ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สร. 20/2560
เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความในสัญญาก่อตั้งทรัสต์
ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
(ฉบับที่ 2)
_________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 มาตรา 15 และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 สำนักงาน ก.ล.ต. ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ 1 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สร. 25/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความใน สัญญาก่อตั้งทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“คำว่า “หน่วยทรัสต์” “ผู้ลงทุนรายใหญ่” “ผู้จัดการกองทรัสต์” “ทุนชำระแล้ว” “กิจการโครงสร้างพื้นฐาน” “โครงการที่ไม่แล้วเสร็จ” “ที่ปรึกษาทางการเงิน” “การกู้ยืมเงิน” “สมาคม” และ “กลุ่มบุคคลเดียวกัน” ให้มีความหมายเช่นเดียวกับบทนิยามของคำดังกล่าวในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน”
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 17 และข้อ 18 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สร. 25/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความ ในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 17 รายการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของกองทรัสต์และการก่อภาระผูกพันใด ๆ ต้องมีข้อกำหนดอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) ข้อกำหนดที่แสดงว่า กองทรัสต์สามารถกู้ยืมเงินได้หรือไม่ ด้วยวิธีการใด เช่น การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน หรือการออกตราสารหรือเข้าทำสัญญาที่มีลักษณะเป็นการกู้ยืม เป็นต้น ทั้งนี้ ในกรณีที่กองทรัสต์จะมีการกู้ยืมเงินต้องมีข้อกำหนดหน้าที่ของผู้จัดการกองทรัสต์ในเรื่องดังต่อไปนี้เพิ่มเติมด้วย
(ก) การเปิดเผยจำนวนเงินกู้ยืม และเงินกันสำรองเพื่อชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินหรือตามที่มีภาระผูกพันจากการกู้ยืมเงินในแต่ละปีจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น (ถ้ามี) ในแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีของกองทรัสต์
(ข) การกำหนดวงเงินกันสำรองตาม (ก) ที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงจำนวนเงินกู้ยืมหรือภาระผูกพันจากการกู้ยืมเงินและระยะเวลาการชำระหนี้ ผลกระทบต่อการจ่ายประโยชน์ตอบแทน แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ และสถานะเงินสดที่เกิดจากการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น (unrealized loss) จากการประเมินมูลค่าหรือการสอบทานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของกองทรัสต์
(ค) การกำหนดให้กองทรัสต์อาจนำวงเงินกันสำรองของรอบระยะเวลาบัญชีใดที่มีสภาพคล่องไม่เพียงพอที่จะกันเงินสำรอง ไปรวมเพื่อการกันสำรองในรอบระยะเวลาบัญชีถัด ๆ ไป
(2) ในกรณีที่กำหนดให้กองทรัสต์สามารถกู้ยืมเงินได้ ต้องมีข้อกำหนดที่แสดงว่า การกู้ยืมเงินของกองทรัสต์ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ต้องไม่มีลักษณะดังนี้
(ก) มีข้อตกลงและเงื่อนไขทำนองเดียวกับข้อกำหนดของหุ้นกู้ที่ให้ไถ่ถอนหุ้นกู้เมื่อมีการเลิกบริษัท (perpetual bond)
(ข) มีลักษณะของอนุพันธ์แฝง เว้นแต่เป็นกรณีที่เข้าลักษณะที่ครบถ้วนดังนี้
1. ให้สิทธิลูกหนี้ในการชำระหนี้คืนก่อนกำหนด (callable) หรือให้สิทธิกองทรัสต์ในการเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้คืนก่อนกำหนด (puttable)
2. กำหนดดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนไว้อย่างแน่นอนหรือเป็นอัตราที่ผันแปรตามอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินหรืออัตราดอกเบี้ยอื่น
3. ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขการจ่ายดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่อ้างอิงกับปัจจัยอ้างอิงอื่นเพิ่มเติม
(ค) มีลักษณะเป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์
(3) ในกรณีที่กำหนดให้กองทรัสต์สามารถกู้ยืมเงินได้ ต้องระบุสัดส่วนการกู้ยืมเงิน ซึ่งต้องเป็นไปตามอัตราที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการออกและเสนอขาย หน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
(4) ข้อกำหนดเกี่ยวกับการก่อภาระผูกพันใด ๆ แก่ทรัพย์สินของกองทรัสต์ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
(5) ในกรณีที่กองทรัสต์มีการลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโดยทางอ้อม ผ่านการถือหุ้นที่ออกโดยบริษัท ต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับกลไกในการกำกับดูแลที่จะเป็นผลให้การกู้ยืมเงิน หรือก่อภาระผูกพันใด ๆ ของบริษัทดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตาม (1) (2) (3) และ (4) โดยอนุโลม เว้นแต่หลักเกณฑ์เกี่ยวกับอัตราส่วนการกู้ยืมเงินตาม (3) จะพิจารณาเฉพาะในชั้นของกองทรัสต์ก็ได้
ข้อ 18 รายการเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่กองทรัสต์ลงทุน ซึ่งมีสาระสำคัญอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) การประเมินมูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) ผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินต้องเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานประเภทนั้น ๆ
(ข) การประเมินมูลค่าจะกระทำโดยผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินรายเดียวกันติดต่อกันไม่เกินสองครั้ง
(ค) ในกรณีดังนี้ จะจัดให้มีการประเมินมูลค่าอย่างเต็มรูปแบบที่มีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ และเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะในการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุน
1. เมื่อกองทรัสต์จะได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่าตั้งแต่ห้าสิบล้านบาทขึ้นไป โดยจะประเมินล่วงหน้าเป็นเวลาไม่เกินหนึ่งปี ทั้งนี้หากการได้มาหรือจำหน่ายไปดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการทำธุรกรรมระหว่างกองทรัสต์กับผู้จัดการกองทรัสต์หรือบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับผู้จัดการกองทรัสต์ จะจัดให้มีการประเมินมูลค่าโดยผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินอย่างน้อยสองราย
2. เมื่อครบกำหนดสามปีนับแต่วันที่มีการประเมินมูลค่าเต็มรูปแบบครั้งล่าสุด
3. เมื่อปรากฏเหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ อันอาจมีผลกระทบต่อการด้อยค่าของทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทรัสต์ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
4. เมื่อทรัสตีหรือผู้สอบบัญชีของกองทรัสต์ร้องขอ
(2) การประเมินมูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นหุ้น หากหุ้นดังกล่าวมิใช่หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่บริษัทที่ออกหุ้นดังกล่าวลงทุนตามหลักเกณฑ์ใน (1) โดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงภาระภาษีของบริษัทดังกล่าว และปัจจัยอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อราคาทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทที่กองทรัสต์เป็นผู้ถือหุ้นด้วย
(3) การประเมินมูลค่าทรัพย์สินอื่นนอกจาก (1) และ (2) ให้ประเมินมูลค่าตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) หลักเกณฑ์ของสมาคมเกี่ยวกับการกำหนดราคาทรัพย์สิน
(ข) ในกรณีหลักเกณฑ์ตาม (ก) ไม่รองรับการกำหนดราคาของทรัพย์สินใด ให้ใช้ราคาที่เป็นไปตามหลักวิชาการอันเป็นที่ยอมรับหรือมาตรฐานสากล”
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความใน 2. ของวรรคหนึ่งใน (ข) ของ (2) ในข้อ 22 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สร. 25/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“2. การจ่ายชำระหนี้เงินกู้ยืมหรือภาระผูกพันจากการกู้ยืมเงินของกองทรัสต์ตามวงเงินที่ได้ระบุไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน หรือแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี แล้วแต่กรณี”
ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (6/1) ของข้อ 27 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สร. 25/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558
“(6/1) ในกรณีที่กองทรัสต์จะมีการออกหุ้นกู้ ต้องกำหนดให้ผู้จัดการกองทรัสต์มีหน้าที่ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้กองทรัสต์สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขภายหลังการอนุญาตตามประกาศเกี่ยวกับการอนุญาตให้เสนอขายตราสารหนี้ที่ออกใหม่ของกองทรัสต์ด้วย”
ข้อ 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (3/1) ของข้อ 31 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สร. 25/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558
“(3/1) การกู้ยืมเงินของกองทรัสต์ ตามข้อ 34/1”
ข้อ 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 34/1 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สร. 25/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558
“ข้อ 34/1 รายการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของกองทรัสต์ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 17(1) (2) และ (4)”
ข้อ 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (ง) และ (จ) ใน (1) ของข้อ 37 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สร. 25/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการและข้อความในสัญญาก่อตั้งทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558
“(ง) ในกรณีที่กองทรัสต์จะมีการออกหุ้นกู้ ต้องกำหนดให้ผู้จัดการกองทรัสต์มีหน้าที่ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้กองทรัสต์สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขภายหลังการอนุญาตตามประกาศเกี่ยวกับการอนุญาตให้เสนอขายตราสารหนี้ที่ออกใหม่ของกองทรัสต์ด้วย
(จ) ในกรณีที่กองทรัสต์จะลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานผ่านการถือหุ้น ที่ออกโดยบริษัท ต้องกำหนดให้ผู้จัดการกองทรัสต์มีหน้าที่ในการกำกับดูแลให้บริษัทดังกล่าวดำเนินการให้เป็นไปในทำนองเดียวกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้สำหรับกองทรัสต์ที่มีการลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานนั้นโดยตรง”
ข้อ 8 ในกรณีที่สัญญาก่อตั้งทรัสต์ของกองทรัสต์ใดมีรายการและข้อความที่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศนี้ ให้ทรัสตีดำเนินการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาก่อตั้งทรัสต์เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศนี้ภายในโอกาสแรกที่กระทำได้
ข้อ 9 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560
(นายรพี สุจริตกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์