ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กธ. 39/2540
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์
---------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 และมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิก
(1) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กก. 25/2538 เรื่อง เงื่อนไข และวิธีการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ขึ้นทะเบียน ลงวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2538
(2) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กก. 2/2539 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539
ข้อ 3 ในประกาศนี้
"บริษัทหลักทรัพย์" หมายความว่า บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์หรือการค้าหลักทรัพย์
"ลูกค้า" หมายความว่า ผู้ที่ทำสัญญากู้ยืมเงินกับบริษัทหลักทรัพย์เพื่อใช้ในการซื้อหลักทรัพย์
"บัญชีมาร์จิ้น" หมายความว่า บัญชีที่บันทึกรายการการให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อการซื้อหลักทรัพย์ หรือการให้ลูกค้ายืมหลักทรัพย์เพื่อการขาย
"อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น" หมายความว่า อัตราส่วนขั้นต่ำของจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระเพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้าที่ต้องมีในบัญชีมาร์จิ้น ต่อมูลค่าซื้อหลักทรัพย์รายการใดรายการหนึ่ง ก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์รายการนั้น
"ทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า" หมายความว่า ทรัพย์สินของลูกค้ารายใดรายหนึ่งในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่ลูกค้าต้องดำรงไว้ตามอัตราส่วนที่บริษัทหลักทรัพย์กำหนด
"ทรัพย์สินของลูกค้า" หมายความว่า มูลค่าสุทธิของเงิน หลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่นที่เป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้ารายใดรายหนึ่ง เมื่อหักภาระหนี้ที่เกิดจากการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้ารายนั้นแล้ว
"มูลค่าซื้อ" หมายความว่า จำนวนเงินค่าซื้อหลักทรัพย์แต่ละรายการที่ซื้อจากบัญชีมาร์จิ้นซึ่งรวมค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์รายการนั้นแล้ว
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 4 บริษัทหลักทรัพย์จะให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ได้เฉพาะสำหรับการซื้อหลักทรัพย์จดทะเบียนและหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพ โดยให้บริษัทหลักทรัพย์กำหนดอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นดังนี้
(1) หลักทรัพย์จดทะเบียน อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 หรืออัตราที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด แล้วแต่อัตราใดจะสูงกว่า
(2) หลักทรัพย์ที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพ อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ60 หรืออัตราที่ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพกำหนด แล้วแต่อัตราใดและสูงกว่า
ข้อ 5 บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีการปฎิบัติงานเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์อย่างน้อยตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่สำนักงานประกาศกำหนด
ข้อ 6 ในกรณีที่สำนักงานพบว่าบริษัทหลักทรัพย์ใดอาจเกิดความเสียหายจากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามข้อ 4 หรือข้อ 5 หรือจากการที่มูลค่าประกันต่ำกว่าภาระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้น หรือจากการขาดระบบควบคุมภายในหรือระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเฟื่อซื้อหลักทรัพย์ให้สำนักงานมีอำนาจสั่งให้บริษัทหลักทรัพย์นั้นดำเนินการดังนี้
(1) ระงับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์แก่ผู้ที่จะเป็นลูกค้ารายใหม่ หรือระงับการให้กู้ยืมเงินเพื่อหลักทรัพย์เพิ่มเติมแก่ลูกค้ารายเดิม
(2) คืนเงินที่ลูกค้านำมาวางไว้ในบัญชีมาร์จิ้นเพื่อเป็นประกันการซื้อหลักทรัพย์ในส่วนที่คงเหลืออยู่จากการที่ลูกค้ายังซื้อหลักทรัพย์ไม่เต็มตามจำนวนเงินที่วางไว้ เมื่อหักภาระหนี้ที่เกิดจากการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นแล้ว ให้แก่ลูกค้ารายนั้น
(3) แก้ไขการกระทำดังกล่าว หรือกระทำการหรืองดเว้นกระทำการในส่วนที่เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์
ในการสั่งการตามวรรคหนึ่ง สำนักงานอาจกำหนดข้อปฎิบัติและระยะเวลาที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องปฎิบัติไว้ด้วยก็ได้
ข้อ 7 ในกรณีที่มีเหตุสมควร ให้สำนักงานมีอำนาจผ่อนผันข้อกำหนดที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องปฎิบัติตามประกาศนี้ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ใดก็ได้ โดยในการผ่อนผันสำนักงานจะกำหนดระยะเวลาที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องปฎิบัติตามประกาศนี้ไว้ด้วยก็ได้ แต่จะผ่อนผันให้ต้องปฎิบัติภายหลังวันที่ 1 เมษายน 2541 มิได้
ให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับการผ่อนผันตามวรรคหนึ่ง สามารถให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ได้ต่อไป โดยถือปฎิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามข้อ 2 ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการกำหนดอัตราส่วนที่ผู้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ต้องชำระราคาหลักทรัพย์หรือต้องนำทรัพย์สินมาวางเป็นประกัน ให้บริษัทหลักทรัพย์ใช้อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 4 โดยอนุโลม
ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
(นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กธ. 39/2540
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์
---------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 และมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิก
(1) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กก. 25/2538 เรื่อง เงื่อนไข และวิธีการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ขึ้นทะเบียน ลงวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2538
(2) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กก. 2/2539 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539
ข้อ 3 ในประกาศนี้
"บริษัทหลักทรัพย์" หมายความว่า บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์หรือการค้าหลักทรัพย์
"ลูกค้า" หมายความว่า ผู้ที่ทำสัญญากู้ยืมเงินกับบริษัทหลักทรัพย์เพื่อใช้ในการซื้อหลักทรัพย์
"บัญชีมาร์จิ้น" หมายความว่า บัญชีที่บันทึกรายการการให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อการซื้อหลักทรัพย์ หรือการให้ลูกค้ายืมหลักทรัพย์เพื่อการขาย
"อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น" หมายความว่า อัตราส่วนขั้นต่ำของจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระเพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้าที่ต้องมีในบัญชีมาร์จิ้น ต่อมูลค่าซื้อหลักทรัพย์รายการใดรายการหนึ่ง ก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์รายการนั้น
"ทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า" หมายความว่า ทรัพย์สินของลูกค้ารายใดรายหนึ่งในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่ลูกค้าต้องดำรงไว้ตามอัตราส่วนที่บริษัทหลักทรัพย์กำหนด
"ทรัพย์สินของลูกค้า" หมายความว่า มูลค่าสุทธิของเงิน หลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่นที่เป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้ารายใดรายหนึ่ง เมื่อหักภาระหนี้ที่เกิดจากการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้ารายนั้นแล้ว
"มูลค่าซื้อ" หมายความว่า จำนวนเงินค่าซื้อหลักทรัพย์แต่ละรายการที่ซื้อจากบัญชีมาร์จิ้นซึ่งรวมค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์รายการนั้นแล้ว
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 4 บริษัทหลักทรัพย์จะให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ได้เฉพาะสำหรับการซื้อหลักทรัพย์จดทะเบียนและหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพ โดยให้บริษัทหลักทรัพย์กำหนดอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นดังนี้
(1) หลักทรัพย์จดทะเบียน อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 หรืออัตราที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด แล้วแต่อัตราใดจะสูงกว่า
(2) หลักทรัพย์ที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพ อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ60 หรืออัตราที่ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์กรุงเทพกำหนด แล้วแต่อัตราใดและสูงกว่า
ข้อ 5 บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีการปฎิบัติงานเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์อย่างน้อยตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่สำนักงานประกาศกำหนด
ข้อ 6 ในกรณีที่สำนักงานพบว่าบริษัทหลักทรัพย์ใดอาจเกิดความเสียหายจากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามข้อ 4 หรือข้อ 5 หรือจากการที่มูลค่าประกันต่ำกว่าภาระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้น หรือจากการขาดระบบควบคุมภายในหรือระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเฟื่อซื้อหลักทรัพย์ให้สำนักงานมีอำนาจสั่งให้บริษัทหลักทรัพย์นั้นดำเนินการดังนี้
(1) ระงับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์แก่ผู้ที่จะเป็นลูกค้ารายใหม่ หรือระงับการให้กู้ยืมเงินเพื่อหลักทรัพย์เพิ่มเติมแก่ลูกค้ารายเดิม
(2) คืนเงินที่ลูกค้านำมาวางไว้ในบัญชีมาร์จิ้นเพื่อเป็นประกันการซื้อหลักทรัพย์ในส่วนที่คงเหลืออยู่จากการที่ลูกค้ายังซื้อหลักทรัพย์ไม่เต็มตามจำนวนเงินที่วางไว้ เมื่อหักภาระหนี้ที่เกิดจากการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นแล้ว ให้แก่ลูกค้ารายนั้น
(3) แก้ไขการกระทำดังกล่าว หรือกระทำการหรืองดเว้นกระทำการในส่วนที่เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์
ในการสั่งการตามวรรคหนึ่ง สำนักงานอาจกำหนดข้อปฎิบัติและระยะเวลาที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องปฎิบัติไว้ด้วยก็ได้
ข้อ 7 ในกรณีที่มีเหตุสมควร ให้สำนักงานมีอำนาจผ่อนผันข้อกำหนดที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องปฎิบัติตามประกาศนี้ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ใดก็ได้ โดยในการผ่อนผันสำนักงานจะกำหนดระยะเวลาที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องปฎิบัติตามประกาศนี้ไว้ด้วยก็ได้ แต่จะผ่อนผันให้ต้องปฎิบัติภายหลังวันที่ 1 เมษายน 2541 มิได้
ให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับการผ่อนผันตามวรรคหนึ่ง สามารถให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ได้ต่อไป โดยถือปฎิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามข้อ 2 ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการกำหนดอัตราส่วนที่ผู้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ต้องชำระราคาหลักทรัพย์หรือต้องนำทรัพย์สินมาวางเป็นประกัน ให้บริษัทหลักทรัพย์ใช้อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 4 โดยอนุโลม
ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
(นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์