การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 14)

ข่าวกฏหมายและประกาศ Thursday November 23, 2000 13:02 —ประกาศ ก.ล.ต.

                    ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สบ. 61/2543
เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล
การจดทะเบียน และยื่นคำขอต่าง ๆ
(ฉบับที่ 14)
______________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 9/2543 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2543 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ 6 ค่าธรรมเนียมครั้งแรกตามข้อ 5(1) ให้คิดในอัตราดังนี้
(1) กรณีการเสนอขายหุ้น ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(2) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขาย หรือของวงเงินทั้งหมดที่เสนอขายหุ้นกู้หมุนเวียนระยะสั้น แล้วแต่กรณี
ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้เป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(3) กรณีการเสนอขายพันธบัตร ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าของพันธบัตรทั้งหมดที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของพันธบัตรที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายพันธบัตรเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(4) กรณีการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.04 ของมูลค่าหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดที่เสนอขาย ในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(5) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
(ก) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุไม่เกินหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
(ข) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นมีอายุมากกว่าหนึ่งปี ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นนั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(6) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.03 ของมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นกู้ทั้งหมดที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย
ในการคำนวณมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นกู้ที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นกู้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้นั้นเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(7) กรณีการเสนอขายใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้โดยเจ้าของใบแสดงสิทธิดังกล่าว ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.08 ของมูลค่าของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ทั้งหมดที่เสนอขายรวมกับมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่รองรับใบแสดงสิทธิดังกล่าว
ในการคำนวณมูลค่าของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ที่เสนอขาย ให้ใช้ราคาเสนอขายใบแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม และในการคำนวณมูลค่าของหุ้นที่รองรับใบแสดงสิทธินั้น ให้ใช้ราคาที่จะซื้อหุ้นตามใบแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นฐานในการคิดค่าธรรมเนียม
(8) กรณีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ให้คิดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลครั้งละ 100,000 บาท
(9) กรณีการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามประกาศว่าด้วยหลักทรัพย์ที่ออกใหม่พร้อมกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เดิมของบริษัทจดทะเบียนเพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ ให้คิดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลครั้งละ 100,000 บาท
การเสนอขายหลักทรัพย์ในกรณีใดที่ราคาเสนอขายหลักทรัพย์นั้นจะไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลา ให้คำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายโดยใช้ราคาสูงสุดที่จะเสนอขาย หรือในกรณีที่ราคาเสนอขายหลักทรัพย์กำหนดเป็นสูตรซึ่งอ้างอิงกับข้อมูลในอนาคต ให้คำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายจากสูตรดังกล่าวโดยใช้ข้อมูลในวันก่อนวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์นั้นการเสนอขายหลักทรัพย์ในกรณีใดที่ราคาเสนอขายกำหนดเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ ให้คำนวณมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายเป็นเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ (อัตราซื้อตั๋วเงิน) สำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดังกล่าว ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศในวันก่อนวันที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมครบถ้วนของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์นั้น"
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 7 วรรคหนึ่ง แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(2) ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในกรณีอื่นใดที่มิใช่กรณีตาม (1) ให้ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียม 30,000 บาท ในวันที่สำนักงานได้รับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และถ้ายังมีส่วนที่เหลือต้องชำระอีก ให้ชำระส่วนที่เหลือให้ครบถ้วนในวันที่สำนักงานได้รับรายละเอียดของข้อมูลและเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วนถูกต้องเกี่ยวกับราคาเสนอขายหลักทรัพย์ การจอง การจัดจำหน่าย และการจัดสรร และผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลของผู้เสนอขายหลักทรัพย์ได้ลงลายมือชื่อไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการยื่นและการยกเว้นการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ เว้นแต่ค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่ต้องชำระน้อยกว่า 30,000 บาท ให้ชำระเต็มจำนวนในวันที่สำนักงานได้รับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์"
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 8 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 10/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สบ. 33/2541 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2541 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ 8 ค่าธรรมเนียมครั้งต่อไปตามข้อ 5(2) ให้คิดในอัตราดังนี้
(1) ในกรณีที่เป็นการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียม 50,000 บาท ในวันที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ส่งงบการเงินสำหรับงวดประจำปีบัญชี
(2) ในกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในกรณีอื่นใดที่มิใช่กรณีตาม (1) ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียมตามส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินสำหรับงวดประจำปีบัญชี ทั้งนี้ ให้ชำระค่าธรรมเนียมในวันที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ส่งงบการเงินสำหรับงวดประจำปีบัญชีดังกล่าว
(ก) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ถึง 500 ล้านบาท
ให้ชำระค่าธรรมเนียม 50,000 บาท
(ข) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 500 ล้านบาท
แต่ไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ให้ชำระค่าธรรมเนียม 100,000 บาท
(ค) บริษัทที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท
ให้ชำระค่าธรรมเนียม 300,000 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานอาจเปลี่ยนแปลงอัตราที่กำหนดไว้นี้ได้ แต่จะไม่เป็นผลให้อัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 15 ทุกรอบระยะเวลาสามปี
ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เสนอขายหลักทรัพย์หลายประเภท ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ชำระค่าธรรมเนียมเพียงจำนวนเดียวตามวรรคหนึ่ง (2) และในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทตามข้อ 4(2) หรือ (3) และบริษัทดังกล่าวไม่มีการเสนอขายหลักทรัพย์อื่นใด ให้บริษัทชำระค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 80 ของค่าธรรมเนียมที่กำหนดไว้ตามวรรคหนึ่ง (2) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ใดไม่เคยถูกดำเนินการเปรียบเทียบความผิดเนื่องจากไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามที่กฎหมายกำหนดในรอบระยะเวลาบัญชีก่อนการชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมของรอบระยะเวลาบัญชีที่ต้องชำระในปีบัญชีนั้นในอัตราร้อยละ 20 ของค่าธรรมเนียมดังกล่าว"
ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
(นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ