ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่ ทน. 23/2561
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการ
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
(ฉบับที่ 9)
_________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 117 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการกำกับตลาดทุนออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (17/1) ในข้อ 1 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 36/2559 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559
“(17/1) “ผู้สอบบัญชี” หมายความว่า ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน”
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 25/2 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 4/2556 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(1) ผู้ลงทุนสถาบันตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 4/2560 เรื่อง การกำหนดบทนิยามผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ และผู้ลงทุนรายใหญ่ ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 แต่ไม่รวมถึงผู้ลงทุนตามข้อ 4(10) (18) (22) (23) (24) และ (25)”
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (7/1) ในข้อ 41 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 36/2559 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวม โครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559
“(7/1) ข้อกำหนดเกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งเป็นไปตามข้อ 60/1”
ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของข้อ 41 ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 36/2559 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวม โครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559
“ความในวรรคหนึ่ง (7/1) มิให้นำมาใช้บังคับกับกองทุนรวมที่มีผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมดเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่”
ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 56 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 22/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 56 การขอมติและการออกเสียงลงคะแนนของผู้ถือหน่วยลงทุน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) บริษัทจัดการอาจขอมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังนี้
(ก) การส่งหนังสือขอมติไปยังผู้ถือหน่วยลงทุน
(ข) การประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ 60/1
(2) การขอมติและมติของผู้ถือหน่วยลงทุนในการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวม ให้เป็นไปตามมาตรา 129 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
(3) การขอมติและมติของผู้ถือหน่วยลงทุนในกรณีอื่นนอกจาก (2) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) การออกเสียงลงคะแนน ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีคะแนนเสียงเท่าจำนวนหน่วยลงทุนที่ถือ โดยให้หนึ่งหน่วยลงทุนมีหนึ่งเสียง ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิออกเสียง ลงคะแนนต้องไม่เป็นบุคคลตามข้อ 63(3)
(ข) การขอมติโดยการส่งหนังสือไปยังผู้ถือหน่วยลงทุน ให้ถือมติตามจำนวนหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิออกเสียง
(ค) การขอมติโดยการเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ให้ถือมติตามจำนวนหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มาประชุมและ มีสิทธิออกเสียง เว้นแต่การขอมติในเรื่องดังนี้ ให้ถือมติตามจำนวนหน่วยลงทุนรวมกันไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
1. การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน
2. การทำธุรกรรมระหว่างกองทุนรวมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
3. การเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนหรือการลดเงินทุนจดทะเบียนของกองทุนรวม
4. การเข้าทำ แก้ไข หรือยกเลิกสัญญาเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน
5. การตกลง ยินยอม หรือใช้สิทธิออกเสียง ในกรณีที่บริษัทที่กองทุนรวมเป็นผู้ถือหุ้นตามข้อ 1(3) (จ) จะดำเนินการตาม 1. 2. 3. หรือ 4. มติของผู้ถือหน่วยลงทุนตามวรรคหนึ่ง (3) มิให้นำมาใช้บังคับกับกรณีที่มีหลักเกณฑ์กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในประกาศอื่น โดยให้บริษัทจัดการจัดให้ข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนกับบริษัทจัดการมีข้อกำหนดที่เป็นไปตามประกาศดังกล่าวด้วย”
ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ 60 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 22/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“การขอมติและการออกเสียงลงคะแนนของผู้ถือหน่วยลงทุนตามวรรคหนึ่ง ต้องกำหนดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ 55 ข้อ 56 ข้อ 57 ข้อ 58 ข้อ 59 และข้อ 60/1 โดยอนุโลม”
ข้อ 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 60/1 ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
“ข้อ 60/1 การประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน บริษัทจัดการต้องจัดให้ข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนกับบริษัทจัดการมีข้อกำหนดตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) บริษัทจัดการจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนดังนี้
(ก) การประชุมสามัญประจำปี ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชีของกองทุนรวม เพื่อรายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนรับทราบในเรื่องดังนี้เป็นอย่างน้อย
1. การจัดการกองทุนรวมในเรื่องที่สำคัญ และแนวทางการจัดการกองทุนรวมในอนาคต
2. ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของกองทุนรวมในรอบปีบัญชีที่ผ่านมา โดยอย่างน้อยต้องมีการนำเสนองบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบและแสดงความเห็นจากผู้สอบบัญชีแล้ว
3. การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีของกองทุนรวม และค่าใช้จ่ายในการสอบบัญชี
(ข) การประชุมวิสามัญในกรณีใดกรณีหนึ่งดังนี้
1. เมื่อบริษัทจัดการเห็นสมควรให้มีการเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อประโยชน์ในการจัดการกองทุนรวม
2. เมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งถือหน่วยลงทุนรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวม เข้าชื่อกันทำหนังสือขอให้บริษัทจัดการเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน โดยระบุเหตุผลในการขอให้เรียกประชุมไว้อย่างชัดเจน
การประชุมวิสามัญตามวรรคหนึ่ง 2. ต้องมีข้อกำหนดให้บริษัทจัดการจัดให้มีการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือของผู้ถือหน่วยลงทุน
(2) การเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) จัดทำหนังสือนัดประชุมที่มีรายละเอียดเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการประชุมและการออกเสียงลงมติ ตลอดจนระเบียบวาระการประชุม และเรื่องที่จะเสนอต่อที่ประชุมพร้อมด้วยรายละเอียดตามสมควร โดยระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่จะเสนอเพื่อทราบ เพื่ออนุมัติ หรือเพื่อพิจารณา แล้วแต่กรณี รวมทั้งความเห็นของบริษัทจัดการและผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุน ให้รวมถึงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับจากการลงมติในเรื่องนั้น ๆ ด้วย
(ข) จัดส่งหนังสือนัดประชุมถึงผู้ถือหน่วยลงทุนล่วงหน้าก่อนวันประชุมตามระยะเวลาดังนี้
1. สิบสี่วัน ในกรณีที่เป็นการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีหน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีวาระที่ต้องได้มติผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
2. เจ็ดวัน ในกรณีอื่นนอกจาก 1.
(ค) ประกาศการนัดประชุมในหนังสือพิมพ์รายวันแห่งท้องถิ่นอย่างน้อยหนึ่งฉบับไม่น้อยกว่าสามวันก่อนวันประชุม
(3) องค์ประชุม ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) องค์ประชุม ต้องประกอบด้วยผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าคนหรือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมด และต้องมีหน่วยลงทุนนับรวมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวม
(ข) ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งใด เมื่อล่วงเวลานัดไปแล้วถึงหนึ่งชั่วโมงจำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งมาเข้าร่วมประชุมไม่ครบเป็นองค์ประชุมตามที่กำหนดไว้ใน (ก) หากว่าการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนนั้นได้เรียกนัดเพราะผู้ถือหน่วยลงทุนร้องขอตาม (1) (ข) 2. การประชุมนั้นเป็นอันระงับไป หากการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนนั้นมิใช่เป็นการเรียกประชุมเพราะผู้ถือหน่วยลงทุนร้องขอตาม (1) (ข) 2. ให้นัดประชุมใหม่ และให้ส่งหนังสือนัดประชุมไปยังผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม โดยในการประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม
(4) การดำเนินการประชุม ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) การดำเนินการประชุม ให้เป็นไปตามลำดับระเบียบวาระที่กำหนดไว้ในหนังสือนัดประชุม เว้นแต่ที่ประชุมจะมีมติให้เปลี่ยนลำดับระเบียบวาระด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งมาประชุม
(ข) เมื่อที่ประชุมพิจารณาเสร็จตาม (ก) แล้ว ผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งมีหน่วยลงทุนนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้ทั้งหมด จะขอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในหนังสือนัดประชุมอีกก็ได้
(ค) ในกรณีที่ที่ประชุมพิจารณาเรื่องตามลำดับระเบียบวาระไม่เสร็จตาม (ก) หรือพิจารณาเรื่องที่ผู้ถือหน่วยลงทุนเสนอไม่เสร็จตาม (ข) แล้วแต่กรณี และจำเป็นต้องเลื่อน การพิจารณา ให้ที่ประชุมกำหนดสถานที่ วัน และเวลาที่จะประชุมครั้งต่อไป และให้บริษัทจัดการส่งหนังสือนัดประชุมระบุสถานที่ วัน เวลา และระเบียบวาระการประชุมไปยังผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม ทั้งนี้ ให้โฆษณาคำบอกกล่าวนัดประชุมในหนังสือพิมพ์ไม่น้อยกว่าสามวันก่อนวันประชุมด้วย
การจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทจัดการจัดให้ผู้ดูแลผลประโยชน์เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย โดยให้จัดส่งหนังสือนัดประชุมตามวรรคหนึ่ง (2) (ก) ไปยัง ผู้ดูแลผลประโยชน์พร้อมกับการจัดส่งไปยังผู้ถือหน่วยลงทุน
ความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมิให้ใช้บังคับกับกรณีที่มีหลักเกณฑ์กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในประกาศอื่น”
ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 73 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 73 ในการขอมติจากผู้ถือหน่วยลงทุน ให้บริษัทจัดการแสดงข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ถือหน่วยลงทุนตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) กรณีเป็นการเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ให้บริษัทจัดการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 60/1(2)
(2) กรณีอื่นนอกจาก (1) ให้บริษัทจัดการแสดงข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างเพียงพอ ซึ่งรวมถึงความเห็นของบริษัทจัดการและผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมในเรื่องที่ขอมติ และผลกระทบที่ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับจากการลงมติในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ให้บริษัทจัดการแสดงข้อมูลดังกล่าวไว้ในหนังสือแจ้งผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อขอมติ”
ข้อ 9 ให้ยกเลิกหมวด 4 การเปิดเผยข้อมูลและการจัดทำรายงานของกองทุนรวม ในภาค 3 หลักเกณฑ์การบริหารและจัดการกองทุนรวม ข้อ 74 ข้อ 75 ข้อ 76 ข้อ 77 ข้อ 78 ข้อ 79 ข้อ 80 และข้อ 81 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
ข้อ 10 ให้ยกเลิกความในหมวด 6 การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวม ในภาค 3 หลักเกณฑ์การบริหารและจัดการกองทุนรวม ข้อ 86 และข้อ 87 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 1/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“หมวด 6
การเปิดเผยข้อมูลเหตุการณ์สำคัญของกองทุนรวม
_________________
ข้อ 86 ให้บริษัทจัดการรายงานพร้อมด้วยเหตุผลต่อสำนักงานเมื่อมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น อันมีหรือจะมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน หรือต่อการตัดสินใจลงทุน หรือต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาของหน่วยลงทุน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่สำนักงานประกาศกำหนด
ข้อ 87 ภายใต้บังคับของข้อ 86 เมื่อมีเหตุที่ทำให้หรืออาจทำให้ต้องเลิกกองทุนรวม ให้บริษัทจัดการเปิดเผยข้อมูลตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) กรณีที่เป็นการเลิกกองทุนรวมเพราะเหตุครบกำหนดอายุของโครงการหรือเพราะเหตุอื่นที่ทราบกำหนดการเลิกกองทุนรวมล่วงหน้า ให้ดำเนินการดังนี้
(ก) แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ดูแลผลประโยชน์ และตลาดหลักทรัพย์ทราบเป็นหนังสือก่อนวันเลิกกองทุนรวมเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าวันทำการ
(ข) ดำเนินการด้วยวิธีการใด ๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนทราบเรื่องดังกล่าวก่อนวันเลิกกองทุนรวมเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าวันทำการ เช่น ประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันแห่งท้องถิ่น เป็นต้น
(2) กรณีอื่นนอกจาก (1) ให้รายงานต่อผู้ดูแลผลประโยชน์และตลาดหลักทรัพย์โดยไม่ชักช้า”
ข้อ 11 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
(นายรพี สุจริตกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่มา: http://www.sec.or.th/