การให้ความเห็นชอบผู้ทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือเป็นตัวแทนสนับสนุน

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday October 24, 2001 13:51 —ประกาศ ก.ล.ต.

                         ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สน. 49/2544
เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
หรือเป็นตัวแทนสนับสนุน
____________________________________
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. 3 /2544 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และการตั้งตัวแทนสนับสนุน ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ในประกาศนี้
"ตัวแทนสนับสนุน" หมายความว่า บุคคลซึ่งบริษัทจัดการตั้งให้เป็นตัวแทนในการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
"บริษัทจัดการ" หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวม
"ขาย" ให้หมายความรวมถึง การเสนอขายด้วย
"กองทุนรวม" หมายความว่า กองทุนปิดและกองทุนเปิด
"คำแนะนำเฉพาะเจาะจง" หมายความว่า คำแนะนำที่ให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเพื่อความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการลงทุน ฐานะทางการเงิน หรือความต้องการของบุคคลนั้น
"คำแนะนำทั่วไป" หมายความว่า คำแนะนำที่ให้แก่บุคคลใด โดยมิได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการลงทุน ฐานะทางการเงิน และความต้องการของบุคคลนั้น
"ผู้จัดการกองทุนรวม" หมายความว่า ผู้ได้รับความเห็นชอบเป็นผู้จัดการกองทุนรวมตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการให้ความเห็นชอบผู้จัดการกองทุนรวม
"ผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล" หมายความว่า ผู้ได้รับความเห็นชอบเป็นผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการให้ความเห็นชอบผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล และการจัดการกองทุนส่วนบุคคลของผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล
"ผู้จัดการ" หมายความว่า บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการของบริษัทให้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงาน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างใดก็ตาม
"หลักประกัน" หมายความว่า หลักประกันเพื่อชดเชยความเสียหายของลูกค้าที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนของตัวแทนสนับสนุน อันได้แก่
(ก) กรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันภัย
(ข) หนังสือค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
(ค) หลักประกันอื่นใดตามประกาศสำนักงานที่ออกตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และการตั้งตัวแทนที่ปรึกษาการลงทุน
"สินทรัพย์สภาพคล่อง" หมายความว่า สินทรัพย์ที่ปราศจากภาระผูกพัน ดังต่อไปนี้
(ก) เงินสดและเงินฝากธนาคาร
(ข) บัตรเงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ ธนาคารที่มีกฎหมาย เฉพาะจัดตั้งขึ้น บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
(ค) ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก
(ง) สินทรัพย์สภาพคล่องอื่นใดตามประกาศสำนักงานที่ออกตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และการตั้งตัวแทนที่ปรึกษาการลงทุน
"สถาบันฝึกอบรม" หมายความว่า สถาบันพัฒนาบุคลากรธุรกิจหลักทรัพย์ และสถาบันฝึกอบรมอื่นที่สำนักงานให้การยอมรับ
"ผู้อำนวยการฝ่าย" หมายความว่า บุคคลที่รับผิดชอบงานในระดับส่วนงานภายในบริษัท
"เจ้าหน้าที่การตลาด" หมายความว่า ผู้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่การตลาด
"บริษัทที่ปรึกษาการลงทุน" หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน
"ผู้ให้คำแนะนำ" หมายความว่า ผู้ให้คำแนะนำตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และการตั้งตัวแทนที่ปรึกษาการลงทุน
"ประกาศที่ กน. 3/2544" หมายความว่า ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. 3/2544 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนและการตั้งตัวแทนสนับสนุน ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 3 บุคคลที่จะทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือเป็นตัวแทนสนับสนุน ให้อยู่ภายใต้บังคับแห่งประกาศนี้ เว้นแต่บุคคลดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนสนับสนุนเฉพาะในต่างประเทศ หากสามารถประกอบการเป็นตัวแทนสนับสนุนได้ตามกฎหมายของประเทศนั้น ให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานให้เป็นตัวแทนสนับสนุนตามประกาศนี้แล้ว
ข้อ 4 ผู้ขอรับความเห็นชอบเพื่อทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือเป็นตัวแทนสนับสนุนต้องเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในประกาศนี้
การขอรับความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง หากเป็นบุคคลธรรมดาให้ระบุว่าต้องการขอรับความเห็นชอบเพื่อเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจงและคำแนะนำทั่วไป หรือระดับสอง ซึ่งสามารถให้คำแนะนำได้เฉพาะคำแนะนำทั่วไป
ข้อ 5 การขอรับความเห็นชอบเพื่อทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือเป็นตัวแทนสนับสนุน ให้ผู้ขอรับความเห็นชอบดำเนินการจัดส่งข้อมูลผ่านระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ที่สำนักงานจัดไว้เพื่อการขอรับความเห็นชอบดังกล่าว และนำส่งเอกสารที่มีข้อมูลเช่นเดียวกับที่ผู้ยื่นคำขอได้ส่งผ่านระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ให้สำนักงานภายในวันทำการถัดจากวันที่ได้จัดส่งข้อมูลผ่านระบบดังกล่าว
ข้อ 6 ในกรณีที่ผู้จัดการกองทุนรวมหรือผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลขอรับความเห็นชอบต่อสำนักงานตามข้อ 5 ให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานตามประกาศนี้แล้ว และให้ถือว่าการเข้ารับการอบรมความรู้เกี่ยวกับการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุนรวมหรือผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในทุกช่วงสองปีตามที่กำหนดในประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการให้ความเห็นชอบผู้จัดการกองทุนรวม หรือประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการให้ความเห็นชอบผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล และการจัดการกองทุนส่วนบุคคลของผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล แล้วแต่กรณี เป็นการเข้ารับการอบรมตามที่กำหนดในข้อ 19
หมวด 1
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม
ส่วนที่ 1
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับความเห็นชอบ
ที่เป็นนิติบุคคล
ข้อ 7 นิติบุคคลที่จะขอรับความเห็นชอบตามประกาศนี้ ต้องเป็น
(1) ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์
(2) บริษัทเงินทุนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
(3) บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์
(4) บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต
(5) บริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัย
(6) สถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น หรือ
(7) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่การประกอบกิจการเป็นตัวแทนสนับสนุนอยู่ในขอบวัตถุประสงค์ของบริษัท
ข้อ 8 ผู้ขอรับความเห็นชอบที่เป็นนิติบุคคลตามข้อ 7(1) (2) (3) (4) (5) และ (6)ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) แสดงได้ว่ามีหรือจะมีระบบงานที่มีความพร้อมในการประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนสนับสนุนดังต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
(ก) ระบบการรับลูกค้า วิธีการรับลูกค้า และการให้คำแนะนำ
(ข) ระบบรับคำสั่งซื้อขายจากพนักงานในสังกัดและการส่งคำสั่งซื้อขายให้บริษัทจัดการ
(ค) ระบบการนำส่งเงินค่าขายหน่วยลงทุนให้บริษัทจัดการ และระบบการนำส่งเงินค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้ลูกค้า
(ง) ระบบการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์และการเก็บรักษาความลับของลูกค้า
(จ) ระบบการรับเรื่องร้องเรียน
(2) แสดงได้ว่ามีหรือจะมีความพร้อมด้านบุคลากร โดยพนักงานที่จะทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานตามประกาศนี้ด้วย
(3) มีผู้จัดการที่มีความซื่อสัตย์สุจริต โดยพิจารณาจากประวัติการทำงาน รวมทั้งมีความสามารถ และประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนสนับสนุน
ข้อ 9 ผู้ขอรับความเห็นชอบที่เป็นนิติบุคคลตามข้อ 7(7) ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) มีคุณสมบัติตามข้อ 8
(2) มีหลักประกันหรือสินทรัพย์สภาพคล่องอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างรวมกันมีมูลค่าไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท ทั้งนี้ การคำนวณและการดำรงความเพียงพอของหลักประกันหรือสินทรัพย์สภาพคล่องดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อ 17 และข้อ 18
ข้อ 10 ผู้ขอรับความเห็นชอบที่เป็นนิติบุคคลตามข้อ 7 ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ภายในระยะเวลาสามปีย้อนหลังนับแต่วันที่ยื่นคำขอ และจนถึงวันที่ได้รับความเห็นชอบ
(1) มีประวัติการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจของนิติบุคคลนั้น หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจทางการเงินไม่ว่าจะเป็นกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ ทั้งนี้ ในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือการประกอบธุรกิจที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ฉ้อฉล หรือทุจริต
(2) มีประวัติการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ
(3) มีประวัติการดำเนินกิจการใดที่มีลักษณะอันเป็นการหลอกลวงหรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสดงถึงการขาดความรับผิดชอบ ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของลูกค้าหรือขาดความรอบคอบ หรือสะท้อนถึงวิธีการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่น่าเชื่อถือ
(4) เคยถูกสำนักงานเพิกถอนจากการปฏิบัติงานใด ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์ตามที่ได้รับความเห็นชอบ การขึ้นทะเบียน หรือการอนุญาตใด ๆ
ข้อ 11 ในกรณีที่สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ สาขาของบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศ หรือสาขาของบริษัทประกันวินาศภัยต่างประเทศ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต หรือธุรกิจประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัย แล้วแต่กรณี เป็นผู้ยื่นคำขอรับความเห็นชอบตามประกาศนี้ สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ สาขาของบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศ หรือสาขาของบริษัทประกันวินาศภัยต่างประเทศดังกล่าว ต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 8 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 10
ส่วนที่ 2
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับความเห็นชอบ
ที่เป็นบุคคลธรรมดา
ข้อ 12 บุคคลธรรมดาที่จะขอรับความเห็นชอบตามประกาศนี้ ต้องเป็น
(1) พนักงานของบริษัทจัดการ
(2) พนักงานของบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
(3) พนักงานของนิติบุคคลที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนสนับสนุน หรือ
(4) บุคคลธรรมดาที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนสนับสนุน
ข้อ 13 ผู้ขอรับความเห็นชอบตามข้อ 12 ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) มีวุฒิทางการศึกษาหรือประสบการณ์ในการทำงานดังนี้
(ก) สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไปหรือเทียบเท่าตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง หรือ
(ข) มีประสบการณ์ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินหรือตลาดทุน หรือการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่าสองปี และ
(2) ผ่านการทดสอบความรู้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือการเป็นตัวแทนสนับสนุนจากสถาบันฝึกอบรม หรือตามหลักสูตรที่สำนักงานให้ความเห็นชอบแล้วไม่เกินหนึ่งปีในวันที่ยื่นคำขอรับความเห็นชอบ
ในกรณีที่ผู้ขอรับความเห็นชอบเป็นผู้จัดการหรือผู้อำนวยการฝ่ายที่ดูแลรับผิดชอบสายงานที่เกี่ยวกับการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือสายงานที่เกี่ยวกับการเป็นตัวแทนสนับสนุนของนิติบุคคลตามข้อ 12(1) (2) และ (3) ซึ่งได้ผ่านการอบรมเกี่ยวกับการทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือการเป็นตัวแทนสนับสนุนจากสถาบันฝึกอบรม หรือตามหลักสูตรที่สำนักงานให้ความเห็นชอบมาแล้วไม่เกินหนึ่งปีในวันที่ยื่นคำขอ ให้ได้รับยกเว้นคุณสมบัติตาม (2) แต่ข้อยกเว้นดังกล่าวให้ใช้สำหรับผู้ขอรับความเห็นชอบเพียงรายเดียว และต่อนิติบุคคลตามข้อ 12(1) (2) และ (3) แต่ละแห่ง
ในกรณีที่ผู้ขอรับความเห็นชอบเป็นผู้ที่การให้ความเห็นชอบสิ้นสุดลงตามข้อ 21(5) แต่ได้ผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือการเป็นตัวแทนสนับสนุนจากสถาบันฝึกอบรม หรือตามหลักสูตรที่สำนักงานให้ความเห็นชอบภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันที่การให้ความเห็นชอบครั้งก่อนสิ้นสุดลง ให้ได้รับยกเว้นคุณสมบัติตาม (2)
ข้อ 14 ผู้ขอรับความเห็นชอบตามข้อ 12 นอกจากต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 13 แล้ว ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ด้วย
(1) เป็นบุคคลล้มละลาย
(2) เป็นบุคคลที่อยู่ในระหว่างถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์
(3) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(4) เป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหารตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(5) อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์กฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัย หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับธุรกิจทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ โดยหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายนั้น ทั้งนี้ ในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือการปฏิบัติงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ฉ้อฉล หรือทุจริต
(6) อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ โดยหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายนั้น
(7) อยู่ระหว่างถูกสำนักงานสั่งพักการปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือการอนุญาตให้บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนตั้งให้เป็นผู้ให้คำแนะนำ
(8) อยู่ระหว่างถูกสำนักงานสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นผู้จัดการกองทุนรวมหรือผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล
(9) มีประวัติดังต่อไปนี้ภายในระยะเวลาสามปีย้อนหลังนับแต่วันที่ยื่นคำขอ และจนถึงวันที่ได้รับความเห็นชอบ
(ก) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต
(ข) เคยต้องคำพิพากษาหรือถูกเปรียบเทียบปรับเนื่องจากกระทำความผิดตามกฎหมายตาม (5) หรือ (6)
(ค) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน อันเนื่องจากการกระทำโดยทุจริต
(ง) เคยถูกสำนักงานเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือตัวแทนสนับสนุน
(จ) เคยถูกสำนักงานเพิกถอนการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือการอนุญาตให้บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนตั้งให้เป็นผู้ให้คำแนะนำ
(ฉ) เคยถูกสำนักงานเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้จัดการกองทุนรวมหรือผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล
(ช) เคยมีการทำงานอันส่อไปในทางไม่สุจริตในลักษณะที่อาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
(ซ) เคยมีการทำงานที่มีลักษณะอันเป็นการหลอกลวงหรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสดงถึงการขาดความรับผิดชอบ ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของลูกค้าหรือขาดความรอบคอบ หรือสะท้อนถึงการทำงานที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่น่าเชื่อถือ
หมวด 2
การให้ความเห็นชอบ และการสิ้นสุดการให้ความเห็นชอบ
ข้อ 15 สำนักงานจะแจ้งผลการพิจารณาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วน และในกรณีที่สำนักงานไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลใด สำนักงานจะแจ้งเหตุผลไปพร้อมกันด้วย
สำนักงานอาจแจ้งให้ผู้ขอรับความเห็นชอบมาชี้แจงหรือส่งเอกสารหลักฐานอื่นเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควรภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนด หากบุคคลดังกล่าวมิได้ปฏิบัติหรือดำเนินการตามที่กำหนด สำนักงานจะถือว่าบุคคลนั้นไม่ประสงค์จะขอรับความเห็นชอบเพื่อทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือเป็นตัวแทนสนับสนุน แล้วแต่กรณี
ข้อ 16 ผู้ได้รับความเห็นชอบที่เป็นนิติบุคคลตามข้อ 7 ต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) จัดให้มีระบบงานและบุคลากรที่มีความพร้อมในการประกอบธุรกิจ และขอความเห็นชอบการเริ่มประกอบธุรกิจต่อสำนักงานล่วงหน้าอย่างน้อยสามสิบวันก่อนวันเริ่มประกอบธุรกิจ และจะเริ่มประกอบธุรกิจได้เมื่อสำนักงานเห็นชอบแล้ว
(2) จัดทำข้อมูลรายชื่อ สถานที่ปฏิบัติงานของพนักงานที่ทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยต้องแก้ไขข้อมูลดังกล่าวทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง และเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดไว้เพื่อให้สำนักงานสามารถตรวจสอบได้ หรือเพื่อจัดส่งให้สำนักงานเมื่อได้รับการร้องขอ
(3) มีหนังสือแจ้งการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงผู้จัดการให้สำนักงานทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีมติแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงผู้จัดการ
ความใน (1) มิให้นำมาใช้บังคับกับผู้ได้รับความเห็นชอบที่สำนักงานได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีระบบงานและบุคลากรที่มีความพร้อมตามข้อ 8(1) และ (2) อยู่แล้วในขณะที่ยื่นคำขอให้สำนักงานพิจารณาให้ความเห็นชอบ
การเปลี่ยนแปลงระบบงานตาม (1) ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบแจ้งให้สำนักงานทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งหากสำนักงานไม่ทักท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับแจ้ง ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบนั้นดำเนินการเปลี่ยนแปลงระบบงานได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบงานอย่างเร่งด่วน ผู้ได้รับความเห็นชอบอาจแจ้งต่อสำนักงานเพื่อขอทราบผลการพิจารณาก่อนครบระยะเวลาสิบห้าวันก็ได้
ข้อ 17 ผู้ได้รับความเห็นชอบที่เป็นนิติบุคคลตามข้อ 7(7) ต้องดำรงความพอเพียงของหลักประกันหรือสินทรัพย์สภาพคล่องอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างรวมกันมีมูลค่าไม่น้อยกว่าที่กำหนดตามข้อ 9(2) ตลอดเวลาที่ประกอบกิจการเป็นตัวแทนสนับสนุน
ในกรณีที่มีการดำรงความเพียงพอของหลักประกันและสินทรัพย์สภาพคล่องรวมกัน หรือใช้สินทรัพย์สภาพคล่องเพียงอย่างเดียว ให้คำนวณความเพียงพอของหลักประกันและสินทรัพย์สภาพคล่องทุกสิ้นวันทำการ และยื่นรายงานตามแบบ 100-1 ท้ายประกาศนี้ต่อสำนักงานภายในวันที่เจ็ดของเดือนถัดไป
ในกรณีที่มีการดำรงความเพียงพอของหลักประกันเพียงอย่างเดียวโดยมีมูลค่าไม่น้อยกว่าที่กำหนดตามข้อ 9(2) ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบดังกล่าวแสดงหลักฐานการมีหลักประกันต่อสำนักงาน และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงหลักประกัน ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบจัดส่งหลักฐานการมีหลักประกันที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นภายในห้าวันทำการนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ข้อ 18 ในกรณีที่ผู้ได้รับความเห็นชอบที่เป็นนิติบุคคลตามข้อ 7(7) ไม่สามารถดำรงความเพียงพอของหลักประกันหรือสินทรัพย์สภาพคล่องตามที่กำหนดในข้อ 17 ได้ในวันใด ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบดังกล่าวปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) จัดทำรายงานที่แสดงถึงความไม่เพียงพอของหลักประกันหรือสินทรัพย์สภาพคล่องตามแบบ 100-1 ท้ายประกาศนี้ และยื่นต่อสำนักงานภายในสองวันทำการถัดไป
(2) แก้ไขให้สามารถดำรงความเพียงพอของหลักประกันหรือสินทรัพย์สภาพคล่องตามที่กำหนดได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าเจ็ดวันทำการติดต่อกัน ภายในเวลาสามสิบวันนับแต่วันที่ไม่สามารถดำรงความเพียงพอดังกล่าวได้ และแจ้งการแก้ไขให้สำนักงานทราบภายในสองวันทำการนับแต่วันที่สามารถแก้ไขได้
ข้อ 19 ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบที่เป็นบุคคลธรรมดาเข้ารับการอบรมความรู้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือการเป็นตัวแทนสนับสนุนจากสถาบันฝึกอบรม หรือตามหลักสูตรที่สำนักงานให้ความเห็นชอบ (refresher course) อย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในทุกช่วงสองปี เว้นแต่ในการเข้ารับการอบรมครั้งแรกภายหลังจากการได้รับความเห็นชอบ สำนักงานอาจกำหนดช่วงระยะเวลาที่ต้องเข้ารับการอบรมให้เป็นช่วงเวลามากกว่าสองปีก็ได้
ข้อ 20 ผู้ได้รับความเห็นชอบรายใดขาดคุณสมบัติตามข้อ 8 ข้อ 9 หรือข้อ 13 หรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 10 หรือข้อ 14(5) (6) (9) (ก) (ข) (ค) (ช) หรือ (ซ) ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบนั้นรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักงานภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่รู้หรือมีเหตุอันควรรู้ถึงการขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามนั้น เว้นแต่กรณีขาดคุณสมบัติตามข้อ 9(2) และได้ดำเนินการตามข้อ 18 แล้ว
ข้อ 21 ผู้ได้รับความเห็นชอบรายใดมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้การได้รับความเห็นชอบเป็นอันสิ้นสุดลง
(1) มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 14(1) (2) (3) หรือ (4)
(2) ถูกสำนักงานสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบตามข้อ 22
(3) ผู้ได้รับความเห็นชอบที่เป็นผู้จัดการกองทุนรวมหรือผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลพ้นจากการเป็นบุคคลที่ได้รับความเห็นชอบเป็นผู้จัดการกองทุนรวมหรือผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล
(4) ผู้ได้รับความเห็นชอบที่เป็นผู้จัดการหรือผู้อำนวยการฝ่ายที่ดูแลรับผิดชอบสายงานที่เกี่ยวกับการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือการเป็นตัวแทนสนับสนุนพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่หรือพ้นจากการดำรงตำแหน่งเช่นว่านั้น
(5) ผู้ได้รับความเห็นชอบที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่เข้ารับการอบรมความรู้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือการเป็นตัวแทนสนับสนุนจากสถาบันฝึกอบรม หรือตามหลักสูตรที่สำนักงานให้ความเห็นชอบภายในระยะเวลาที่กำหนดตามข้อ 19
ข้อ 22 ผู้ได้รับความเห็นชอบรายใดมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ สำนักงานอาจเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้ได้รับความเห็นชอบรายนั้น
(1) ขาดคุณสมบัติตามข้อ 8 ข้อ 9 หรือข้อ 13
(2) มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 14(5) หรือ (6)
(3) มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 10 หรือข้อ 14(9) อยู่แล้วก่อนวันที่ได้รับความเห็นชอบและสำนักงานตรวจพบลักษณะต้องห้ามดังกล่าวภายในสามปีนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบ
(4) มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 10 หรือตามนัยข้อ 14(9) (ก) (ข) (ค) (จ) (ฉ) (ช) (ซ) ภายหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบ และสำนักงานตรวจพบลักษณะต้องห้ามดังกล่าวภายในสามปีนับแต่วันที่มีลักษณะต้องห้ามนั้น
(5) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 18 หรือข้อ 20
(6) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ในการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้เป็นไปตามประกาศ ที่ กน. 3/2544 กำหนดไว้ในลักษณะที่ร้ายแรง หรือฝ่าฝืนคำสั่งของสำนักงานที่สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศ ที่ กน. 3/2544
ในกรณีที่สำนักงานสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบอันเป็นผลให้ผู้ได้รับความเห็นชอบตามประกาศนี้ไม่อาจทำหน้าที่ในการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือทำหน้าที่เป็นตัวแทนสนับสนุนได้ สำนักงานอาจมีคำสั่งกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขในการรับพิจารณาคำขอรับความเห็นชอบของบุคคลดังกล่าวในคราวต่อไปด้วยก็ได้
เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาหรือเมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สำนักงานกำหนดตามวรรคสองแล้ว สำนักงานจะไม่นำประวัติการกระทำที่เป็นเหตุให้สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบมาประกอบการพิจารณาให้ความเห็นชอบอีก
ข้อ 23 สำนักงานอาจเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่การให้ความเห็นชอบสิ้นสุดลงตามข้อ 21หรือสำนักงานเพิกถอนการให้ความเห็นชอบตามข้อ 22 ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ได้
หมวด 3
บทเฉพาะกาล
ข้อ 24 นับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2545สำนักงานจะไม่นำระยะเวลาตามข้อ 13(2) ที่กำหนดให้ผู้ยื่นคำขอรับความเห็นชอบต้องเป็นผู้ผ่านการทดสอบหรือผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือการเป็นตัวแทนสนับสนุนจากสถาบันฝึกอบรม หรือตามหลักสูตรที่สำนักงานให้ความเห็นชอบมาแล้วไม่เกินหนึ่งปีในวันที่ยื่นคำขอ มาใช้บังคับในการพิจารณาให้ความเห็นชอบแก่ผู้ยื่นคำขอรับความเห็นชอบตามประกาศนี้
ประกาศ ณ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2544
(นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ