ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กน. 1 /2554
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการกู้ยืมเงิน
ในนามของกองทุนรวมและการก่อภาระผูกพันแก่
ทรัพย์สินของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
_____________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 126(5) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2546 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 มาตรา 44 และ มาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การกู้ยืมเงิน
(2) การก่อภาระผูกพันแก่ทรัพย์สินของกองทุนรวม
ข้อ 2 ในประกาศนี้ คำว่า “บริษัทจัดการ” “กองทุนรวม” “หนังสือชี้ชวน”
“ทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน” “โครงการที่ไม่แล้วเสร็จ” “โครงการที่แล้วเสร็จ” “หน่วยลงทุนคล้ายหนี้” และ “หน่วยลงทุนคล้ายทุน” ให้มีความหมายเช่นเดียวกับบทนิยามของคำดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
“บริษัทย่อย” หมายความว่า บริษัทที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
(1) มีกองทุนรวมเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้าของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทนั้น และเกินกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้าของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น และ
(2) ลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
ข้อ 3 บริษัทจัดการจะกู้ยืมเงินในนามของกองทุนรวมได้ ต่อเมื่อได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ในโครงการจัดการกองทุนรวมและหนังสือชี้ชวนแล้ว และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) เป็นการกู้ยืมเงินเพื่อดำเนินการตามข้อ 4
(2) ผู้ให้กู้ยืมต้องไม่ใช่ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวม
(3) อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกองทุนรวมต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ 5
ข้อ 4 บริษัทจัดการจะกู้ยืมเงินเพื่อกองทุนรวมได้ เฉพาะเพื่อการดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) การได้มาซึ่งทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน
(2) การก่อสร้าง ต่อเติม หรือพัฒนาทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นโครงการไม่แล้วเสร็จให้เป็นโครงการแล้วเสร็จ
(3) การปรับปรุงทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนรวมลงทุนให้มีความเหมาะสมต่อการจัดหาผลประโยชน์
(4) การชำระหนี้กู้ยืมเงินหรือภาระผูกพันที่กองทุนรวม หรือที่กิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนรวมลงทุน ได้ก่อภาระหนี้ไว้เพื่อใช้ในการดำเนินการ (1) (2) หรือ (3) (refinance)
(5) กรณีอื่นใดตามที่สำนักงานประกาศกำหนด
ข้อ 5 กองทุนรวมต้องมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เกินกว่าสามเท่า เว้นแต่การเกินอัตราส่วนดังกล่าวมิได้เกิดจากการกู้ยืมเงินเพิ่มเติม หรือออกหน่วยลงทุนคล้ายหนี้เพิ่มเติม
การคำนวณอัตราส่วนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) กรณีที่กองทุนรวมมีการแบ่งชนิดของหน่วยลงทุนเป็นหน่วยลงทุนคล้ายหนี้และหน่วยลงทุนคล้ายทุน ให้คิดส่วนของหนี้จากผลรวมของมูลค่าเงินกู้ยืมและจำนวนเงินทุนที่ชำระแล้วของหน่วยลงทุนคล้ายหนี้ และคิดส่วนของทุนจากจำนวนเงินทุนที่ชำระแล้วของหน่วยลงทุนคล้ายทุน
(2) กรณีที่กองทุนรวมลงทุนในหุ้นของบริษัทย่อย ให้คำนวณส่วนของหนี้สินและส่วนของทุนของบริษัทย่อยตามหลักการจัดทำงบการเงินรวม (consolidated basis) รวมในอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกองทุนรวมด้วย
ข้อ 6 บริษัทจัดการต้องดำเนินการเพื่อให้มีการจำกัดความรับผิดตามสัญญากู้ยืมเงินตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) จัดให้มีข้อตกลงในสัญญากู้ยืมเงินที่แสดงว่า กองทุนรวมมีความรับผิดตามสัญญากู้ยืมเงินไม่เกินกว่ามูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม
(2) ข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนกับบริษัทจัดการต้องไม่มีข้อกำหนดดังต่อไปนี้
(ก) ข้อกำหนดที่แสดงว่า กองทุนรวมมีสิทธิเรียกให้ผู้ถือหน่วยลงทุนคืนเงินทุนหรือผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับไว้แล้วโดยชอบให้แก่กองทุนรวม ไม่ว่าด้วยเหตุใด
(ข) ข้อกำหนดที่แสดงว่า ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องรับผิดในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้สัญญาที่ทำขึ้นระหว่างกองทุนรวมกับบุคคลภายนอก
ข้อ 7 บริษัทจัดการอาจนำทรัพย์สินของกองทุนรวมไปเป็นหลักประกันการชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินที่กองทุนรวมเข้าทำสัญญาตามประกาศนี้
ข้อ 8 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554
(นายวิจิตร สุพินิจ)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
กิจการโครงสร้างพื้นฐาน ก่อสร้าง ต่อเติมหรือพัฒนาทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จ ปรับปรุงทรัพย์สินกิจการโครงสร้าง
พื้นฐาน หรือชำระหนี้เงินกู้ที่กองทุนรวมกู้ยืมมาเพื่อดำเนินการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออกประกาศนี้