การดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์

ข่าวกฏหมายและประกาศ Tuesday January 4, 2000 19:45 —ประกาศ ก.ล.ต.

                        ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กธ. 4/2543
เรื่อง การดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์
___________________________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 และมาตรา 98 (3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2543 เป็นต้นไป เว้นแต่ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 15 และข้อ 17 ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิก(1) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 35/2540 เรื่อง การจัดทำบัญชีหลักทรัพย์ ลงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2540(2) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 48/2540 เรื่อง การแยกบัญชีเงินของลูกค้า ลงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2540
(3) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 17/2542เรื่อง การแยกบัญชีเงินของลูกค้า (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2542
ข้อ 3 ในประกาศนี้ "ทรัพย์สิน" หมายความว่า(1) เงินสด(2) หลักทรัพย์(3) ทรัพย์สินอื่น(4) สิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากทรัพย์สินตาม (1) ถึง (3) เช่น สิทธิในเงินปันผลหรือดอกเบี้ย สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน และสิทธิในการเข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมผู้ถือหลักทรัพย์ เป็นต้น
"ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์" หมายความว่า ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์"บัญชีมาร์จิ้น" หมายความว่า บัญชีที่บันทึกรายการการให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อการซื้อหลักทรัพย์หรือการให้ลูกค้ายืมหลักทรัพย์เพื่อการขาย
"บัญชีเงินสด" หมายความว่า บัญชีที่บันทึกรายการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ซึ่งมิใช่รายการที่ต้องบันทึกไว้ในบัญชีมาร์จิ้น
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์หมวด 1บททั่วไป
ข้อ 4 ให้บริษัทหลักทรัพย์ที่รับดูแลรักษาทรัพย์สินให้แก่ลูกค้าไม่ว่าเพื่อประโยชน์ด้านการเก็บรักษา หรือเพื่อการซื้อหรือขายหรือยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ หรือเพื่อเป็นประกันการซื้อหรือขายหรือยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ หรือเพื่อประโยชน์อื่นใด ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับกองทรัพย์สินหรือบุคคลดังต่อไปนี้
(1) ทรัพย์สินของลูกค้าที่เป็นกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล หรือกองทุนอื่นในทำนองเดียวกัน ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์รับบริหารในฐานะผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวมหรือการจัดการกองทุนส่วนบุคคล หรือรับดูแลรักษาในฐานะผู้ดูแลผลประโยชน์หรือผู้รับฝากทรัพย์สิน
(2) สถาบันการเงินที่จัดตั้งตามกฎหมายอื่น และได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในภายหลัง
ข้อ 5 บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าซึ่งเป็นอิสระจากหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการซื้อขายหลักทรัพย์หรือการให้คำแนะนำด้านหลักทรัพย์ และต้องจัดให้มีระบบควบคุมภายในที่ดีในการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า โดยระบบดังกล่าวอย่างน้อยต้องแยกบุคลากรที่ทำหน้าที่จัดทำบัญชีทรัพย์สินของลูกค้า และบุคลากรที่ทำหน้าที่เก็บรักษาตัวทรัพย์สินของลูกค้า ออกจากกัน และกำหนดให้การจ่ายโอนทรัพย์สินของลูกค้าทุกครั้งต้องได้รับอนุมัติจากบุคลากรที่มีอำนาจของบริษัทซึ่งต้องมิใช่บุคลากรที่ทำหน้าที่จัดทำบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าและบุคลากรที่ทำหน้าที่เก็บรักษาตัวทรัพย์สินของลูกค้าดังกล่าว
ข้อ 6 บริษัทหลักทรัพย์ต้องกำหนดระเบียบหรือวิธีปฏิบัติในการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในประกาศนี้ โดยให้จัดทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แสดงถึงขั้นตอนการจัดการและบุคลากรที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ต้องดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบหรือวิธีปฏิบัติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ระเบียบหรือวิธีปฏิบัติตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องครอบคลุมถึงเรื่องดังต่อไปนี้(1) การรับหรือส่งมอบทรัพย์สินของลูกค้า (2) การบันทึกรายการทรัพย์สินของลูกค้า (3) การจัดการข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้า
ข้อ 7 ในการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า บริษัทหลักทรัพย์ต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้(1) แจ้งให้ลูกค้าเข้าใจและลงนามรับทราบถึงวิธีปฏิบัติของลูกค้าในการฝากหรือถอนทรัพย์สินกับหรือจากบริษัทหลักทรัพย์ วิธีการของบริษัทหลักทรัพย์ในการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า ตลอดจนค่าธรรมเนียมในการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า (ถ้ามี)
ในกรณีที่ข้อมูลตามวรรคหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทหลักทรัพย์ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ลูกค้าทราบโดยไม่ชักช้า
(2) เปิดเผยให้ลูกค้าทราบว่าในกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์ประสบปัญหาทางการเงิน เงินของลูกค้าที่เก็บรักษาไว้กับบริษัทหลักทรัพย์จะไม่อยู่ภายใต้มาตรการให้ความคุ้มครองของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(3) จัดให้มีสัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ระบุถึงสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ สัญญาหรือข้อตกลงดังกล่าวต้องไม่มีความตอนใดที่ทำให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถปฏิเสธความรับผิดต่อลูกค้าในกรณีที่ทรัพย์สินของลูกค้าสูญหายหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำหรือการละเลยการกระทำหน้าที่โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของบริษัทหลักทรัพย์ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทหลักทรัพย์ รวมทั้งบุคคลอื่นใดที่บริษัทหลักทรัพย์ยินยอมให้มีอำนาจดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า
ข้อ 8 ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์แต่งตั้งให้บุคคลใดเป็นตัวแทนของตนในการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า
ความในวรรคหนึ่งมิให้หมายความรวมถึงกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์ปฏิบัติตามความในข้อ 18 (1) (ก) หรือ (2) (ก)
ข้อ 9 ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์กระทำการใดอันมีผลเป็นการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับสิทธิของลูกค้าในทรัพย์สิน โดยปราศจากหรือไม่เป็นไปตามคำสั่งหรือความยินยอมของลูกค้าหรือบุคคลที่มีอำนาจสั่งการแทนลูกค้า
ข้อ 10 ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์นำทรัพย์สินของลูกค้ารายหนึ่งไปใช้เพื่อประโยชน์ของลูกค้าอีกรายหนึ่งหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นหรือของบริษัทหลักทรัพย์เอง เว้นแต่จะได้รับคำสั่งหรือความยินยอมจากลูกค้าเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นรายกรณี
ข้อ 11 บริษัทหลักทรัพย์ต้องดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการเป็นเจ้าของหลักทรัพย์หรือตราสารใดที่อยู่ในการดูแลรักษาของบริษัทหลักทรัพย์จากผู้ออกหลักทรัพย์หรือผู้ออกตราสารนั้นได้ภายในเวลาอันสมควร
ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์แสดงเจตนาใช้สิทธิประโยชน์ของลูกค้าโดยปราศจากคำสั่งหรือความยินยอมของลูกค้าเป็นลายลักษณ์อักษรหมวด 2การบันทึกรายการทรัพย์สินของลูกค้า
ข้อ 12 บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดทำบัญชีแสดงทรัพย์สินทุกรายการของลูกค้าแต่ละรายที่อยู่ในการดูแลรักษา โดยต้องแยกเป็นบัญชีต่างหากจากบัญชีทรัพย์สินอื่นใดของบริษัทหลักทรัพย์ และให้แยกไว้เป็นบัญชีมาร์จิ้นหรือบัญชีเงินสด แล้วแต่กรณีบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องแสดงรายละเอียดดังต่อไปนี้(1) วันที่รับหรือจ่ายทรัพย์สิน (2) จำนวนและประเภททรัพย์สิน (3) เหตุที่รับหรือจ่ายทรัพย์สิน ในกรณีที่ทรัพย์สินที่ถูกบันทึกไว้ในบัญชีทรัพย์สินของลูกค้ารายใดเป็นทรัพย์สินของบุคคลที่สามซึ่งถูกวางไว้เป็นหลักประกันเพื่อประโยชน์ของลูกค้ารายนั้น บริษัทหลักทรัพย์ต้องบันทึกชื่อบุคคลที่สามซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวไว้ในบัญชีทรัพย์สินของลูกค้ารายนั้นด้วย
ข้อ 13 บริษัทหลักทรัพย์ต้องบันทึกรายการในบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าให้ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน และในกรณีที่เป็นการบันทึกเพื่อแก้ไขรายการ บริษัทหลักทรัพย์ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันทำการที่พบเหตุแห่งการแก้ไขรายการ และต้องบันทึกเหตุผลประกอบการแก้ไขรายการทุกครั้ง
ข้อ 14 บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีการตรวจนับทรัพย์สินของลูกค้าในส่วนที่บริษัทหลักทรัพย์เก็บรักษาไว้เองอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อสอบทานความถูกต้องกับรายการที่ปรากฏในบัญชีที่บริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้จัดทำ
สำหรับทรัพย์สินของลูกค้าส่วนที่บริษัทหลักทรัพย์มิได้เก็บรักษาไว้เอง บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีระบบที่สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเพื่อสอบทานความถูกต้องของรายการทรัพย์สินที่ปรากฏในรายงานของบุคคลที่สามซึ่งเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินของลูกค้า กับรายการที่ปรากฏในบัญชีที่บริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้จัดทำ
ข้อ 15 บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดส่งรายงานแสดงทรัพย์สินของลูกค้าไปให้แก่ลูกค้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง เว้นแต่ในเดือนนั้นลูกค้าไม่มีธุรกรรมซึ่งก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงในทรัพย์สินที่มอบให้บริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้ดูแลรักษา โดยในกรณีที่ลูกค้ารายดังกล่าวไม่มีธุรกรรมติดต่อกันตั้งแต่หกเดือนขึ้นไป ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดส่งรายงานแสดงทรัพย์สินของลูกค้าไปให้แก่ลูกค้ารายนั้นอย่างน้อยทุกหกเดือนครั้ง
ข้อ 16 บริษัทหลักทรัพย์ต้องเก็บรักษาข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าไว้ให้พร้อมสำหรับให้สำนักงานเรียกดูหรือตรวจสอบย้อนหลังไม่น้อยกว่าสองปีหมวด 3การดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า
ข้อ 17 บริษัทหลักทรัพย์ต้องแยกทรัพย์สินที่อยู่ในการดูแลรักษาจำนวนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้เป็นทรัพย์สินของลูกค้า
(1) ทรัพย์สินประเภทเงิน จำนวนเงินที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องแยกไว้ในแต่ละวันต้องไม่น้อยกว่าผลรวมของยอดเงินคงเหลือสุทธิซึ่งคำนวณได้ ณ สิ้นวันทำการก่อน จากบัญชีเงินสดและบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้าทุกราย หลังจากหักเงินประกันการยืมหลักทรัพย์เพื่อขายชอร์ตของลูกค้าแต่ละรายนั้นในอัตราตามที่บริษัทหลักทรัพย์ได้ตกลงกับลูกค้าซึ่งเป็นผู้ยืมหลักทรัพย์แล้ว
บริษัทหลักทรัพย์อาจหักเงินดังต่อไปนี้ออกจากจำนวนทรัพย์สินที่ต้องแยกไว้เป็นทรัพย์สินของลูกค้าตามวรรคหนึ่งได้
(ก) เงินที่ลูกค้านำมาชำระหนี้ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ก่อนวันครบกำหนดชำระราคาตามธุรกรรมการซื้อหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นแล้ว
(ข) เงินที่ลูกค้านำมาชำระหนี้ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์เกินกว่าจำนวนที่ต้องชำระหนี้ตามธุรกรรมการซื้อหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นแล้ว และบริษัทหลักทรัพย์ได้ส่งเงินส่วนเกินดังกล่าวคืนให้แก่ลูกค้าภายในห้าวันทำการนับแต่วันที่ได้รับเงินจำนวนนั้น
(ค) เงินที่บริษัทหลักทรัพย์ได้รับแทนลูกค้าหรือในนามของลูกค้าตามธุรกรรมการขายหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้น และบริษัทหลักทรัพย์ได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้แก่ลูกค้าหรือส่งมอบเงินให้แก่ลูกค้าภายในวันครบกำหนดชำระราคาแล้ว
(ง) เงินที่บริษัทหลักทรัพย์ได้รับแทนลูกค้าหรือในนามของลูกค้า เนื่องจากเป็นเงินปันผลหรือดอกเบี้ยของหลักทรัพย์หรือตราสารที่ลูกค้าเป็นเจ้าของ และบริษัทหลักทรัพย์ได้ส่งเงินทั้งหมดนั้นให้แก่ลูกค้าภายในห้าวันทำการนับแต่วันที่บริษัทหลักทรัพย์ได้รับเงินนั้น
แต่ในกรณีที่ลูกค้าแจ้งความประสงค์ให้บริษัทหลักทรัพย์เก็บรักษาเงินตาม (ข) (ค) หรือ (ง) ไว้เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกรรมของลูกค้าในอนาคต บริษัทหลักทรัพย์ต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวมารวมในยอดเงินของวันทำการที่ได้รับทราบความประสงค์ของลูกค้า เพื่อการคำนวณจำนวนทรัพย์สินที่ต้องแยกไว้เป็นทรัพย์สินของลูกค้าตามวรรคหนึ่งต่อไป
(2) ทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์ จำนวนทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์ที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องแยกไว้ในแต่ละวันต้องไม่น้อยกว่าผลรวมของรายการหลักทรัพย์ที่บริษัทหลักทรัพย์บันทึกไว้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกค้าแต่ละราย ณ สิ้นวันทำการนั้น
(3) ทรัพย์สินประเภทอื่น จำนวนทรัพย์สินประเภทอื่นที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องแยกไว้ในแต่ละวันต้องไม่น้อยกว่าผลรวมของรายการทรัพย์สินประเภทอื่นที่บริษัทหลักทรัพย์บันทึกไว้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกค้าแต่ละราย ณ สิ้นวันทำการนั้น
ข้อ 18 การดำเนินการดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นการแยกทรัพย์สินตามข้อ 17 แล้ว
(1) ทรัพย์สินประเภทเงิน
(ก) แยกโดยการฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารอื่นที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น หรือการลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุน หรือบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ หรือการลงทุนในลักษณะอื่นตามที่สำนักงานประกาศกำหนด โดยต้องระบุอย่างชัดเจนในบัญชีเงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินหรือการลงทุนนั้นว่าเป็นการดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์เพื่อประโยชน์ของลูกค้า
ในกรณีที่เงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินตามวรรคหนึ่งเป็นประเภทชำระคืนเมื่อครบกำหนดระยะเวลา เงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวต้องไม่มีข้อห้ามการไถ่ถอนคืนก่อนครบกำหนด
(ข) แยกโดยการเก็บรักษาไว้เอง ซึ่งต้องกระทำในลักษณะที่สามารถชี้เฉพาะได้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของลูกค้าโดยปราศจากเหตุสงสัย
(2) ทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์
(ก) แยกโดยการฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ หรือธนาคารแห่งประเทศไทย โดยต้องระบุอย่างชัดเจนว่าหลักทรัพย์จำนวนดังกล่าวเป็นการฝากโดยบริษัทหลักทรัพย์เพื่อประโยชน์ของลูกค้า
(ข) แยกโดยการเก็บรักษาไว้เอง ซึ่งต้องกระทำในลักษณะที่สามารถชี้เฉพาะได้ว่าใบหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของลูกค้าโดยปราศจากเหตุสงสัย
(3) ทรัพย์สินอื่น ให้แยกไว้ในลักษณะที่สามารถชี้เฉพาะได้ว่าทรัพย์สินอื่นนั้นเป็นทรัพย์สินของลูกค้าโดยปราศจากเหตุสงสัย
ข้อ 19 บริษัทหลักทรัพย์อาจตกลงกับลูกค้าเพื่อกำหนดอัตราดอกผลที่บริษัทหลักทรัพย์จะคำนวณให้แก่ลูกค้าสำหรับยอดเงินจำนวนที่บริษัทหลักทรัพย์มีหน้าที่ต้องแยกไว้เป็นทรัพย์สินของลูกค้าตามประกาศนี้ไว้ด้วยก็ได้ แต่ทั้งนี้ อัตราดอกผลดังกล่าวต้องไม่เกินอัตราที่บริษัทหลักทรัพย์จะได้รับจริงจากการฝากเงินหรือลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินหรือการลงทุนในลักษณะอื่น
ข้อ 20 ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์นำเงินของลูกค้าที่ได้แยกไว้ตามข้อ 18 ไปเป็นหลักประกันหนี้เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นหรือของบริษัทหลักทรัพย์เอง
ข้อ 21 ภายใต้บังคับข้อ 18 (1) (ก) ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์นำเงินจำนวนที่ต้องแยกไว้เป็นทรัพย์สินของลูกค้าไปฝากไว้กับสถาบันการเงินที่มีความสัมพันธ์ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมกับบริษัทหลักทรัพย์ในลักษณะบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย หรือบริษัทร่วม เว้นแต่ลูกค้าจะแสดงความยินยอมโดยชัดแจ้ง
เพื่อประโยชน์ตามข้อนี้ คำว่า "บริษัทใหญ่" "บริษัทย่อย" และ "บริษัทร่วม"ให้หมายถึง บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทร่วมตามบทนิยามแห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรายงานการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ตามลำดับ ทั้งนี้ ความในตอนใดของบทนิยามดังกล่าวที่กล่าวถึง "บริษัทที่ออกหลักทรัพย์" ให้หมายถึง "บริษัทหลักทรัพย์"ตามประกาศนี้
ข้อ 22 ในกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้เก็บรักษาตัวทรัพย์สินของลูกค้าไว้เอง ไม่ว่าการจัดเก็บจะกระทำในสถานที่ของบริษัทหลักทรัพย์เองหรือใช้สถานที่ของบุคคลอื่น สถานที่นั้นต้องมีความมั่นคงและปลอดภัย และในกรณีที่เป็นการใช้สถานที่ของบุคคลอื่น บริษัทหลักทรัพย์ต้องแจ้งให้บุคคลอื่นนั้นทราบอย่างชัดเจนด้วยว่าทรัพย์สินที่นำมาเก็บรักษาเป็นทรัพย์สินของลูกค้า
ประกาศ ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2543
(นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ