ว่าด้วยแนวปฏิบัติในการขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบบุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2550

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday November 12, 2007 10:51 —ประกาศ ก.ล.ต.

                              ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ว่าด้วยแนวปฏิบัติในการขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบ
บุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ
ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
พ.ศ. 2550
_____________________________
โดยที่มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 กำหนดให้บุคคลใดจะถือหุ้นหรือรับประโยชน์จากหุ้นเกินกว่าร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. สำนักงาน ก.ล.ต. จึงกำหนดแนวปฏิบัติในการขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบบุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
“ผู้ประกอบธุรกิจสัญญา” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
“ผู้ถือหุ้นรายใหญ่” หมายความว่า บุคคลที่ถือหุ้นหรือรับประโยชน์จากหุ้นเกินกว่าร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ประกอบธุรกิจสัญญา
ข้อ 2 ในการขอรับความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบบุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญา สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดแนวปฏิบัติไว้ดังนี้
(1) กรณีอื่นนอกจากที่กำหนดใน (2) ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญายื่นคำขอรับความเห็นชอบต่อสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบคำขอตามแบบและวิธีการที่สำนักงาน ก.ล.ต. จัดไว้ในระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในกำหนดเวลาดังนี้
(ก) กรณีที่การเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบุคคลดังกล่าวจะเกิดขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจสัญญามีการเพิ่มทุน ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญายื่นคำขอรับความเห็นชอบก่อนวันที่ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาจะขายหุ้นเพิ่มทุนอันเป็นผลให้บุคคลนั้นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
(ข) กรณีอื่นนอกจาก (ก) ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญายื่นคำขอรับความเห็นชอบภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ผู้ประกอบธุรกิจสัญญารู้หรือมีเหตุอันควรรู้ว่ามีบุคคลเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่โดยยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
(2) กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาเป็นสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นอยู่แล้วก่อนได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาตรวจสอบลักษณะของบุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือกรรมการ ผู้จัดการ หรือหุ้นส่วนในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคล โดยให้ดำเนินการดังกล่าวภายในกำหนดเวลาที่กำหนดใน (1)(ก) หรือ (ข) แล้วแต่กรณี หากบุคคลดังกล่าวไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 25 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญา ให้ถือว่าสำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญา
ข้อ 3 สำนักงาน ก.ล.ต. จะแจ้งผลการพิจารณาคำขอรับความเห็นชอบตามข้อ 2(1) ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วน เว้นแต่เป็นกรณีมีเหตุจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและสำนักงาน ก.ล.ต.ได้แจ้งเหตุจำเป็นดังกล่าวให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาทราบก่อนสิ้นสุดระยะเวลาสามสิบวันแล้ว สำนักงาน ก.ล.ต. อาจขยายระยะเวลาในการพิจารณาคำขอออกไปเท่าเหตุจำเป็นที่มีได้
ข้อ 4 ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาใดมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือกรรมการ ผู้จัดการ หรือหุ้นส่วนในกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นนิติบุคคล ที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 25 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 หรือตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญา ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญานั้นรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นหนังสือต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่รู้หรือมีเหตุอันควรรู้ถึงลักษณะต้องห้ามของผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้น
ข้อ 5 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ