สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สจ.5/2541
เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล
การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ
(ฉบับที่ 2)
---------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 2 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่สจ.27/2540 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2540 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(2) บริษัทที่ออกหุ้นเพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่มีอายุไม่เกินสองเดือนนับแต่วันที่ออกซึ่งระบุไว้ในใบสำคัญแสดงสิทธินั้น และได้เสนอขายใบสำคัญสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวตามสัดส่วนการถือหุ้น"
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 4 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่สจ.27/2540 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2540 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ 4 ค่าธรรมเนียมครั้งแรกตามข้อ 3(1) ให้คิดในอัตราดังนี้
(1) กรณีการเสนอขายหุ้น ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่เสนอขายให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(2) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขาย หรือของวงเงินทั้งหมดที่เสนอขายหุ้นกู้หมุนเวียนระยะสั้น แล้วแต่กรณี
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้เป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(3) กรณีการเสนอขายพันธบัตร ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าของพันธบัตรทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของพันธบัตรที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายพันธบัตรเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(4) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมด ที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(5) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ซื้อหุ้น
(ก) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุไม่เกิน 1 ปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
(ข) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุมากกว่า 1 ปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขายให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียมและในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียมทั้งนี้ในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นสูงสุด หรือในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นกำหนดเป็นสูตรซึ่งอ้างอิงข้อมูลในอาคตให้คำนวณราคาที่จะซื้อหุ้นโดยคำนวณจากสูตร ดังกล่าวซึ่งใช้ข้อมูลในวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
(6) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น กู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ ในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้ไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้สูงสุด หรือในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นหุ้นกู้กำหนดเป็นสูตรซึ่งอ้างอิงข้อมูลในอนาคตให้คำนวณราคาที่จะซื้อหุ้นกู้โดยคำนวณจากสูตรดังกล่าวซึ่งใช้ข้อมูลในวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้"
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสี่ของข้อ 6 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 27/2540 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2540
"บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ใดไม่เคยถูกดำเนินการเปรียบเทีบบความผิดเนื่องจากไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามที่กฎหมายกำหนดในรอบระยะเวลาบัญชีก่อนการชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมของรอบระยะเวลาบัญชีที่ต้องชำระในปีบัญชีนั้นในอัตราร้อยละ 20"
ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541
(นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สจ.5/2541
เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล
การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ
(ฉบับที่ 2)
---------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 2 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่สจ.27/2540 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2540 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(2) บริษัทที่ออกหุ้นเพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่มีอายุไม่เกินสองเดือนนับแต่วันที่ออกซึ่งระบุไว้ในใบสำคัญแสดงสิทธินั้น และได้เสนอขายใบสำคัญสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวตามสัดส่วนการถือหุ้น"
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 4 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่สจ.27/2540 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2540 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ 4 ค่าธรรมเนียมครั้งแรกตามข้อ 3(1) ให้คิดในอัตราดังนี้
(1) กรณีการเสนอขายหุ้น ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่เสนอขายให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(2) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขาย หรือของวงเงินทั้งหมดที่เสนอขายหุ้นกู้หมุนเวียนระยะสั้น แล้วแต่กรณี
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้เป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(3) กรณีการเสนอขายพันธบัตร ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าของพันธบัตรทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของพันธบัตรที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายพันธบัตรเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(4) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมด ที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(5) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ซื้อหุ้น
(ก) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุไม่เกิน 1 ปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
(ข) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุมากกว่า 1 ปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขายให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียมและในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียมทั้งนี้ในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นสูงสุด หรือในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นกำหนดเป็นสูตรซึ่งอ้างอิงข้อมูลในอาคตให้คำนวณราคาที่จะซื้อหุ้นโดยคำนวณจากสูตร ดังกล่าวซึ่งใช้ข้อมูลในวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
(6) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น กู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ ในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้ไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้สูงสุด หรือในกรณีที่ราคาที่จะซื้อหุ้นหุ้นกู้กำหนดเป็นสูตรซึ่งอ้างอิงข้อมูลในอนาคตให้คำนวณราคาที่จะซื้อหุ้นกู้โดยคำนวณจากสูตรดังกล่าวซึ่งใช้ข้อมูลในวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้"
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสี่ของข้อ 6 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 27/2540 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่างๆ ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2540
"บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ใดไม่เคยถูกดำเนินการเปรียบเทีบบความผิดเนื่องจากไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามที่กฎหมายกำหนดในรอบระยะเวลาบัญชีก่อนการชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมของรอบระยะเวลาบัญชีที่ต้องชำระในปีบัญชีนั้นในอัตราร้อยละ 20"
ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541
(นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์