การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 20)

ข่าวกฏหมายและประกาศ Friday January 18, 2002 14:47 —ประกาศ ก.ล.ต.

                        ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สบ. 4/2545
เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล
การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ
(ฉบับที่ 20)
______________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 5 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(2) ค่าธรรมเนียมครั้งต่อไป ให้ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ที่เป็นบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ชำระเพิ่มเติมอีกภายในวันที่ 30 เมษายน ของทุกปี
ทั้งนี้ การชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งให้เริ่มในปีถัดจากปีที่แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์มีผลใช้บังคับ จนกว่าหน้าที่ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ในการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามมาตรา 56 จะสิ้นสุดลง"
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 44/2544 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2544 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ 6 ค่าธรรมเนียมครั้งแรกตามข้อ 5(1) ให้คิดในอัตรา 30,000 บาท หรืออัตราดังต่อไปนี้ แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
(1) กรณีการเสนอขายหุ้น ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(2) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้ ให้คิดในอัตราดังนี้
(ก) หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้คิดในอัตราร้อยละ 0.02 ของมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขาย
(ข) หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทอื่นนอกจาก (ก) ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้เป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(3) กรณีการเสนอขายพันธบัตร ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าของพันธบัตรทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของพันธบัตรที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายพันธบัตรเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(4) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(5) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
(ก) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุไม่เกินหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
(ข) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุมากกว่าหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(6) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(7) กรณีการเสนอขายใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้โดยเจ้าของใบแสดงสิทธิดังกล่าว ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบแสดงสิทธิดังกล่าว
ในการคำนวณมูลค่าของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบแสดงสิทธินั้น ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(8) กรณีการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อกรรมการหรือพนักงาน ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.02 ของมูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมดที่เสนอขาย
ในกรณีที่มีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น มูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายให้รวมถึงมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขายด้วย ทั้งนี้ ในการคำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(9) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ให้คิดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งละ 100,000 บาท
(10) กรณีการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามประกาศว่าด้วยหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ พร้อมกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เดิมของบริษัทจดทะเบียนเพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ ให้คิดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งละ 100,000 บาท"
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 6/1 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541
"ข้อ 6/1 การคำนวณค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ตามข้อ 6 สำหรับกรณีที่มีการกำหนดราคาเสนอขายหลักทรัพย์ในลักษณะดังต่อไปนี้ ให้เป็นดังนี้
(1) ในกรณีที่ราคาเสนอขายหลักทรัพย์กำหนดเป็นช่วงราคา หรือราคาเสนอขายจะไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลา ให้คำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายโดยใช้ราคาสูงสุดที่จะเสนอขาย
(2) ในกรณีที่ราคาเสนอขายหลักทรัพย์กำหนดเป็นสูตรซึ่งอ้างอิงกับข้อมูลในอนาคต ให้คำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายจากสูตรดังกล่าวโดยใช้ข้อมูลในวันก่อนวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์นั้น
(3) ในกรณีที่ราคาเสนอขายกำหนดเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ ให้คำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายเป็นเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ (อัตราซื้อตั๋วเงิน) สำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดังกล่าว ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศในวันก่อนวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์นั้น"
ข้อ 4 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 7 วรรคหนึ่ง แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 61/2543 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(2) ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในกรณีอื่นใดที่มิใช่กรณีตาม (1) ให้ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียม 30,000 บาท ในวันที่สำนักงานได้รับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และถ้ายังมีส่วนที่เหลือต้องชำระอีก ให้ชำระส่วนที่เหลือให้ครบถ้วนในวันที่สำนักงานได้รับรายละเอียดของข้อมูลและเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วนถูกต้องเกี่ยวกับราคาเสนอขายหลักทรัพย์ การจอง การจัดจำหน่าย และการจัดสรร และผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลของผู้เสนอขายหลักทรัพย์ได้ลงลายมือชื่อไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการยื่นและการยกเว้นการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์"
ข้อ 5 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 8 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 61/2543 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(2) ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในกรณีอื่นใดที่มิใช่กรณีตาม (1) ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียมตามส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินสำหรับงวดประจำปีบัญชีล่าสุดที่ยื่นต่อสำนักงาน ในอัตราดังนี้
(ก) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ถึง 500 ล้านบาท
ให้ชำระค่าธรรมเนียม 50,000 บาท
(ข) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 500 ล้านบาท
แต่ไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ให้ชำระค่าธรรมเนียม 100,000 บาท
(ค) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
ให้ชำระค่าธรรมเนียม 300,000 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานอาจเปลี่ยนแปลงอัตราที่กำหนดไว้นี้ได้ แต่จะไม่เป็นผลให้อัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 15 ทุกรอบระยะเวลาสามปี
ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เสนอขายหลักทรัพย์หลายประเภท ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียมเพียงจำนวนเดียวตามวรรคหนึ่ง (2) และในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทตามข้อ 4(2) หรือ (3) และบริษัทดังกล่าวไม่มีการเสนอขายหลักทรัพย์อื่นใดให้บริษัทชำระค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 80 ของค่าธรรมเนียมที่กำหนดไว้ตามวรรคหนึ่ง (2)
บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ใดไม่เคยถูกดำเนินการเปรียบเทียบความผิด เนื่องจากไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามที่กฎหมายกำหนดในรอบปีปฏิทินก่อนการชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระในปีปัจจุบันในอัตราร้อยละ 20 ของค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่ต้องชำระ"
ข้อ 6 ในปี พ.ศ. 2545 ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมตามข้อ 5(2) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศฉบับนี้ ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(1) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่มีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ให้ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมในอัตราหนึ่งในสี่ส่วนของค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่ต้องชำระ
(2) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่มีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน ให้ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมในอัตราหนึ่งในสองส่วนของค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่ต้องชำระ
(3) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่มีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดในเดือนกันยายน ให้ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมในอัตราสามในสี่ส่วนของค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่ต้องชำระ
ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง ชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวภายในสามเดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี
ข้อ 7 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2545
(นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ