ตลอดจนเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ที่จะช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนราย
ย่อยของกองทุนรวมเปิดได้รับความเป็นธรรมเมื่อมีการขายคืนหน่วยลงทุนของผู้ลงทุนรายที่ถือหน่วยลงทุนเกินว่าหนึ่งในสามของจำนวน
หน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินการเลิกกองทุนรวมเพื่อให้ชัดเจนและปฏิบัติได้