ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่ ทธ. 11/2554
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
(ฉบับที่ 3)
_____________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 มาตรา 44 และมาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการกำกับตลาดทุนออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 14 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ. 70/2552 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 14 ห้ามมิให้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ ตั้งแต่ห้าวันทำการก่อนวันเริ่มเสนอขายหลักทรัพย์ จนถึงวันปิดการเสนอขายหรือวันที่จัดหาหุ้นส่วนเกินได้ครบ แล้วแต่กรณี
(1) หุ้นของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้น หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทยที่มีหุ้นดังกล่าวเป็นหลัก
ทรัพย์อ้างอิง ในกรณีที่เป็นการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ประเภทหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
(2) หุ้นอ้างอิงของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หุ้นอ้างอิงของหุ้นกู้อนุพันธ์ หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลัก
ทรัพย์อ้างอิงไทยที่มีหุ้นอ้างอิงดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์อ้างอิง ในกรณีที่เป็นการจัดจำหน่ายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์หรือ
หุ้นกู้อนุพันธ์
(3) หุ้นอ้างอิงของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจาก
หลักทรัพย์อ้างอิงไทยดังกล่าว ในกรณีที่เป็นการจัดจำหน่ายใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย
ที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์อ้างอิง
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการซื้อหรือการขายในกรณีดังต่อไปนี้
(1) การซื้อจากผู้เสนอขายหลักทรัพย์ หรือการขายแก่ผู้ลงทุน ตามสัญญาการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
(2) การซื้อหรือการขายตามคำสั่งของลูกค้า ซึ่งมิได้เกิดจากการชี้นำหรือชักจูงของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์
(unsolicited purchase or sale)
(3) การซื้อหรือการขายเพื่อบัญชีหลักทรัพย์ของตนเอง ซึ่งเป็นผลจากความผิดพลาดในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่
ลูกค้า
(4) การซื้อเพื่อบัญชีหลักทรัพย์ของตนเอง โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้
จองซื้อซึ่งได้รับจัดสรรหุ้นส่วนเกินหรือส่งคืนผู้ให้ยืมตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการจัดสรรหุ้นเกิน
กว่าจำนวนที่จัดจำหน่าย
(5) การซื้อเพื่อบัญชีหลักทรัพย์ของตนเอง ซึ่งเป็นกรณีที่ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์นั้น ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องของ
กองทุนรวมอีทีเอฟ หากผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ดังกล่าวจัดให้มีระบบป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ตามประกาศ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดให้มีระบบงานสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์
เพื่อบริษัทหลักทรัพย์แล้ว
(6) การซื้อหรือการขายเพื่อบัญชีหลักทรัพย์ของตนเอง เพื่อบริหารความเสี่ยงจากการที่ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์นั้นเป็นผู้ออก
ตราสารที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ที่รับจัดจำหน่าย หากผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ดังกล่าวจัดให้มีระบบป้องกันความขัดแย้งทาง
ผลประโยชน์ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดให้มีระบบงาน
สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อบริษัทหลักทรัพย์แล้ว”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับตลาดทุน
บริหารความเสี่ยงโดยการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นได้ รวมทั้งผ่อนคลายให้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์สามารถขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีหลักทรัพย์ของ
ตนเอง ซึ่งเป็นผลจากความผิดพลาดในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่ลูกค้าด้วย จึงจำเป็นต้องออกประกาศนี้