ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday January 17, 2005 11:46 —ประกาศ ก.ล.ต.

                     ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กธ/น/ข. 3/2548
เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์
______________________
โดยที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นสมควรประกาศข้อกำหนดเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ไว้เป็นข้อกำหนดกลางเพื่อให้เกิดความสอดคล้องในการใช้บังคับและมีหลักพิจารณาบนบรรทัดฐานเดียวกัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 มาตรา 100 มาตรา 103 มาตรา 113 มาตรา 114 มาตรา 115 มาตรา 116 มาตรา 117 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 134 และมาตรา 135 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542 คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
(1) “บุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์” หมายความว่า
(ก) บุคคลซึ่งปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของบริษัทหลักทรัพย์หรือเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ในตำแหน่งหรือลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ การวิเคราะห์หลักทรัพย์ การชักชวนหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักทรัพย์ การบริหารจัดการธุรกิจหลักทรัพย์ การบริหารจัดการทรัพย์สินของลูกค้าในธุรกิจหลักทรัพย์ หรือตำแหน่งหรือลักษณะงานอื่นในทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นตำแหน่งหรือลักษณะงานที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน หรือขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน หรือจะปฏิบัติงานได้ก็ต่อเมื่อไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด และ
(ข) บุคคลซึ่งเป็นกรรมการหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการนิติบุคคลที่ทำหน้าที่ในการรับฝากทรัพย์สินหรือดูแลผลประโยชน์ของลูกค้าในธุรกิจหลักทรัพย์ หรือตำแหน่งหรือลักษณะงานอื่นในทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นตำแหน่งหรือลักษณะงานที่ผู้ปฏิบัติงานจะปฏิบัติงานได้ก็ต่อเมื่อไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด
(2) “บุคลากรในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า” หมายความว่า
(ก) บุคคลซึ่งปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตำแหน่งหรือลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การวิเคราะห์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า การชักชวนหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การบริหารจัดการธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การบริหารจัดการทรัพย์สินของลูกค้าในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือตำแหน่งหรือลักษณะงานอื่นในทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นตำแหน่งหรือลักษณะงานที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน หรือขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน หรือจะปฏิบัติงานได้ก็ต่อเมื่อไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด และ
(ข) บุคคลซึ่งเป็นกรรมการของศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือสำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นตำแหน่งหรือลักษณะงานที่ผู้ปฏิบัติงานจะปฏิบัติงานได้ก็ต่อเมื่อไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด
(3) “สถาบันการเงิน” หมายความว่า สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน
(4) “สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับกับบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ เว้นแต่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานจะมีประกาศเฉพาะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
ข้อ 3 บุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ บุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(2) เป็นบุคคลซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหารตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(3) อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินคดีอาญาโดยหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย ในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ฉ้อฉล หรือทุจริต
(4) อยู่ระหว่างต้องห้ามมิให้เป็นหรือปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการ ผู้จัดการ บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษาของสถาบันการเงิน
(5) อยู่ระหว่างระยะเวลาที่กำหนดตามคำสั่งของสำนักงานให้พัก เพิกถอน หรือห้ามการปฏิบัติงานในตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดหรือลักษณะงานหนึ่งลักษณะงานใดในการเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ หรือบุคลากรในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
(6) อยู่ระหว่างระยะเวลาที่กำหนดตามคำสั่งของสำนักงานให้ถอนรายชื่อจากระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือปฏิเสธการแสดงรายชื่อในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม
(7) อยู่ระหว่างระยะเวลาที่กำหนดตามคำสั่งขององค์กรที่มีอำนาจตามกฎหมายต่างประเทศให้พัก เพิกถอน หรือห้ามการปฏิบัติงานในตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดหรือลักษณะงานหนึ่งลักษณะงานใด ซึ่งเทียบได้กับการเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ หรือบุคลากรในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
(8) เคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของสถาบันการเงินโดยมีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายหรือต้องร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสถาบันการเงินดังกล่าวซึ่งถูกเพิกถอนใบอนุญาต ถูกควบคุมกิจการ หรือถูกระงับการดำเนินกิจการเนื่องจากแผนแก้ไขฟื้นฟูฐานะหรือการดำเนินงานไม่ผ่านความเห็นชอบของหน่วยงานที่กำกับดูแลสถาบันการเงินนั้น หรือของคณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือถูกสั่งการให้แก้ไขฐานะทางการเงินที่เสียหายด้วยการลดทุนและมีการเพิ่มทุนในภายหลังโดยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือสถาบันการเงินของรัฐ เว้นแต่จะได้รับยกเว้นจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.
(9) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตาม (3) หรือเคยถูกเปรียบเทียบปรับเนื่องจากการกระทำความผิดตาม (3)
(10) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เป็นการประพฤติผิดต่อหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานหรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเป็นธรรม ต่อผู้ใช้บริการธุรกิจหลักทรัพย์ หรือธุรกิจบริการทางการเงินอื่น หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(11) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เป็นการขาดจรรยาบรรณหรือมาตรฐานในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งกำหนดโดยหน่วยงานหรือสมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(12) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางไม่สุจริตหรือฉ้อฉลต่อผู้อื่น หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(13) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมหรือการเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(14) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เป็นการจงใจแสดงข้อความอันเป็นเท็จในสาระสำคัญหรือปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญที่ควรบอกให้แจ้งในเอกสารใด ๆ ที่ต้องเปิดเผยต่อประชาชนหรือต้องยื่นต่อสำนักงานหรือคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือต่อองค์กรที่มีอำนาจกำกับดูแลสถาบันการเงิน หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(15) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เป็นการละเลยการตรวจสอบดูแลตามสมควร เพื่อป้องกันมิให้นิติบุคคลหรือกิจการที่ตนมีอำนาจในการจัดการ หรือผู้ปฏิบัติงานซึ่งอยู่ภายใต้การตรวจสอบดูแล (ถ้ามี) กระทำการใดหรืองดเว้นกระทำการใดอันเป็นการฝ่าฝืนหรือขัดต่อกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือประกาศที่ออกโดยอาศัยอำนาจแห่งกฎหมายดังกล่าว อันอาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในธุรกิจหลักทรัพย์โดยรวม หรือความเสียหายต่อชื่อเสียง ฐานะ การดำเนินธุรกิจ หรือลูกค้าของธุรกิจนั้น
ข้อ 4 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์คนใดมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 สำนักงานจะไม่ให้ความเห็นชอบ หรือไม่ขึ้นทะเบียน หรือห้ามการปฏิบัติงานในตำแหน่งนั้น เว้นแต่กรณีที่ลักษณะต้องห้ามดังกล่าวเป็นลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3(9) (10) (11) (12) (13) (14) หรือ (15) และข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวรับฟังได้ว่า พฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคคลนั้น มิใช่กรณีร้ายแรงถึงขนาดที่ไม่สมควรให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติงานเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ หรือเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมาแล้วเกินกว่าสิบห้าปีนับถึงวันที่ยื่นคำขอรับความเห็นชอบหรือคำขอขึ้นทะเบียนต่อสำนักงาน หรือนับถึงวันที่เริ่มปฏิบัติงานในตำแหน่งนั้น สำนักงานจะใช้ดุลพินิจไม่ยกเหตุอันเป็นลักษณะต้องห้ามในกรณีนั้นมาเป็นเหตุในการห้ามมิให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติงานเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ก็ได้ ในการนี้ สำนักงานจะกำหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่ใช้บังคับกับบุคคลดังกล่าวเป็นการชั่วคราวด้วยก็ได้
ข้อ 5 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่าบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์คนใดมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 ให้สำนักงานสั่งพัก เพิกถอน หรือห้ามการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลดังกล่าวเป็นระยะเวลาตามที่กำหนด แต่ไม่เกินสิบห้าปีนับแต่วันที่สำนักงานมีคำสั่ง เว้นแต่ในกรณีที่เป็นลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3(9) (10) (11) (12) (13) (14) หรือ (15) ให้สำนักงานมีอำนาจดำเนินการดังนี้
(1) หากพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วเกินกว่าสิบห้าปีนับถึงวันที่ข้อเท็จจริงปรากฏต่อสำนักงาน สำนักงานจะใช้ดุลพินิจไม่ยกเหตุอันเป็นลักษณะต้องห้ามในกรณีนั้นมาเป็นเหตุในการห้ามมิให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติงานเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ก็ได้ หรือ
(2) หากพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคคลในกรณีนั้นมิได้มีลักษณะร้ายแรงถึงขนาดที่ไม่สมควรให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติงานเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ สำนักงานจะกำหนดให้บุคคลดังกล่าวยังสามารถปฏิบัติงานเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ต่อไปก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้ สำนักงานจะสั่งภาคทัณฑ์บุคคลดังกล่าว หรือกำหนดให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการเรื่องหนึ่งเรื่องใดด้วยก็ได้
ข้อ 6 เมื่อกรณีมีเหตุสมควร โดยคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณชน และประสิทธิภาพในการป้องปรามมิให้บุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์กระทำการใดหรืองดเว้นกระทำการใดอันจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในการปฏิบัติงานเป็นบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ สำนักงานจะดำเนินการแจ้งข่าวข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งพัก เพิกถอน หรือภาคทัณฑ์บุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ต่อสาธารณชน หรือจัดข้อมูลดังกล่าวไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างก็ได้
ข้อ 7 ในการใช้ดุลพินิจสั่งการตามข้อ 4 หรือข้อ 5 ให้สำนักงานคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคคลเป็นรายกรณี ทั้งนี้ ปัจจัยที่สำนักงานสามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาให้รวมถึง
(1) ขอบเขตของผลกระทบจากพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม เช่น กระทบต่อตลาดเงินหรือตลาดทุน กระทบต่อประชาชนโดยรวม หรือกระทบต่อบุคคลเฉพาะราย เป็นต้น
(2) นัยสำคัญของพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม เช่น จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องปริมาณธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
(3) ผู้รับประโยชน์จากผลของพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม
(4) ความเกี่ยวข้องของบุคคลต่อพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม เช่น เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน เป็นต้น
(5) ความซับซ้อนของลักษณะการกระทำหรือเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำ เช่น การใช้ชื่อบุคคลอื่น หรือการตั้งบริษัทอำพราง เป็นต้น
(6) ประวัติพฤติกรรมในอดีต เช่น เป็นพฤติกรรมครั้งแรก หรือเป็นพฤติกรรมที่เกิดซ้ำหรือต่อเนื่อง เป็นต้น
(7) ความตระหนักของผู้กระทำในเรื่องดังกล่าว เช่น จงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นต้น
(8) ข้อเท็จจริงอื่น เช่น การให้ข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาหรือดำเนินการ การปิดบังอำพรางหรือทำลายพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หรือการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ เป็นต้น
ข้อ 8 เพื่อให้การใช้ดุลพินิจสั่งการของสำนักงานตามประกาศนี้มีความชัดเจนและผ่านกระบวนการทบทวนตามสมควร เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงใดที่อาจนำไปสู่การสั่งการที่ไม่เป็นคุณต่อบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์คนใด ก่อนที่สำนักงานจะมีคำวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าว สำนักงานต้องกำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งทำหน้าที่พิจารณาข้อเท็จจริงและเสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ภายใต้กระบวนพิจารณาของคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานดังกล่าว อย่างน้อยต้องกำหนดให้มีการแจ้งให้บุคคลที่อาจเป็นผู้รับการสั่งการนั้นได้ทราบข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับข้อสงสัยถึงการมีลักษณะต้องห้ามของบุคคลดังกล่าว และแจ้งสิทธิของบุคคลดังกล่าวในการชี้แจงและนำเสนอพยานหลักฐานเพื่อหักล้างข้อสงสัยนั้นความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับกรณีข้อเท็จจริงที่แสดงถึงการมีลักษณะต้องห้าม ตามข้อ 3(1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) หรือ (8) หรือกรณีอื่นใดที่สำนักงานเห็นว่าได้ผ่านกระบวนวิธีพิจารณามาเพียงพอแล้ว
ข้อ 9 ข้อเท็จจริงใดที่สำนักงานได้นำมาใช้ประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการทางปกครองตามข้อ 4 หรือข้อ 5 แล้ว สำนักงานจะนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาสั่งการซ้ำอีกไม่ได้ แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบถึงการใช้เป็นปัจจัยประกอบการเพิ่มระดับหรือการกำหนดประเภทของมาตรการทางปกครอง เพราะเหตุที่บุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามขึ้นอีก
ข้อ 10 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548
(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

แท็ก ก.ล.ต.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ