กระบวนการอนุญาโตตุลาการ

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday November 28, 2001 14:49 —ประกาศ ก.ล.ต.

                           ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ อน. 25/2544
เรื่อง กระบวนการอนุญาโตตุลาการ
___________________
โดยที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จัดให้มีมาตรการให้ความคุ้มครองสิทธิของผู้ลงทุนในตลาดทุนซึ่งเป็นลูกค้าของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ เนื่องจากมีผู้ลงทุนได้รับความเสียหายจากการที่ผู้ประกอบการดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการที่ผู้ลงทุนจะได้รับการชดเชยความเสียหายดังกล่าวอาจมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากจนไม่คุ้มกับความเสียหายที่ได้รับ หรืออาจต้องใช้ระยะเวลานานในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทั่วไป จึงเห็นควรจัดให้มีทางเลือกในการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการระหว่างผู้ลงทุนกับผู้ประกอบการดังกล่าว ที่สะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และประหยัดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จึงออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ในประกาศนี้
"ผู้ถูกร้อง" หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมผู้รับฝากทรัพย์สินของกองทุนส่วนบุคคล ตัวแทนสนับสนุน และตัวแทนจำหน่ายหุ้น
"บริษัทหลักทรัพย์" หมายความว่า บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภท การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ การจัดการกองทุนรวม การจัดการกองทุนส่วนบุคคล การให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ และกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์
"ตัวแทนสนับสนุน" หมายความว่า บุคคลซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวมตั้งให้เป็นตัวแทนในการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
"ตัวแทนจำหน่ายหุ้น" หมายความว่า บุคคลซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ตั้งให้เป็นตัวแทนในการจำหน่ายหุ้นในประเทศ
"ตลาดหลักทรัพย์" หมายความว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หมวด 1
บททั่วไป
_________________
ข้อ 3 การดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการให้เป็นไปตามประกาศนี้ การใดที่มิได้ระบุไว้ ให้ดำเนินการไปตามความตกลงของคู่กรณี หรือตามที่อนุญาโตตุลาการเห็นสมควร หรือตามกฎหมายว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ แล้วแต่กรณี
ข้อ 4 ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ สำนักงานจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเป็นเจ้าหน้าที่ในงานธุรการให้กับอนุญาโตตุลาการ
หมวด 2
การรับคำร้องเสนอข้อพิพาท
______________________
ข้อ 5 ข้อพิพาทที่ผู้ร้องอาจเสนอเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
(1) เป็นข้อพิพาทอันเนื่องมาจากการที่ผู้ถูกร้องไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกฎเกณฑ์ที่ออกโดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงาน หรือคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาดหลักทรัพย์
(2) เป็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นแล้วไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่ผู้ร้องรู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งข้อพิพาทนั้น เว้นแต่สำนักงานเห็นว่ามีเหตุจำเป็นและสมควร
(3) เป็นข้อพิพาทที่ผู้ร้องแต่ละรายเรียกร้องค่าเสียหายไม่เกินหนึ่งล้านบาท
(4) เป็นข้อพิพาทที่ผู้ร้องได้ยื่นข้อร้องเรียนผ่านระบบการรับข้อร้องเรียนตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับการรับข้อร้องเรียนของลูกค้าแล้วแต่กรณีแล้ว และปรากฏว่า
(ก) ผู้ร้องไม่ได้รับการติดต่อจากผู้มีหน้าที่แก้ไขข้อร้องเรียนตามที่ประกาศดังกล่าวกำหนดภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ผู้ร้องยื่นข้อร้องเรียน
(ข) ผู้ร้องไม่ได้รับการแก้ไขข้อร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ผู้ร้องยื่นข้อร้องเรียน เว้นแต่ผู้ร้องตกลงขยายระยะเวลาดังกล่าว หรือ
(ค) ผู้ร้องไม่ได้รับการแก้ไขข้อร้องเรียนให้เป็นที่พอใจ และ
(5) เป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ร้องที่เป็นบุคคลธรรมดา ที่ตกลงรับ เข้ารับ หรือใช้บริการ หรือเข้าทำสัญญา กับผู้ถูกร้องเกี่ยวกับหลักทรัพย์หรือธุรกิจหลักทรัพย์ หรือเป็นข้อพิพาทระหว่างสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับผู้ถูกร้อง โดยผู้ร้องต้องแสดงหลักฐานเป็นหนังสือหรือข้อสัญญาที่แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกร้องตกลงยินยอมให้มีการเสนอข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ
ข้อ 6 การยื่นคำร้องเสนอข้อพิพาทต่อสำนักงาน ให้ยื่นตามแบบ อญ. 1 พร้อมแนบเอกสารหลักฐานประกอบตามที่ระบุในแบบดังกล่าวท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ผู้ร้องอาจแสดงความประสงค์ขอให้สำนักงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนเริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการก็ได้
ข้อ 7 กลุ่มผู้ร้องที่มีสิทธิเรียกร้องต่อผู้ถูกร้องเป็นแบบเดียวกันอันเนื่องมาจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกัน และผู้ร้องแต่ละรายมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพียงไม่เกินรายละหนึ่งล้านบาท หากประสงค์จะร่วมกันยื่นคำร้องเสนอข้อพิพาทต่อสำนักงาน ให้ทำหนังสือแต่งตั้งตัวแทนเพื่อดำเนินกระบวนการพิจารณา ตามแบบ อญ. 2 ท้ายประกาศนี้ เพื่อดำเนินการใด ๆ ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการแทนผู้ร้องทุกราย พร้อมทั้งระบุจำนวนอนุญาโตตุลาการกรณีที่เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ มาพร้อมกับการยื่นคำร้องเสนอข้อพิพาทด้วย
ข้อ 8 เมื่อสำนักงานลงทะเบียนรับคำร้องเสนอข้อพิพาทและตรวจคำร้องเสนอข้อพิพาทดังกล่าวแล้วพบว่า คำร้องเสนอข้อพิพาทไม่ครบถ้วนหรือไม่ชัดเจน ให้ผู้ร้องแก้ไขเพิ่มเติมให้เรียบร้อยภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักงาน ในกรณีที่ผู้ร้องไม่ดำเนินการภายในเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะดำเนินการต่อไป และสำนักงานจะยุติการดำเนินการสำหรับคำร้องเสนอข้อพิพาทนั้น
หากสำนักงานเห็นว่าคำร้องเสนอข้อพิพาทเป็นไปตามที่กำหนดในข้อ 5 สำนักงานจะส่งสำเนาคำร้องเสนอข้อพิพาทดังกล่าวไปยังผู้ถูกร้องตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในคำร้องเสนอข้อพิพาท โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ
ในกรณีที่คำร้องเสนอข้อพิพาทไม่เป็นไปตามที่กำหนดในข้อ 5 สำนักงานจะแจ้งการไม่รับคำร้องเสนอข้อพิพาทนั้นไปยังผู้ร้องภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับคำร้องเสนอข้อพิพาท
ข้อ 9 เมื่อผู้ถูกร้องได้รับสำเนาคำร้องเสนอข้อพิพาทแล้ว อาจยื่นคำคัดค้านข้อพิพาทตามแบบ อญ. 3 ท้ายประกาศนี้ ต่อสำนักงานภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องเสนอข้อพิพาท
ข้อ 10 ในกรณีที่คู่กรณีประสงค์จะแต่งตั้งบุคคลใดเป็นตัวแทนในการดำเนินการใดๆในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ หรือประสงค์จะแต่งตั้งบุคคลใดเพื่อช่วยเหลือในการดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ให้แจ้งชื่อและที่อยู่ของบุคคลดังกล่าวโดยทำเป็นหนังสือและยื่นต่อสำนักงาน
หมวด 3
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
__________________
ข้อ 11 ในกรณีที่ผู้ร้องแสดงความประสงค์ขอให้สำนักงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนเริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการ สำนักงานจะแจ้งให้ผู้ถูกร้องทราบความประสงค์ดังกล่าวไปพร้อมกับการส่งสำเนาคำร้องเสนอข้อพิพาทให้ผู้ถูกร้อง
เมื่อผู้ถูกร้องได้รับสำเนาคำร้องเสนอข้อพิพาทที่ผู้ร้องประสงค์จะไกล่เกลี่ย ให้ผู้ถูกร้องแจ้งให้สำนักงานทราบเป็นหนังสือว่าประสงค์จะไกล่เกลี่ยหรือไม่ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องเสนอข้อพิพาท และหากผู้ถูกร้องไม่แจ้งภายในเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ถูกร้องไม่ประสงค์จะไกล่เกลี่ย ทั้งนี้ ผู้ถูกร้องอาจยื่นคำคัดค้านข้อพิพาทมาพร้อมกับหนังสือแจ้งความประสงค์เรื่องการไกล่เกลี่ยข้างต้นได้
ข้อ 12 ในกรณีที่การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นผลสำเร็จ ให้คู่กรณีทำสัญญาประนีประนอมตามแบบ อญ. 4 ท้ายประกาศนี้ หากการไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะเกิดจากคู่กรณีตกลงกันไม่ได้หรือสำนักงานเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไกล่เกลี่ยต่อไป ให้คู่กรณีแจ้งต่อสำนักงานเพื่อขอยุติการไกล่เกลี่ย หรือสำนักงานสั่งให้ยุติการไกล่เกลี่ยดังกล่าว แล้วแต่กรณี และเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการต่อไป
หมวด 4
การตั้งอนุญาโตตุลาการ
___________________
ข้อ 13 ในการดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ให้มีอนุญาโตตุลาการจำนวนหนึ่งคนเป็นผู้ชี้ขาด เว้นแต่เป็นกรณีตามข้อ 14 ทั้งนี้ ให้คู่กรณีเลือกรายชื่ออนุญาโตตุลาการจากทะเบียนรายชื่ออนุญาโตตุลาการของสำนักงานด้วยวิธีดังต่อไปนี้
(1) ให้ผู้ร้องเลือกรายชื่ออนุญาโตตุลาการโดยเรียงตามลำดับความพอใจสามลำดับ และแจ้งรายชื่อดังกล่าวให้สำนักงานทราบเป็นหนังสือภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ยื่นคำร้องเสนอข้อพิพาท หรือวันที่สิ้นสุดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเนื่องจากการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผลสำเร็จ แล้วแต่กรณี หากผู้ร้องไม่แจ้งรายชื่อภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการต่อไปและสำนักงานจะยุติการดำเนินการสำหรับคำร้องเสนอข้อพิพาทนั้น เว้นแต่สำนักงานเห็นว่ามีเหตุจำเป็นและสมควร
(2) เมื่อสำนักงานจัดส่งรายชื่ออนุญาโตตุลาการที่ผู้ร้องเลือกไว้สามชื่อให้แก่ผู้ถูกร้องแล้ว ให้ผู้ถูกร้องเลือกอนุญาโตตุลาการหนึ่งคนจากรายชื่อทั้งสาม และแจ้งต่อสำนักงานภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้ถูกร้องได้รับรายชื่อนั้น หากผู้ถูกร้องไม่แจ้งรายชื่ออนุญาโตตุลาการที่ตนเลือกไว้หนึ่งรายชื่อภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ถูกร้องประสงค์จะตั้งอนุญาโตตุลาการตามรายชื่อลำดับที่หนึ่งที่ผู้ร้องเลือกไว้
(3) ในกรณีที่ผู้ถูกร้องประสงค์จะคัดค้านรายชื่อทั้งสามที่ผู้ร้องเลือกไว้เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยถึงความเป็นอิสระหรือความเป็นกลางของอนุญาโตตุลาการนั้น ให้ยื่นหนังสือคัดค้านการตั้งอนุญาโตตุลาการพร้อมด้วยเหตุผลของการคัดค้าน ตามแบบ อญ. 6 ท้ายประกาศนี้ ต่อสำนักงานภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้ถูกร้องได้รับรายชื่อนั้น หากสำนักงานเห็นว่าการคัดค้านดังกล่าวมีเหตุที่อาจกล่าวอ้างเพื่อคัดค้านอนุญาโตตุลาการได้ ให้ดำเนินการตาม (1) และ (2) โดยอนุโลม จนกว่าจะไม่สามารถเลือกอนุญาโตตุลาการจากรายชื่ออนุญาโตตุลาการของสำนักงานได้
(4) หากคู่กรณีไม่สามารถเลือกอนุญาโตตุลาการจากทะเบียนรายชื่ออนุญาโตตุลาการของสำนักงานได้ หรือไม่สามารถเลือกอนุญาโตตุลาการให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับคำร้องเสนอข้อพิพาทที่ครบถ้วนตามเงื่อนไขการรับข้อพิพาท หรือวันที่สิ้นสุดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเนื่องจากการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผลสำเร็จ ให้ถือว่าคู่กรณีไม่ประสงค์จะดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการต่อไป และสำนักงานจะยุติการดำเนินการสำหรับคำร้องเสนอข้อพิพาทนั้น เว้นแต่สำนักงานเห็นว่ามีเหตุจำเป็นและสมควร
ข้อ 14 ในกรณีที่มีผู้ร้องร่วมกันยื่นคำร้องเสนอข้อพิพาทตามข้อ 7 และมีการเรียกร้องค่าเสียหายรวมกันเกินกว่าหนึ่งล้านบาท ผู้ร้องอาจแสดงความประสงค์ขอให้มีอนุญาโตตุลาการจำนวนสามคนได้ โดยให้แสดงความประสงค์เช่นนั้นมาในคำร้องเสนอข้อพิพาท และผู้ถูกร้องอาจแสดงเจตนาว่าตกลงจะมีอนุญาโตตุลาการจำนวนสามคนหรือไม่ มาในคำคัดค้านตามข้อ 9 หากคู่กรณีตกลงจะมีอนุญาโตตุลาการจำนวนสามคน ให้มีการเลือกอนุญาโตตุลาการจากทะเบียนรายชื่ออนุญาโตตุลาการของสำนักงานด้วยวิธีดังต่อไปนี้
(1) ให้ผู้ร้องเลือกอนุญาโตตุลาการหนึ่งคนโดยแจ้งรายชื่อให้สำนักงานทราบเป็นหนังสือภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่สิ้นสุดระยะเวลาการยื่นคำคัดค้านของผู้ถูกร้องหรือวันที่สิ้นสุดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเนื่องจากการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผลสำเร็จ แล้วแต่กรณี หากผู้ร้องไม่แจ้งรายชื่ออนุญาโตตุลาการภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการต่อไปและสำนักงานจะยุติการดำเนินการสำหรับคำร้องเสนอข้อพิพาทนั้น เว้นแต่สำนักงานเห็นว่ามีเหตุจำเป็นและสมควร
(2) ให้ผู้ถูกร้องเลือกอนุญาโตตุลาการหนึ่งคนโดยแจ้งรายชื่อให้สำนักงานทราบเป็นหนังสือภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่สิ้นสุดระยะเวลาการยื่นคำคัดค้านหรือวันที่สิ้นสุดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเนื่องจากการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผลสำเร็จ หากผู้ถูกร้องไม่แจ้งรายชื่ออนุญาโตตุลาการภายในกำหนดเวลาดังกล่าว สำนักงานจะเป็นผู้เลือกอนุญาโตตุลาการให้ผู้ถูกร้องแทน
(3) ให้อนุญาโตตุลาการที่ได้รับเลือกตาม (1) และ (2) ร่วมกันเลือกอนุญาโตตุลาการอีกหนึ่งคนเพื่อทำหน้าที่เป็นประธานอนุญาโตตุลาการ หากผู้ถูกร้องปฏิเสธการมีอนุญาโตตุลาการจำนวนสามคน หรือผู้ถูกร้องไม่แสดงเจตนาว่าตกลงจะมีอนุญาโตตุลาการสามคนหรือไม่ภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าผู้ถูกร้องประสงค์จะมีอนุญาโตตุลาการจำนวนหนึ่งคน และให้ผู้ร้องเลือกรายชื่ออนุญาโตตุลาการโดยเรียงลำดับความพอใจสามลำดับ และแจ้งรายชื่อดังกล่าวให้สำนักงานทราบเป็นหนังสือภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่สำนักงานแจ้งให้ผู้ร้องทราบถึงการปฏิเสธหรือการไม่แสดงเจตนาของผู้ถูกร้อง หากผู้ร้องไม่แจ้งรายชื่อภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการต่อไป และสำนักงานจะยุติการดำเนินการสำหรับคำร้องเสนอข้อพิพาทนั้น เว้นแต่สำนักงานเห็นว่ามีเหตุจำเป็นและสมควร ทั้งนี้ให้นำความในข้อ 13 (2) (3) และ (4) มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ 15 เมื่อมีการเลือกอนุญาโตตุลาการตามข้อ 13 หรือข้อ 14 แล้ว ให้คู่กรณีตั้งอนุญาโตตุลาการตามแบบ อญ. 5 หรือแบบ อญ. 5-1 ท้ายประกาศนี้ แล้วแต่กรณี
ข้อ 16 อนุญาโตตุลาการที่ได้รับการแต่งตั้งต้องเปิดเผยให้คู่กรณีทราบถึงข้อเท็จจริงที่อาจเป็นเหตุให้สงสัยในความเป็นอิสระและความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอนุญาโตตุลาการ (ถ้ามี)
ข้อ 17 หากปรากฏข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุอันควรสงสัยในความเป็นอิสระหรือความเป็นกลางของอนุญาโตตุลาการรายใด คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจยื่นหนังสือคัดค้านการตั้งอนุญาโตตุลาการรายนั้นพร้อมด้วยเหตุผลของการคัดค้าน ตามแบบ อญ.6 ท้ายประกาศนี้ ต่อสำนักงานภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุนั้น ทั้งนี้ ต้องกระทำก่อนวันที่อนุญาโตตุลาการสั่งปิดการพิจารณาข้อพิพาท
หากสำนักงานเห็นชอบกับการคัดค้าน ให้ดำเนินการเลือกอนุญาโตตุลาการโดยนำความในข้อ 13 หรือข้อ 14 มาใช้บังคับโดยอนุโลม กรณีการคัดค้านไม่เป็นผลให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ การที่อนุญาโตตุลาการถูกคัดค้าน หรืออนุญาโตตุลาการขอถอนตัว มิได้หมายถึงการยอมรับถึงความถูกต้องแห่งเหตุคัดค้าน
หมวด 5
กระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการ
____________________________
ข้อ 18 กระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการให้กำหนดเป็นภาษาไทย และไม่ว่าการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการจะได้ดำเนินไปแล้วเพียงใด หากอนุญาโตตุลาการเห็นสมควร อนุญาโตตุลาการอาจไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนั้นก็ได้
ข้อ 19 การสืบพยานจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเปิดเผย เว้นแต่คู่กรณีจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น และให้เป็นไปตามวิธีการต่อไปนี้
(1) ให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายยื่นเสนอพยานเอกสารต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนข้ออ้างของตนต่ออนุญาโตตุลาการในวันนัดพิจารณาครั้งแรก ในกรณีที่อนุญาโตตุลาการเห็นสมควร อนุญาโตตุลาการอาจสั่งให้คู่กรณีส่งเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเพิ่มเติมก็ได้
(2) ในการสืบพยานบุคคล ให้อนุญาโตตุลาการบันทึกคำพยานโดยย่อเพื่ออ่านและให้พยานลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานและรวบรวมไว้ในสำนวน
ข้อ 20 หากอนุญาโตตุลาการเห็นว่าจำเป็นและสมควร อาจขอความเห็นเกี่ยวกับข้อพิพาทจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรืออาจขอความเห็นชอบจากคู่กรณีให้มีผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ความเห็นที่เกี่ยวข้องในข้อพิพาทได้ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต้องมีความเป็นอิสระ และไม่มีส่วนได้เสียกับคู่กรณีอันอาจทำให้ไม่สามารถให้ความเห็นได้อย่างเป็นกลาง และยุติธรรม
ให้อนุญาโตตุลาการเป็นผู้กำหนดค่าตอบแทนผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินคนละ ห้าหมื่นบาทต่อข้อพิพาท และค่าตอบแทนดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการตามข้อ 32
ข้อ 21 ถ้าผู้ร้องไม่มาตามกำหนดนัดพิจารณานัดแรก และมิได้แจ้งเหตุขัดข้องเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนเริ่มพิจารณา อนุญาโตตุลาการอาจสั่งจำหน่ายคำร้องเสนอข้อพิพาทเสีย หรือหากอนุญาโตตุลาการเห็นสมควร อาจดำเนินกระบวนพิจารณาไปแต่ฝ่ายเดียว
ในกรณีที่คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มาตามกำหนดนัดพิจารณานัดอื่นใดที่มิใช่กำหนดนัดพิจารณานัดแรก และมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนกระบวนพิจารณาหรือมิได้แจ้งเหตุขัดข้องเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนเริ่มพิจารณา หากอนุญาโตตุลาการเห็นสมควรก็ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาไปแต่ฝ่ายเดียว
กรณีผู้ถูกร้องขอเลื่อนกำหนดนัดพิจารณาและอนุญาโตตุลาการเห็นสมควรให้เลื่อนกระบวนพิจารณาได้แต่ไม่เกินสองนัด โดยอนุญาโตตุลาการอาจคิดค่าใช้จ่ายจากผู้ถูกร้องตามความเป็นจริง (ถ้ามี) เพื่อจ่ายให้กับผู้ร้องก็ได้
ข้อ 22 ถ้าคู่กรณีไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดมาเสนอต่ออนุญาโตตุลาการอีก ให้อนุญาโตตุลาการสั่งปิดการพิจารณา
หมวด 6
คำชี้ขาด
_______________
ข้อ 23 การทำคำชี้ขาดต้องให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ตั้งอนุญาโตตุลาการ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและสมควรให้เป็นดุลยพินิจของอนุญาโตตุลาการที่จะขยายระยะเวลาออกไปได้อีกแต่ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ตั้งอนุญาโตตุลาการ เว้นแต่คู่กรณีจะตกลงขยายระยะเวลาเป็นอย่างอื่น
ข้อ 24 ในกรณีที่เป็นข้อพิพาทที่มีอนุญาโตตุลาการสามคนเป็นผู้ชี้ขาดข้อพิพาท ให้อนุญาโตตุลาการมีคะแนนเสียงคนละหนึ่งเสียง และการทำคำชี้ขาดให้เป็นไปตามเสียงข้างมากในกรณีที่ไม่สามารถทำคำชี้ขาดเนื่องจากไม่อาจหาเสียงข้างมากได้ อนุญาโตตุลาการอาจมีคำสั่งยุติการดำเนินกระบวนการทั้งปวงและสั่งจำหน่ายคำร้องเสนอข้อพิพาทนั้นโดยไม่รับค่าป่วยการ
ข้อ 25 คำชี้ขาดจะต้องทำตามแบบ อญ.7 ท้ายประกาศนี้ โดยสำนักงานจะส่งสำเนาคำชี้ขาดไปยังคู่กรณีภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด
ข้อ 26 สำนักงานอาจเปิดเผยคำชี้ขาดต่อสาธารณชนโดยไม่เปิดเผยชื่อจริงของคู่กรณี เว้นแต่คู่กรณียินยอม
ข้อ 27 ในกรณีที่คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อความในคำชี้ขาด คู่กรณีฝ่ายนั้นอาจยื่นคำร้องต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อให้อนุญาโตตุลาการตีความข้อความดังกล่าว โดยยื่นผ่านสำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คู่กรณีฝ่ายนั้นได้รับสำเนาคำชี้ขาด ทั้งนี้ ให้ถือว่าการตีความเป็นส่วนหนึ่งของคำชี้ขาดดังกล่าว
ข้อ 28 ในกรณีที่อนุญาโตตุลาการมิได้ชี้ขาดในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญใด คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจยื่นคำร้องต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อให้อนุญาโตตุลาการทำคำชี้ขาดเพิ่มเติมในประเด็นนั้น โดยยื่นผ่านสำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คู่กรณีฝ่ายนั้นได้รับสำเนาคำชี้ขาด
ในกรณีที่อนุญาโตตุลาการเห็นว่าประเด็นนั้นเป็นสาระสำคัญและยังมิได้ชี้ขาดไว้ให้ทำคำชี้ขาดในประเด็นนั้นให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องหากอนุญาโตตุลาการเห็นว่าการทำคำชี้ขาดเพิ่มเติมนั้นไม่อาจกระทำได้ นอกจากจะต้องรับฟังข้อเท็จจริงนั้นเพิ่มเติม อนุญาโตตุลาการอาจสั่งให้คู่กรณีนำพยานหลักฐานมาสืบได้ ทั้งนี้ อนุญาโตตุลาการจะต้องทำคำชี้ขาดเพิ่มเติมดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นให้เป็นดุลยพินิจของอนุญาโตตุลาการที่จะขยายเวลาออกไปได้อีกตามสมควร ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
ข้อ 29 ให้อนุญาโตตุลาการส่งมอบสำนวนความและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้สำนักงานจัดเก็บ
หมวด 7
ค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการ และค่าใช้จ่ายอื่น
____________________________________
ข้อ 30 ค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการให้คิดในอัตราร้อยละสองของค่าเสียหายที่เรียกร้อง ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่าห้าพันบาท โดยอนุญาโตตุลาการจะกำหนดผู้มีหน้าที่ในการชำระค่าป่วยการดังกล่าว
ในกรณีการร่วมกันยื่นคำร้องเสนอข้อพิพาทตามข้อ 7 ให้คิดค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการตามอัตราในวรรคหนึ่งจากค่าเสียหายที่เรียกร้องรวมกันทั้งหมด แต่ค่าป่วยการดังกล่าวไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อข้อพิพาท และในกรณีที่มีการตั้งอนุญาโตตุลาการสามคน ให้คิดค่าป่วยการตามอัตราดังกล่าว และอนุญาโตตุลาการแต่ละรายจะได้รับค่าป่วยการไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อข้อพิพาท
ข้อ 31 อนุญาโตตุลาการที่ได้รับการแต่งตั้งจากคู่กรณีให้เป็นผู้ชี้ขาดข้อพิพาทมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนจากสำนักงานในการพิจารณาข้อพิพาทครั้งละ 2,000 บาท แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 20,000 บาทในแต่ละข้อพิพาท
ข้อ 32 ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ให้คู่กรณีรับภาระฝ่ายละกึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งนี้ สำนักงานจะรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของผู้ร้องตามที่สำนักงานเห็นสมควร
เพื่อประโยชน์ในการคำนวณค่าใช้จ่ายตามวรรคหนึ่ง สำนักงานจะถือว่ากระบวนการอนุญาโตตุลาการเริ่มตั้งแต่วันแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ
ข้อ 33 ให้คู่กรณีแต่ละฝ่ายวางเงินประกันค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อ 30 ภายในวันแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ หากคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมิได้วางเงินประกันค่าป่วยการตามที่กำหนด ให้ถือว่าคู่กรณีไม่ประสงค์จะดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการต่อไป เว้นแต่คู่กรณีดังกล่าวจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานให้ขยายระยะเวลาหากมีเหตุผลจำเป็นและสมควร
ข้อ 34 ในกรณีที่มีการยุติกระบวนการอนุญาโตตุลาการไม่ว่ากรณีใด หากอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งให้คู่กรณีฝ่ายใดเป็นผู้มีหน้าที่ชำระค่าป่วยการ สำนักงานจะคืนเงินประกันค่าป่วยการโดยไม่มีดอกเบี้ยให้แก่คู่กรณีที่วางเงินประกันไว้เกิน ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่อนุญาโตตุลาการมีคำสั่งเช่นว่านั้น
ประกาศ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544
(นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ