การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 24)

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday January 14, 2004 13:53 —ประกาศ ก.ล.ต.

             ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สบ. 2/2547
เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล
การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ
(ฉบับที่ 24)
_________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (6) ของข้อ 4 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 44/2544 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2544"(6) บริษัทที่เสนอขายใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการเสนอขายใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมตามข้อ 5(2)"
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สบ. 4/2545 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2545 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน"ข้อ 6 ค่าธรรมเนียมครั้งแรกตามข้อ 5(1) ให้คิดในอัตรา 30,000 บาท หรืออัตราดังต่อไปนี้ แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า เว้นแต่การเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ตาม (8)(ข) ให้ชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดไว้ในข้อย่อยดังกล่าว
(1) กรณีเสนอขายหุ้น ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(2) กรณีเสนอขายหุ้นกู้ ให้คิดในอัตราดังนี้
(ก) หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้คิดในอัตราร้อยละ 0.02 ของมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขาย
(ข) หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทอื่นนอกจาก (ก) ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขายในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้เป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(3) กรณีเสนอขายพันธบัตร ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.02 ของมูลค่าของพันธบัตรทั้งหมดที่เสนอขายในการคำนวณมูลค่าของพันธบัตรที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายพันธบัตรเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(4) กรณีเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดที่เสนอขายในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(5) กรณีเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
(ก) หากใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุไม่เกินหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
(ข) หากใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุมากกว่าหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(6) กรณีเสนอขายใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้โดยเจ้าของใบแสดงสิทธิดังกล่าว ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบแสดงสิทธิดังกล่าว
ในการคำนวณมูลค่าของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบแสดงสิทธินั้น ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(7) กรณีเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อกรรมการหรือพนักงาน ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.02 ของมูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม โดยในกรณีที่มีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น มูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายให้รวมถึงมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขายด้วย และในกรณีนี้ การคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(8) กรณีเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ให้คิดในอัตราดังนี้
(ก) ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นประเภทที่ให้สิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ออกโดยบริษัทอื่น และจัดให้มีการฝากทรัพย์สินเต็มจำนวน
1. หากมีอายุไม่เกินหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นอ้างอิงทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นที่เสนอขาย
2. หากมีอายุมากกว่าหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นอ้างอิงทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นที่เสนอขายการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นที่เสนอขายให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และการคำนวณมูลค่าของหุ้นอ้างอิง ให้ใช้ราคาใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(ข) ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อื่นนอกจาก (ก) ให้คิดในอัตราครั้งละ 10,000 บาท
(9) กรณีเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่พร้อมกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เดิมของบริษัทจดทะเบียนเพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ ให้คิดในอัตราครั้งละ 100,000 บาท
(10) กรณีเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกโดยบริษัทต่างประเทศให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทต่างประเทศ บริษัทร่วม บริษัทย่อย หรือสาขาของบริษัทดังกล่าวในประเทศไทย ให้คิดในอัตราโครงการละ 50,000 บาท
(11) กรณีเสนอขายใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการเสนอขายใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย ให้ใช้อัตราและวิธีการคำนวณเดียวกับที่กำหนดไว้สำหรับหลักทรัพย์อ้างอิงของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงดังกล่าว"
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 8 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สบ. 4/2545 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2545 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ 8 ค่าธรรมเนียมครั้งต่อไปตามข้อ 5(2) ให้คิดในอัตราดังนี้
(1) ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์โดยบริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียมตามส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินสำหรับงวดประจำปีบัญชีล่าสุดที่ยื่นต่อสำนักงาน ในอัตราดังนี้
(ก) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ถึง 500 ล้านบาท
ให้ชำระค่าธรรมเนียม 50,000 บาท
(ข) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 500 ล้านบาท
แต่ไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ให้ชำระค่าธรรมเนียม 100,000 บาท
(ค) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
ให้ชำระค่าธรรมเนียม 300,000 บาท
(2) ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์โดยบริษัทอื่นนอกจาก (1) ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียม 10,000 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานอาจเปลี่ยนแปลงอัตราที่กำหนดไว้นี้ได้ แต่จะไม่เป็นผลให้อัตราค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 15 ทุกรอบระยะเวลาสามปีในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เสนอขายหลักทรัพย์หลายประเภท ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียมเพียงจำนวนเดียวตามวรรคหนึ่ง (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณีในรอบปีปฏิทินก่อนการชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ใดไม่เคยถูกดำเนินการเปรียบเทียบความผิดหรือถูกกล่าวโทษโดยสำนักงาน เนื่องจากไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินหรือรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระในปีปัจจุบันในอัตราร้อยละ 20 ของค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่ต้องชำระ"
ข้อ 4 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2547
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ