หมวด 2
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตทั่วไป
—————————————————————————
ข้อ 12 ภายใต้บังคับข้อ 13 หรือข้อ 14 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นตามประกาศนี้ จะได้รับอนุญาตต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) แสดงได้ว่าจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตออกหลักทรัพย์ดังกล่าวในครั้งนี้เมื่อรวมกับจำนวนหุ้นที่จะกล่าวถึงต่อไปใน (ก) และ (ข) มีจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละห้าของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้น
(ก) จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาตให้ออกไปแล้วตามประกาศนี้ในระยะห้าปีย้อนหลังก่อนวันยื่นคำอนุญาตออกหลักทรัยพ์ในครั้งนี้
(ข) จำนวนหุ้นที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นที่จะซื้อหุ้นตามส่วนจำนวนที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีอยู่แล้ว (right issue) ก่อนการยื่นคำขออนุญาตออกหลักทรัพย์ในครั้งนี้ ทั้งนี้ ให้นับเฉพาะจำนวนหุ้นที่สำนักงานเห็นว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจากการออกหุ้นตาม (ก) ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
(2) แสดงได้ว่าราคาเสนอขายหุ้น ราคาเสนอขายในสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นรวมราคาการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือราคาแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็นหุ้น แล้วแต่กรณี เป็นไปตามสูตร ดังนี้
(Po - Pe) x Qe < 0.04 (Po x Qo)ทั้งนี้ โดยที่
Po = ราคาตลาดของหุ้นของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ก่อนการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกในครั้งนี้
Pe = ราคาเสนอขายหุ้น ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นรวมราคาการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือราคาแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็นหุ้น แล้วแต่กรณี ของการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกในครั้งนี้
Qe = จำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตในครั้งนี้
Qo =จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ก่อนการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกในครั้งนี้
ทั้งนี้ การกำหนด Po และ Qo ให้คำนึงถึงความเหมาะสมและผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้น
(3) ในกรณีที่การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกกระทำอย่างต่อเนื่องเป็นโครงการ โครงการดังกล่าวต้องมีอายุไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน
(4) แสดงได้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขายหลักทรัพย์ที่ออกมีความชัดเจนและเป็นไปได้ และมีการคุ้มครองสิทธิของกรรมการหรือพนักงานที่จะซื้อหลักทรัพย์นั้นอย่างเพียงพอ
ข้อ 13 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ตามข้อ 3(1) หรือข้อ 3(2) ใดยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น โดยจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตนั้นไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 12(1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ที่ขออนุญาตดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 12(2) บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อแสดงได้ว่า
(1) การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกดังกล่าวมีความจำเป็นต่อความดำรงอยู่ของบริษัทหรือจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างชัดแจ้ง
(2)มีหนังสือนัดประชุมถึงผู้ถือหุ้นชี้แจงโดยละเอียด ถึงความจำเป็นต่อความดำรงอยู่ของบริษัทหรือจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างชัดแจ้ง ในอันที่จะต้องเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออก โดยจำนวนหุ้นไม่เป็นไปตามข้อ 12(1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามข้อ 12(2)
(3) มีมติที่ชัดแจ้งของที่ประชุมผู้ถือหุ้นในบริษัทดำเนินการเสนอขายหลักทรัพย์ ที่ออกแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ได้ โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า สามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง และต้องไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ยี่สิบห้าราย ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกนั้น
(4) เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 12(3) และ (4)โดยอนุโลม
บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง หากต้องดำเนินการตามข้อ 6(1)(ข) วรรคสอง ให้นำความใน (3) มาใช้บังคับการมีมติที่ประชุมตามข้อ 6(1) (ข) วรรคสองด้วย
ข้อ 14 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ตามข้อ 3(3) ใด ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพหรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น โดยจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตนั้นไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 12 (1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ที่ขอนุญาตดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ในข้อ 12(2) บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อแสดงได้ว่า
(1) มีความจำเป็นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 13(1)
(2) ได้ให้ข้อมูลโดยละเอียดแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามข้อ 3(1) หรือข้อ 3(2) ถึงความจำเป็นต่อความดำรงอยู่ของบริษัทหรือจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างชัดแจ้ง ในอันที่จะต้องเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกโดยจำนวนหุ้นไม่เป็นไปตามข้อ 12(1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามข้อ12(2)
(3) จัดให้ได้มาซึ่งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทตามข้อ 3(1) หรือข้อ 3(2) แล้วแต่กรณีซึ่งมีมติอย่างชัดแจ้งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 13(3) ให้ออกเสียงเห็นชอบด้วยกับการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกดังกล่าวของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ตามข้อ 3(3) โดยมติที่ประชุมดังกล่าวต้องไม่มีลักษณะเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นใดเป็นผู้ตัดสินใจในการออกเสียงเช่นนั้น
(4) เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 12(3) และ (4) โดยอนุโลม
บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง หากต้องดำเนินการตามข้อ 7(1)วรรคสอง ให้นำความใน (3) มาใช้บังคับกับการมีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทตามข้อ 3(1) หรือข้อ3(2) ด้วย
ข้อ 15 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ต้องจัดให้มีที่ปรึกษาทางการเงินที่สำนักงานให้ความเห็นชอบ เป็นผู้ร่วมจัดทำคำขออนุญาตดังกล่าวด้วย
ข้อ16 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ได้รับอนุญาตจากสำนักงานให้ออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องเป็นโครงการ และบริษัทยังไม่สามารถระบุรายชื่อกรรมการและรายชื่อพนักงานตามข้อ 6(1)(ข) วรรคหนึ่ง ได้ ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ส่งสำเนามติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่เป็นไปตามข้อ 6(1) (ข) วรรคสอง หรือข้อ 7(1)วรรคสอง หรือข้อ 13 วรรคสอง หรือข้อ 14 วรรคสองแล้วแต่กรณี ต่อสำนักงาน ก่อนการเสนอขายหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ได้รับอนุญาตให้ออกตามประกาศนี้อย่างน้อยเจ็ดวันทำการ เว้นแต่จะได้มีการยื่นสำเนามติดังกล่าวมาพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์แล้ว
หมวด 3
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตเพิ่มเติม
สำหรับหลักทรัพย์ประเภทหุ้น
——————————————————————
ข้อ 17 ให้นำข้อ 5 หรือข้อ 6 แล้วแต่กรณี แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้น มาใช้บังคับกับการอนุญาตให้ออกหุ้นที่เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหุ้นแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัดโดยอนุโลม
หมวด 4
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตเพิ่มเติม
สำหรับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้แปลงสภาพ
————————————————————
ข้อ 18 ให้นำข้อ 6 ข้อ 8 และหมวด 5 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้ และข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 12 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพ มาใช้บังคับกับการขออนุญาตและการอนุญาตให้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์โดยอนุโลม
ข้อ 19 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นกู้แปลงสภาพเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ต้องแสดงเจตนาไว้อย่างชัดแจ้งในหนังสือชี้ชวนว่าจะไม่นำหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกดังกล่าวไปขอจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรือไปซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ในระยะสองปีแรกของอายุหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกนั้น และให้นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้มาใช้บังคับกับการขออนุญาตและการอนุญาตในกรณีดังกล่าวด้วย
(1) ข้อ 10 ข้อ 12 วรรคหนึ่ง ข้อ 13 ข้อ 14 ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 20(3) ข้อ 34 และข้อ 48 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้โดยอนุโลม
(2) ข้อ 11 และข้อ 13 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพโดยอนุโลม
(3 ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตให้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการพนักงานในวงจำกัด รายงานผลการใช้สิทธิแปลงสภาพให้สำนักงานทราบภายในสิบห้าวัน นับแต่วันสิ้นสุดการใช้สิทธิแปลงสภาพในแต่ละครั้ง เว้นแต่เป็นกรณีที่กรรมการหรือพนักงานอาจใช้สิทธิแปลงสภาพในลักษณะต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันที่กำหนดให้ใช้สิทธิ ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้นรายงานผลการใช้สิทธิแปลงสภาพภายในสิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของทุกเดือนที่มีการใช้สิทธิ โดยให้ระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ใช้สิทธิแปลงสภาพและจำนวนหุ้นที่ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพ
ข้อ 20 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นกู้แปลงสภาพเสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ให้นำข้อ 5 หรือข้อ 6 แล้วแต่กรณี แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้น ข้อ 5 วรรคสอง แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพ และข้อ 20 ถึงข้อ 33 หมวด 2 หมวด 3 และหมวด 4 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้ มาใช้บังคับกับการขออนุญาตและการอนุญาตในกรณีดังกล่าวด้วยโดยอนุโลม
หมวด 5
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตเพิ่มเติม
สำหรับหลักทรัพย์ประเภทใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
———————————————————————————
ข้อ 21 ให้นำข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 10 ข้อ 11 ข้อ 12 และข้อ 14 แห่งประกาศเกี่ยวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น มาใช้บังคับการขออนุญาตและการอนุญาตให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์โดยอนุโลม
ข้อ 22 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุญาตให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ดำเนินการตากหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) ให้นำข้อ 13 และข้อ 15 แห่งประกาศเกี่ยวกับในสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมาใช้บังคับโดยอนุโลม
(2) รายงานผลการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิให้สำนักงานทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นสุดการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธินั้นในแต่ละครั้ง เว้นแต่เป็นกรณีที่กรรมการหรือพนักงานอาจใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในลักษณะต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันที่กำหนดให้ใช้สิทธิ ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์รายงานผลการใช้สิทธิภายในสิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของทุกเดือนที่มีการใช้สิทธิ โดยให้ระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ใช้สิทธิและจำนวนหุ้นที่ได้ใช้สิทธิ
ข้อ 23 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ยื่นคำขออนุญาตออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ให้นำข้อ 5 หรือข้อ 6 แล้วแต่กรณี แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้น และข้อ 7 วรรคสองแห่งประกาศเกี่ยวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น มาใช้บังคับการขออนุญาตและการอนุญาตในกรณีดังกล่าวด้วยโดยอนุโลม
บทเฉพาะกาล
————————————————————
ข้อ 24 บริษัทที่จะออกหลังทรัพย์ใดยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ตามประกาศนี้ โดยบริษัทนั้นได้มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ดำเนินการเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าวแก่กรรมการ พนักงาน หรือ ผู้รับช่วงซื้อหลักทรัยพ์ไว้ก่อนวันที่27 ธันวาคม 2537 ให้ได้รับยกเว้นมิให้นำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นคำขออนุญาตตามข้อ 6 และข้อ 7 หลักเกณฑ์เกี่ยวกับจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น และการกำหนดราคาเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าวตามข้อ 12(1)และ(2) และหลักเกณฑ์การอนุญาตตามข้อ 13 วรรคหนึ่ง (1) ถึง (3)และวรรคสองข้อ 14 วรรคหนึ่ง (1) ถึง (3) และวรรคสอง และข้อ 16 มาใช้บังคับ
ประกาศ ณ วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2538
(นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
———————————————————————————————————————————————————————————————————————————
———————————————————————————————————————————————————————————————————————————
คำชี้แจง
ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 12/2538เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการอนุญาตและการอนุญาตให้บริษัทมหาชนจำกัดออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงาน มีข้อความที่ควรอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้นดังนี้
1. การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงาน (ESOP) ตามประกาศนี้ หมายถึงการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์และของบริษัทย่อย และรวมถึงการเสนอขายให้แก่ผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่จะนำไปขายต่อให้แก่กรรมการหรือพนักงานข้างต้นด้วย
2. บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้บังคับของประกาศนี้ได้แก่
2.1 บริษัทที่มีหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ (บริษัทจดทะเบียน)
2.2บริษัทที่เคยเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน ไม่ว่าโดยบริษัทเองหรือเจ้าของหลักทรัพย์ โดยยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้น (บริษัทที่เคยกระจายหุ้น)
2.3บริษัทที่บริษัทจดทะเบียน หรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น (บริษัทลูก)
3. ประกาศนี้ไม่ใช้บังคับกับการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานที่มีเงื่อนไขดังนี้
3.1 เป็นหลักทรัพยืที่เหลือจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน (right issue)
3.2 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติที่ชัดเจนในครั้งเดียวกับการมีมติให้ทำ right issue ว่าให้จัดสรรหลักทรัพย์ที่เหลือแก่กรรมการหรือพนักงาน
3.3 ราคาเสนอขายหลักทรัพย์ ต้องไม่ต่ำกว่าราคาเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้น
3.4กรณีบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทลูก หลักทรัพย์ที่เหลือดังกล่าวต้องไม่ใช่หลักทรัพย์ที่เกิดจากบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นสละสิทธิ right issue
ทั้งนี้ การเสนอขายหลักทรัพย์ข้างต้นต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์เดิมตามประกาศเกี่ยวกับหุ้น หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น แล้วแต่กรณี
4. การขออนุญาตและการอนุญาตตามข้อ 6 และ ข้อ 7 ของประกาศนี้ หมายความว่า
4.1 กรณีผู้ยื่นคำขออนุญาตเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติให้บริษัทเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงาน (มติให้เสนอขายหลักทรัพย์) โดยจัดส่งหนังสือนัดประชุมถึงผู้ถือหุ้นล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุม และหนังสือนัดประชุมดังกล่าวต้องมีรายละเอียดข้อมูลที่ครบถ้วนตามข้อ 6 (1) ของประกาศนี้ มีข้อสังเกตว่าในหนังสือนัดประชุมจะต้องระบุรายชื่อกรรมการทุกรายมีสิทธิได้รับหลักทรัพย์ในครั้งนี้ และรายชื่อพนักงานเฉพาะรายที่มีสิทธิได้รับหลักทรัพย์มากกว่าร้อยละ 5 ของหลักทรัพย์ที่เสนอขายในครั้งนี้ พร้อมทั้งจำนวนหุ้นที่บุคคลข้างต้นจะได้รับด้วย ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์อย่างเป็นโครงการ และไม่สามารถระบุข้อมูลดังกล่าวในหนังสือนัดประชุมเพื่อลงมติให้เสนอขายหลักทรัพย์ ให้บริษัทจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติให้บริษัทจัดสรรหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานดังกล่าวเป็นคราว ๆ ก่อนการเสนอขาย (มติให้จัดสรรหลักทรัพย์) โดยส่งหนังสือนัดประชุมที่ระบุรายชื่อกรรมการและพนักงานข้างต้นถึงผู้ถือหุ้นล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุมเพื่อขอมติให้จัดสรรหลักทรัพย์
(2) มีมติให้เสนอขายหลักทรัพย์และมติให้จัดสรรหลักทรัพย์ ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
(ก) มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม
(ข) ไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดคัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์
(ค) เป็นมติที่ไม่มีลักษณะเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้กำหนดรายละเอียดในการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์แทนที่ประชุมผู้ถือหุ้น เว้นแต่ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงน
4.2 กรณีบริษัทที่จะยื่นคำขออนุญาตเป็นบริษัทลูกโดยหลักการต้องดำเนินการเช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นแต่เน้นที่การให้ข้อมูลและการขอมติจากผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทแม่โดยต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ให้ข้อมูลเช่นเดียวกับข้อ 6(1) ของประกาศนี้ แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ เพื่อขอมติว่าจะออกเสียงเห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่กรรมการหรือพนักงานหรือไม่ (มติเห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์) ทั้งนี้ ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสรรให้แก่กรรมการและพนักงานที่ได้มากกว่าร้อยละ 5 ของหลักทรัพย์ที่เสนอขายในครั้งนี้ เช่นเดียวกับกรณีของบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้น และในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์อย่างเป็นโครงการและไม่สามารถระบุข้อมูลดังกล่าวก่อนการประชุมเพื่อขอมติเห็นชอบในบริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์ได้ ให้บริษัทลูกจัดให้ได้มาซึ่งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ที่เห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์แก่กรรมหรือพนักงานดังกล่าวเป็นคราว ๆ ก่อน เสนอขาย (มติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์โดยได้ส่งข้อมูลที่ระบุรายละเอียดกรรมการและพนักงานที่ได้รับการจัดสรรข้างต้นถึงผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุม เพื่อขอมติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์
(2) มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่เห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์หรือมติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
(ก) มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมเห็นชอบกับการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์ของบริษัทลูก
(ข) ไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์ของบริษัทลูก
(ค) เป็นมติที่ไม่ลักษณะเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นออกเสียงเห็นชอบแทนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
(3) มีมติที่ประชุมของบริษัทลูกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมอนุมัติให้บริษัทเสนอขายหลักทรัพย์
5. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตทั่วไปตามข้อ 12(1) ของประกาศนี้หมายความว่า บริษัทที่ยื่นคำขออนุญาตต้องแสดงได้ว่า จำนวนหุ้นที่เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในครั้งนี้เมื่อรวมกับจำนวนหุ้นสะสมที่เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในระยะ 5 ปีย้อนหลังก่อนยื่นคำขออนุญาตในครั้งนี้มีจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ทั้งนี้ จำนวนหุ้นสะสมที่เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในระยะ 5 ปีย้อนหลังก่อนยื่นคำขออนุญาตในครั้งนี้หมายถึง
(1) จำนวนหุ้นที่เคยได้รับอนุญาตให้เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานตามประกาศนี้ในครั้งก่อน
(2) จำนวนหุ้น right issue ตามสัดส่วนของ (1)
(3) จำนวนหุ้น right issue ตามสัดส่วนของ (1) และ (2) ในทุก ๆ ทอด
ตัวอย่างการคำนวณตามตารางแนบท้าย
6. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตทั่วไปตามข้อ 13 และ 14 ของประกาศนี้หมายความว่า
6.1 กรณีบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นประสงค์จะออกหุ้นอันเนื่องจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานเป็นจำนวนเกินกว่าที่กำหนดในข้อ 12(1) หรือราคาการเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามสูตรในข้อ 12(2) บริษัทนั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้
(1) แสดงได้ว่าบริษัทมีเหตุจำเป็นและสมควรที่จะเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่เป็นไปตามเกณฑ์ข้างต้น และได้ระบุข้อความดังกล่าวในหนังสือนัดประชุมเพื่อขอมติให้เสนอขายหลักทรัพย์
(2) มีมติให้เสนอขายหลักทรัพย์และมติให้จัดสรรหลักทรัพย์ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และ ไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์ดังกล่าว
6.2 กรณีบริษัทที่ยื่นคำขออนุญาตเป็นบริษัทลูก ประสงค์จะออกหุ้นอันเนื่องจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานเป็นจำนวนเกินกว่าที่กำหนดในข้อ 12(1) หรือราคาการเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามสูตรในข้อ 12(2) บริษัทนั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้
(1) แสดงได้ว่าบริษัทมีเหตุจำเป็นและสมควรที่จะเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่เป็นไปตามเกณฑ์ข้างต้น และได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ เพื่อขอมติเห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์
(2) มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่เห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์หรือมติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดคัดค้าน
(3) มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทลูกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมอนุมัติให้บริษัทเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงาน
7. นอกจากเกณฑ์ข้างต้นแล้ว การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้น หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิ แล้วแต่กรณีอีกด้วย โดยหากเป็นการเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานที่มีจำนวนไม่เกิน 35 รายในระยะเวลา 12 เดือนไม่ว่าจะขายแก่กรรมการหรือพนักงานโดยตรงหรือขายผ่านผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ (การเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด) ให้ใช้หลักเกณฑ์การเสนอขายแบบ private placement ของประกาศเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทนั้น และหากเป็นการเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานที่ไม่ใช่ในวงจำกัด ก็ให้ใช้หลักเกณฑ์การเสนอขายแบบ public offering ของประกาศข้างต้น
ตัวอย่างการคำนวณจำนวนหุ้น ESOP=======================================================================================================วันที่ 1 ส.ค. 38 7 ธ.ค. 38 3 มิ.ย. 39 2 มี.ค. 40 1 ส.ค. 41 1 ก.พ. 42 -----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทุนชำระแล้ว 100 104 312 362 1448.0 1472.4 ทุนที่จะเพิ่ม 4 208 50 1086 24.4 2 5889.6ทุนชำระแล้วหลังการเพิ่มทุน 104 312 362 1448 1472.4 7362.0 ลักษณะการเพิ่มทุน ESOP RIGHT 1:2 ทำ po right 1:3 ESOP right 1:4 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------จำนวนหุ้น ESOP ยื่นคำขอครั้งนี้ 4 0 0 0 24.4 2 0.0จำนวนหุ้น ESOP ครั้งก่อน 0 4 4 4 4.0 28.4จำนวนหุ้น right ของ ESOP และ 0 8 8 44 1 44.0 333.6 3right ของ right ของ ESOP ทุกทอด ------------------------------------------------------------------------------------------------------------จำนวนหุ้น ESOP สะสม 4 12 12 48 72.4 362.0 ทุนชำระแล้ว 100 1148.0 ร้อยละของจำนวนหุ้น ESOP สะสมต่อทุนชำระแล้ว 4,000 5.0 =============================================================================================================จำนวนหุ้น ESOP ที่นำมาคำนวณในตารางนี้เฉพาะหุ้นที่ได้รับอนุญาตตามประกาศนี้เท่านั้น
1. 8 + right 1:3 ของ 8 + right 1:3 ของ 4 = 8+12+24 = 442. กรณีที่จะทำ ESOP ให้เต็มตามที่กฎหมายกำหนดจะเสนอขายหุ้น ESOP ได้จำนวนเท่าใด
จำนวนหุ้น ESOP สะสม / ทุนชำระแล้ว = 0.05
(44 + 4 + x) / 1448 = 0.05
x = 24.43. 44 + right 1:4 ของ 44 + right 1:4 ของ 28.4 = 44+176+113.6 = 333.6
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตทั่วไป
—————————————————————————
ข้อ 12 ภายใต้บังคับข้อ 13 หรือข้อ 14 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นตามประกาศนี้ จะได้รับอนุญาตต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) แสดงได้ว่าจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตออกหลักทรัพย์ดังกล่าวในครั้งนี้เมื่อรวมกับจำนวนหุ้นที่จะกล่าวถึงต่อไปใน (ก) และ (ข) มีจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละห้าของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้น
(ก) จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาตให้ออกไปแล้วตามประกาศนี้ในระยะห้าปีย้อนหลังก่อนวันยื่นคำอนุญาตออกหลักทรัยพ์ในครั้งนี้
(ข) จำนวนหุ้นที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นที่จะซื้อหุ้นตามส่วนจำนวนที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีอยู่แล้ว (right issue) ก่อนการยื่นคำขออนุญาตออกหลักทรัพย์ในครั้งนี้ ทั้งนี้ ให้นับเฉพาะจำนวนหุ้นที่สำนักงานเห็นว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจากการออกหุ้นตาม (ก) ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
(2) แสดงได้ว่าราคาเสนอขายหุ้น ราคาเสนอขายในสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นรวมราคาการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือราคาแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็นหุ้น แล้วแต่กรณี เป็นไปตามสูตร ดังนี้
(Po - Pe) x Qe < 0.04 (Po x Qo)ทั้งนี้ โดยที่
Po = ราคาตลาดของหุ้นของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ก่อนการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกในครั้งนี้
Pe = ราคาเสนอขายหุ้น ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นรวมราคาการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือราคาแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็นหุ้น แล้วแต่กรณี ของการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกในครั้งนี้
Qe = จำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตในครั้งนี้
Qo =จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ก่อนการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกในครั้งนี้
ทั้งนี้ การกำหนด Po และ Qo ให้คำนึงถึงความเหมาะสมและผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้น
(3) ในกรณีที่การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกกระทำอย่างต่อเนื่องเป็นโครงการ โครงการดังกล่าวต้องมีอายุไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน
(4) แสดงได้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขายหลักทรัพย์ที่ออกมีความชัดเจนและเป็นไปได้ และมีการคุ้มครองสิทธิของกรรมการหรือพนักงานที่จะซื้อหลักทรัพย์นั้นอย่างเพียงพอ
ข้อ 13 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ตามข้อ 3(1) หรือข้อ 3(2) ใดยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น โดยจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตนั้นไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 12(1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ที่ขออนุญาตดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 12(2) บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อแสดงได้ว่า
(1) การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกดังกล่าวมีความจำเป็นต่อความดำรงอยู่ของบริษัทหรือจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างชัดแจ้ง
(2)มีหนังสือนัดประชุมถึงผู้ถือหุ้นชี้แจงโดยละเอียด ถึงความจำเป็นต่อความดำรงอยู่ของบริษัทหรือจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างชัดแจ้ง ในอันที่จะต้องเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออก โดยจำนวนหุ้นไม่เป็นไปตามข้อ 12(1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามข้อ 12(2)
(3) มีมติที่ชัดแจ้งของที่ประชุมผู้ถือหุ้นในบริษัทดำเนินการเสนอขายหลักทรัพย์ ที่ออกแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ได้ โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า สามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง และต้องไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ยี่สิบห้าราย ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกนั้น
(4) เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 12(3) และ (4)โดยอนุโลม
บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง หากต้องดำเนินการตามข้อ 6(1)(ข) วรรคสอง ให้นำความใน (3) มาใช้บังคับการมีมติที่ประชุมตามข้อ 6(1) (ข) วรรคสองด้วย
ข้อ 14 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ตามข้อ 3(3) ใด ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพหรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น โดยจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตนั้นไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 12 (1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ที่ขอนุญาตดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ในข้อ 12(2) บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อแสดงได้ว่า
(1) มีความจำเป็นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 13(1)
(2) ได้ให้ข้อมูลโดยละเอียดแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามข้อ 3(1) หรือข้อ 3(2) ถึงความจำเป็นต่อความดำรงอยู่ของบริษัทหรือจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างชัดแจ้ง ในอันที่จะต้องเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกโดยจำนวนหุ้นไม่เป็นไปตามข้อ 12(1) หรือราคาเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามข้อ12(2)
(3) จัดให้ได้มาซึ่งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทตามข้อ 3(1) หรือข้อ 3(2) แล้วแต่กรณีซึ่งมีมติอย่างชัดแจ้งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 13(3) ให้ออกเสียงเห็นชอบด้วยกับการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกดังกล่าวของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ตามข้อ 3(3) โดยมติที่ประชุมดังกล่าวต้องไม่มีลักษณะเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นใดเป็นผู้ตัดสินใจในการออกเสียงเช่นนั้น
(4) เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 12(3) และ (4) โดยอนุโลม
บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง หากต้องดำเนินการตามข้อ 7(1)วรรคสอง ให้นำความใน (3) มาใช้บังคับกับการมีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทตามข้อ 3(1) หรือข้อ3(2) ด้วย
ข้อ 15 บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ต้องจัดให้มีที่ปรึกษาทางการเงินที่สำนักงานให้ความเห็นชอบ เป็นผู้ร่วมจัดทำคำขออนุญาตดังกล่าวด้วย
ข้อ16 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ได้รับอนุญาตจากสำนักงานให้ออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องเป็นโครงการ และบริษัทยังไม่สามารถระบุรายชื่อกรรมการและรายชื่อพนักงานตามข้อ 6(1)(ข) วรรคหนึ่ง ได้ ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ส่งสำเนามติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่เป็นไปตามข้อ 6(1) (ข) วรรคสอง หรือข้อ 7(1)วรรคสอง หรือข้อ 13 วรรคสอง หรือข้อ 14 วรรคสองแล้วแต่กรณี ต่อสำนักงาน ก่อนการเสนอขายหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ได้รับอนุญาตให้ออกตามประกาศนี้อย่างน้อยเจ็ดวันทำการ เว้นแต่จะได้มีการยื่นสำเนามติดังกล่าวมาพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์แล้ว
หมวด 3
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตเพิ่มเติม
สำหรับหลักทรัพย์ประเภทหุ้น
——————————————————————
ข้อ 17 ให้นำข้อ 5 หรือข้อ 6 แล้วแต่กรณี แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้น มาใช้บังคับกับการอนุญาตให้ออกหุ้นที่เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหุ้นแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัดโดยอนุโลม
หมวด 4
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตเพิ่มเติม
สำหรับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้แปลงสภาพ
————————————————————
ข้อ 18 ให้นำข้อ 6 ข้อ 8 และหมวด 5 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้ และข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 12 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพ มาใช้บังคับกับการขออนุญาตและการอนุญาตให้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์โดยอนุโลม
ข้อ 19 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นกู้แปลงสภาพเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ต้องแสดงเจตนาไว้อย่างชัดแจ้งในหนังสือชี้ชวนว่าจะไม่นำหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกดังกล่าวไปขอจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรือไปซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ในระยะสองปีแรกของอายุหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกนั้น และให้นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้มาใช้บังคับกับการขออนุญาตและการอนุญาตในกรณีดังกล่าวด้วย
(1) ข้อ 10 ข้อ 12 วรรคหนึ่ง ข้อ 13 ข้อ 14 ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 20(3) ข้อ 34 และข้อ 48 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้โดยอนุโลม
(2) ข้อ 11 และข้อ 13 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพโดยอนุโลม
(3 ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตให้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการพนักงานในวงจำกัด รายงานผลการใช้สิทธิแปลงสภาพให้สำนักงานทราบภายในสิบห้าวัน นับแต่วันสิ้นสุดการใช้สิทธิแปลงสภาพในแต่ละครั้ง เว้นแต่เป็นกรณีที่กรรมการหรือพนักงานอาจใช้สิทธิแปลงสภาพในลักษณะต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันที่กำหนดให้ใช้สิทธิ ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์นั้นรายงานผลการใช้สิทธิแปลงสภาพภายในสิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของทุกเดือนที่มีการใช้สิทธิ โดยให้ระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ใช้สิทธิแปลงสภาพและจำนวนหุ้นที่ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพ
ข้อ 20 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ยื่นคำขออนุญาตออกหุ้นกู้แปลงสภาพเสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ให้นำข้อ 5 หรือข้อ 6 แล้วแต่กรณี แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้น ข้อ 5 วรรคสอง แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพ และข้อ 20 ถึงข้อ 33 หมวด 2 หมวด 3 และหมวด 4 แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้นกู้ มาใช้บังคับกับการขออนุญาตและการอนุญาตในกรณีดังกล่าวด้วยโดยอนุโลม
หมวด 5
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตเพิ่มเติม
สำหรับหลักทรัพย์ประเภทใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
———————————————————————————
ข้อ 21 ให้นำข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 10 ข้อ 11 ข้อ 12 และข้อ 14 แห่งประกาศเกี่ยวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น มาใช้บังคับการขออนุญาตและการอนุญาตให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์โดยอนุโลม
ข้อ 22 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุญาตให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ดำเนินการตากหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) ให้นำข้อ 13 และข้อ 15 แห่งประกาศเกี่ยวกับในสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมาใช้บังคับโดยอนุโลม
(2) รายงานผลการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิให้สำนักงานทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นสุดการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธินั้นในแต่ละครั้ง เว้นแต่เป็นกรณีที่กรรมการหรือพนักงานอาจใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในลักษณะต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันที่กำหนดให้ใช้สิทธิ ให้บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์รายงานผลการใช้สิทธิภายในสิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของทุกเดือนที่มีการใช้สิทธิ โดยให้ระบุชื่อและที่อยู่ของผู้ใช้สิทธิและจำนวนหุ้นที่ได้ใช้สิทธิ
ข้อ 23 ในกรณีที่บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ยื่นคำขออนุญาตออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่มิใช่การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด ให้นำข้อ 5 หรือข้อ 6 แล้วแต่กรณี แห่งประกาศเกี่ยวกับหุ้น และข้อ 7 วรรคสองแห่งประกาศเกี่ยวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น มาใช้บังคับการขออนุญาตและการอนุญาตในกรณีดังกล่าวด้วยโดยอนุโลม
บทเฉพาะกาล
————————————————————
ข้อ 24 บริษัทที่จะออกหลังทรัพย์ใดยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการ พนักงาน หรือผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ตามประกาศนี้ โดยบริษัทนั้นได้มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ดำเนินการเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าวแก่กรรมการ พนักงาน หรือ ผู้รับช่วงซื้อหลักทรัยพ์ไว้ก่อนวันที่27 ธันวาคม 2537 ให้ได้รับยกเว้นมิให้นำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นคำขออนุญาตตามข้อ 6 และข้อ 7 หลักเกณฑ์เกี่ยวกับจำนวนหุ้นที่ออกเนื่องจากการยื่นคำขออนุญาตออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น และการกำหนดราคาเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าวตามข้อ 12(1)และ(2) และหลักเกณฑ์การอนุญาตตามข้อ 13 วรรคหนึ่ง (1) ถึง (3)และวรรคสองข้อ 14 วรรคหนึ่ง (1) ถึง (3) และวรรคสอง และข้อ 16 มาใช้บังคับ
ประกาศ ณ วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2538
(นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
———————————————————————————————————————————————————————————————————————————
———————————————————————————————————————————————————————————————————————————
คำชี้แจง
ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 12/2538เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการอนุญาตและการอนุญาตให้บริษัทมหาชนจำกัดออกหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงาน มีข้อความที่ควรอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้นดังนี้
1. การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงาน (ESOP) ตามประกาศนี้ หมายถึงการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์และของบริษัทย่อย และรวมถึงการเสนอขายให้แก่ผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ที่จะนำไปขายต่อให้แก่กรรมการหรือพนักงานข้างต้นด้วย
2. บริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้บังคับของประกาศนี้ได้แก่
2.1 บริษัทที่มีหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ (บริษัทจดทะเบียน)
2.2บริษัทที่เคยเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน ไม่ว่าโดยบริษัทเองหรือเจ้าของหลักทรัพย์ โดยยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้น (บริษัทที่เคยกระจายหุ้น)
2.3บริษัทที่บริษัทจดทะเบียน หรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น (บริษัทลูก)
3. ประกาศนี้ไม่ใช้บังคับกับการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานที่มีเงื่อนไขดังนี้
3.1 เป็นหลักทรัพยืที่เหลือจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน (right issue)
3.2 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติที่ชัดเจนในครั้งเดียวกับการมีมติให้ทำ right issue ว่าให้จัดสรรหลักทรัพย์ที่เหลือแก่กรรมการหรือพนักงาน
3.3 ราคาเสนอขายหลักทรัพย์ ต้องไม่ต่ำกว่าราคาเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้น
3.4กรณีบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทลูก หลักทรัพย์ที่เหลือดังกล่าวต้องไม่ใช่หลักทรัพย์ที่เกิดจากบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นสละสิทธิ right issue
ทั้งนี้ การเสนอขายหลักทรัพย์ข้างต้นต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์เดิมตามประกาศเกี่ยวกับหุ้น หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น แล้วแต่กรณี
4. การขออนุญาตและการอนุญาตตามข้อ 6 และ ข้อ 7 ของประกาศนี้ หมายความว่า
4.1 กรณีผู้ยื่นคำขออนุญาตเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติให้บริษัทเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงาน (มติให้เสนอขายหลักทรัพย์) โดยจัดส่งหนังสือนัดประชุมถึงผู้ถือหุ้นล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุม และหนังสือนัดประชุมดังกล่าวต้องมีรายละเอียดข้อมูลที่ครบถ้วนตามข้อ 6 (1) ของประกาศนี้ มีข้อสังเกตว่าในหนังสือนัดประชุมจะต้องระบุรายชื่อกรรมการทุกรายมีสิทธิได้รับหลักทรัพย์ในครั้งนี้ และรายชื่อพนักงานเฉพาะรายที่มีสิทธิได้รับหลักทรัพย์มากกว่าร้อยละ 5 ของหลักทรัพย์ที่เสนอขายในครั้งนี้ พร้อมทั้งจำนวนหุ้นที่บุคคลข้างต้นจะได้รับด้วย ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์อย่างเป็นโครงการ และไม่สามารถระบุข้อมูลดังกล่าวในหนังสือนัดประชุมเพื่อลงมติให้เสนอขายหลักทรัพย์ ให้บริษัทจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติให้บริษัทจัดสรรหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานดังกล่าวเป็นคราว ๆ ก่อนการเสนอขาย (มติให้จัดสรรหลักทรัพย์) โดยส่งหนังสือนัดประชุมที่ระบุรายชื่อกรรมการและพนักงานข้างต้นถึงผู้ถือหุ้นล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุมเพื่อขอมติให้จัดสรรหลักทรัพย์
(2) มีมติให้เสนอขายหลักทรัพย์และมติให้จัดสรรหลักทรัพย์ ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
(ก) มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม
(ข) ไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดคัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์
(ค) เป็นมติที่ไม่มีลักษณะเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้กำหนดรายละเอียดในการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์แทนที่ประชุมผู้ถือหุ้น เว้นแต่ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงน
4.2 กรณีบริษัทที่จะยื่นคำขออนุญาตเป็นบริษัทลูกโดยหลักการต้องดำเนินการเช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นแต่เน้นที่การให้ข้อมูลและการขอมติจากผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทแม่โดยต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ให้ข้อมูลเช่นเดียวกับข้อ 6(1) ของประกาศนี้ แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ เพื่อขอมติว่าจะออกเสียงเห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่กรรมการหรือพนักงานหรือไม่ (มติเห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์) ทั้งนี้ ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสรรให้แก่กรรมการและพนักงานที่ได้มากกว่าร้อยละ 5 ของหลักทรัพย์ที่เสนอขายในครั้งนี้ เช่นเดียวกับกรณีของบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้น และในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์อย่างเป็นโครงการและไม่สามารถระบุข้อมูลดังกล่าวก่อนการประชุมเพื่อขอมติเห็นชอบในบริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์ได้ ให้บริษัทลูกจัดให้ได้มาซึ่งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ที่เห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์แก่กรรมหรือพนักงานดังกล่าวเป็นคราว ๆ ก่อน เสนอขาย (มติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์โดยได้ส่งข้อมูลที่ระบุรายละเอียดกรรมการและพนักงานที่ได้รับการจัดสรรข้างต้นถึงผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุม เพื่อขอมติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์
(2) มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่เห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์หรือมติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
(ก) มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมเห็นชอบกับการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์ของบริษัทลูก
(ข) ไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์ของบริษัทลูก
(ค) เป็นมติที่ไม่ลักษณะเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นออกเสียงเห็นชอบแทนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
(3) มีมติที่ประชุมของบริษัทลูกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมอนุมัติให้บริษัทเสนอขายหลักทรัพย์
5. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตทั่วไปตามข้อ 12(1) ของประกาศนี้หมายความว่า บริษัทที่ยื่นคำขออนุญาตต้องแสดงได้ว่า จำนวนหุ้นที่เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในครั้งนี้เมื่อรวมกับจำนวนหุ้นสะสมที่เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในระยะ 5 ปีย้อนหลังก่อนยื่นคำขออนุญาตในครั้งนี้มีจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ทั้งนี้ จำนวนหุ้นสะสมที่เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในระยะ 5 ปีย้อนหลังก่อนยื่นคำขออนุญาตในครั้งนี้หมายถึง
(1) จำนวนหุ้นที่เคยได้รับอนุญาตให้เสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานตามประกาศนี้ในครั้งก่อน
(2) จำนวนหุ้น right issue ตามสัดส่วนของ (1)
(3) จำนวนหุ้น right issue ตามสัดส่วนของ (1) และ (2) ในทุก ๆ ทอด
ตัวอย่างการคำนวณตามตารางแนบท้าย
6. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตทั่วไปตามข้อ 13 และ 14 ของประกาศนี้หมายความว่า
6.1 กรณีบริษัทที่จะออกหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยกระจายหุ้นประสงค์จะออกหุ้นอันเนื่องจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานเป็นจำนวนเกินกว่าที่กำหนดในข้อ 12(1) หรือราคาการเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามสูตรในข้อ 12(2) บริษัทนั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้
(1) แสดงได้ว่าบริษัทมีเหตุจำเป็นและสมควรที่จะเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่เป็นไปตามเกณฑ์ข้างต้น และได้ระบุข้อความดังกล่าวในหนังสือนัดประชุมเพื่อขอมติให้เสนอขายหลักทรัพย์
(2) มีมติให้เสนอขายหลักทรัพย์และมติให้จัดสรรหลักทรัพย์ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และ ไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คัดค้านการเสนอขายหลักทรัพย์หรือการจัดสรรหลักทรัพย์ดังกล่าว
6.2 กรณีบริษัทที่ยื่นคำขออนุญาตเป็นบริษัทลูก ประสงค์จะออกหุ้นอันเนื่องจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานเป็นจำนวนเกินกว่าที่กำหนดในข้อ 12(1) หรือราคาการเสนอขายหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามสูตรในข้อ 12(2) บริษัทนั้นจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้
(1) แสดงได้ว่าบริษัทมีเหตุจำเป็นและสมควรที่จะเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่เป็นไปตามเกณฑ์ข้างต้น และได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่ เพื่อขอมติเห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์
(2) มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่เห็นชอบให้บริษัทลูกเสนอขายหลักทรัพย์หรือมติเห็นชอบให้บริษัทลูกจัดสรรหลักทรัพย์ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และไม่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 รายขึ้นไป ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดคัดค้าน
(3) มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทลูกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมอนุมัติให้บริษัทเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงาน
7. นอกจากเกณฑ์ข้างต้นแล้ว การเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการหรือพนักงานจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้น หุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิ แล้วแต่กรณีอีกด้วย โดยหากเป็นการเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานที่มีจำนวนไม่เกิน 35 รายในระยะเวลา 12 เดือนไม่ว่าจะขายแก่กรรมการหรือพนักงานโดยตรงหรือขายผ่านผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ (การเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานในวงจำกัด) ให้ใช้หลักเกณฑ์การเสนอขายแบบ private placement ของประกาศเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทนั้น และหากเป็นการเสนอขายแก่กรรมการหรือพนักงานที่ไม่ใช่ในวงจำกัด ก็ให้ใช้หลักเกณฑ์การเสนอขายแบบ public offering ของประกาศข้างต้น
ตัวอย่างการคำนวณจำนวนหุ้น ESOP=======================================================================================================วันที่ 1 ส.ค. 38 7 ธ.ค. 38 3 มิ.ย. 39 2 มี.ค. 40 1 ส.ค. 41 1 ก.พ. 42 -----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทุนชำระแล้ว 100 104 312 362 1448.0 1472.4 ทุนที่จะเพิ่ม 4 208 50 1086 24.4 2 5889.6ทุนชำระแล้วหลังการเพิ่มทุน 104 312 362 1448 1472.4 7362.0 ลักษณะการเพิ่มทุน ESOP RIGHT 1:2 ทำ po right 1:3 ESOP right 1:4 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------จำนวนหุ้น ESOP ยื่นคำขอครั้งนี้ 4 0 0 0 24.4 2 0.0จำนวนหุ้น ESOP ครั้งก่อน 0 4 4 4 4.0 28.4จำนวนหุ้น right ของ ESOP และ 0 8 8 44 1 44.0 333.6 3right ของ right ของ ESOP ทุกทอด ------------------------------------------------------------------------------------------------------------จำนวนหุ้น ESOP สะสม 4 12 12 48 72.4 362.0 ทุนชำระแล้ว 100 1148.0 ร้อยละของจำนวนหุ้น ESOP สะสมต่อทุนชำระแล้ว 4,000 5.0 =============================================================================================================จำนวนหุ้น ESOP ที่นำมาคำนวณในตารางนี้เฉพาะหุ้นที่ได้รับอนุญาตตามประกาศนี้เท่านั้น
1. 8 + right 1:3 ของ 8 + right 1:3 ของ 4 = 8+12+24 = 442. กรณีที่จะทำ ESOP ให้เต็มตามที่กฎหมายกำหนดจะเสนอขายหุ้น ESOP ได้จำนวนเท่าใด
จำนวนหุ้น ESOP สะสม / ทุนชำระแล้ว = 0.05
(44 + 4 + x) / 1448 = 0.05
x = 24.43. 44 + right 1:4 ของ 44 + right 1:4 ของ 28.4 = 44+176+113.6 = 333.6