ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สช. 32/2561
เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล
_________________
โดยที่ข้อ 18(3) (ข) และข้อ 47 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 15/2561 เรื่อง การเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน ลงวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 กำหนดให้ผู้สอบบัญชีที่ลงลายมือชื่อในรายงานการตรวจสอบงบการเงินของผู้ออกโทเคนดิจิทัลต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการดังกล่าว สำนักงาน ก.ล.ต. ออกประกาศเกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ในประกาศนี้
“สำนักงานสอบบัญชี” หมายความว่า สำนักงานสอบบัญชีที่ผู้สอบบัญชีสังกัดและปฏิบัติงาน
“จรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี” หมายความว่า
(1) จรรยาบรรณวิชาชีพบัญชีที่กำหนดโดยสภาวิชาชีพบัญชี
(2) จรรยาบรรณวิชาชีพบัญชีที่กำหนดโดย International Federation of Accountants (IFAC) ในกรณีที่สภาวิชาชีพบัญชียังไม่ได้กำหนดหรือปรับปรุงจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชีให้สอดคล้องกับจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชีที่กำหนดโดย International Federation of Accountants (IFAC)
“คณะที่ปรึกษาด้านการสอบบัญชี” หมายความว่า คณะบุคคลที่สำนักงานแต่งตั้งเพื่อให้คำปรึกษาและเสนอแนะเกี่ยวกับการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุน
หมวด 1
การให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล
_______________
ข้อ 3 ให้ถือว่าบุคคลดังต่อไปนี้ เป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในการสอบบัญชีและลงลายมือชื่อเพื่อแสดงความเห็นในการสอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล
(1) ผู้สอบบัญชีที่อยู่ในบัญชีที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีในตลาดทุน
(2) ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีผู้สอบบัญชีตาม (1) สังกัดอยู่ ซึ่งสำนักงานสอบบัญชีดังกล่าวมีลักษณะตามที่กำหนดในประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีในตลาดทุน และการปฏิบัติงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตดังกล่าวอยู่ภายใต้ระบบการควบคุมคุณภาพของสำนักงานสอบบัญชีนั้น
ข้อ 4 ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบตามข้อ 3 ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหมวด 2 และดำรงตนมิให้มีลักษณะต้องห้ามหรือพฤติกรรมตามหมวด 3
หมวด 2
หน้าที่ของผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล
ภายหลังได้รับความเห็นชอบ
_______________
ข้อ 5 ผู้สอบบัญชีต้องปฏิบัติงานสอบบัญชีเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินด้วยความรับผิดชอบตามจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี และตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชีและข้อกำหนดเพิ่มเติมตามประกาศที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ข้อ 6 ให้ผู้สอบบัญชีจัดทำบทสรุปประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีจากการตรวจสอบหรือการสอบทานงบการเงิน แล้วแต่กรณี ตามแบบ 61-4 ที่จัดไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 1 ฉบับ สำหรับงบการเงินของแต่ละผู้ออกโทเคนดิจิทัล และจัดส่งให้แก่ผู้ออกโทเคนดิจิทัลพร้อมกับรายงานของผู้สอบบัญชี
ข้อ 7 ให้ผู้สอบบัญชีจัดทำคำชี้แจงหรือนำส่งข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานสอบบัญชี หรือดำเนินการอื่นใดในการให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ร้องขอ
หมวด 3
ลักษณะต้องห้ามของผู้สอบบัญชี
ที่ได้รับความเห็นชอบ
______________
ข้อ 8 ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ บุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(2) เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตซึ่งเข้าลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังนี้
(ก) อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตโดยคณะกรรมการจรรยาบรรณตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชี
(ข) เคยมีประวัติถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโดยคณะกรรมการจรรยาบรรณตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชี เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตครั้งใหม่มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนวันปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล
(ค) เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตโดยคณะกรรมการจรรยาบรรณตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชีในช่วง 3 ปีก่อนวันปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล เว้นแต่เหตุที่ทำให้คณะกรรมการจรรยาบรรณดังกล่าวสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเหตุเดียวกับที่สำนักงาน ก.ล.ต. สั่งพักหรือเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของกิจการในตลาดทุน หรือสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล
(3) อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
(ก) ถูกสั่งพักหรือเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของกิจการในตลาดทุน หรืออยู่ระหว่างระยะเวลาที่กำหนดว่าสำนักงาน ก.ล.ต. จะไม่รับพิจารณาคำขอดังกล่าว
(ข) ถูกสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล
(4) อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษโดยสำนักงาน ก.ล.ต. หรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอันเนื่องจากกรณีที่สำนักงานกล่าวโทษ หรือเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเนื่องจากการกล่าวโทษ ของสำนักงาน ก.ล.ต. ไม่ว่าศาลจะมีคำพิพากษาให้รอการลงโทษหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่จะได้พ้นโทษหรือพ้นจากการรอลงโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนวันปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีของ ผู้ออกโทเคนดิจิทัล ทั้งนี้ เฉพาะความผิดดังต่อไปนี้
(ก) ความผิดเกี่ยวกับการกระทำโดยทุจริต หรือการสนับสนุนการกระทำผิดของบุคคลอื่น ทั้งนี้ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพบัญชี
(ข) ความผิดเกี่ยวกับเอกสารหรือบัญชี เช่น ปลอมเอกสาร ใช้หรืออ้างเอกสารปลอมหรือเท็จ แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร หรือมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีหรือเอกสารตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 148 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 หรือมาตรา 88 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เป็นต้น
(ค) ความผิดเกี่ยวกับการสอบบัญชีซึ่งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือทำรายงานการสอบบัญชีเท็จ เช่น ความผิดตามมาตรา 287 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เป็นต้น
(ง) ความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัล
(5) อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษโดยหน่วยงานที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ หรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอันเนื่องจากกรณีที่หน่วยงานดังกล่าวกล่าวโทษ หรือเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเนื่องจากการกล่าวโทษของหน่วยงานดังกล่าว ไม่ว่าศาลจะมีคำพิพากษาให้รอการลงโทษหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่จะได้พ้นโทษหรือพ้นจากการรอลงโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนวันปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล ทั้งนี้ เฉพาะความผิดตาม (4)
ข้อ 9 ผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัลต้องไม่มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้
(1) มีหรือเคยมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการขาดจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี หรือมีหรือเคยมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชีและข้อกำหนดเพิ่มเติมตามประกาศที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(2) มีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เป็นการจงใจแสดงข้อความอันเป็นเท็จในสาระสำคัญหรือปกปิดข้อความจริงที่เป็นสาระสำคัญอันควรแจ้งในเอกสารใด ๆ ที่ต้องเปิดเผยต่อประชาชนหรือยื่นต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. คณะกรรมการกำกับตลาดทุน หรือสำนักงาน ก.ล.ต. รวมทั้งมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(3) มีหรือเคยมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางไม่สุจริตหรือหลอกลวงผู้อื่น และมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
หมวด 4
การสิ้นสุดการให้ความเห็นชอบและบทบังคับอื่น
__________________
ข้อ 10 ให้การให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัลสิ้นสุดลงเมื่อผู้สอบบัญชีมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 8
ข้อ 11 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีเหตุดังต่อไปนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. อาจสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล ตามระยะเวลาที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดซึ่งต้องไม่เกินกว่า 10 ปี
(1) ผู้สอบบัญชีมีพฤติกรรมตามข้อ 9
(2) ผู้สอบบัญชีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในหมวด 2 การสั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีไม่มีผลกระทบต่องบการเงินที่มีการสอบบัญชีและลงลายมือชื่อเพื่อแสดงความเห็นในการสอบบัญชี และงบการเงินนั้นได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ก่อนวันที่สำนักงาน ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบนั้น
ข้อ 12 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบมีพฤติกรรมตามข้อ 9 มาแล้วเกินกว่า 10 ปี หรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวมิได้มีลักษณะร้ายแรง ถึงขนาดที่ไม่สมควรได้รับความไว้วางใจหรือความน่าเชื่อถือให้ปฏิบัติงานเป็นผู้สอบบัญชีของผู้ออกโทเคนดิจิทัล สำนักงาน ก.ล.ต. อาจไม่ยกข้อเท็จจริงในกรณีนั้นมาเป็นเหตุในการพิจารณาพฤติกรรมของผู้สอบบัญชีดังกล่าว
ข้อ 13 ในการพิจารณาความร้ายแรงตามข้อ 12 สำนักงาน ก.ล.ต. จะคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมหรือการกระทำของผู้สอบบัญชีเป็นรายกรณี ทั้งนี้ ปัจจัยที่สำนักงาน ก.ล.ต. นำมาใช้ประกอบการพิจารณาจะรวมถึง
(1) บทบาทความเกี่ยวข้อง และนัยสำคัญของพฤติกรรม เช่น จำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง ปริมาณธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ผู้รับประโยชน์จากผลของพฤติกรรม เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน จงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นต้น
(2) การลงโทษอื่นที่ผู้สอบบัญชีนั้นได้รับไปแล้ว
(3) ผลกระทบหรือความเสียหายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงหรือพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เช่น กระทบต่อตลาดเงินหรือตลาดทุน กระทบต่อประชาชนโดยรวม หรือกระทบต่อบุคคลเฉพาะราย เป็นต้น
(4) การแก้ไขหรือดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์เพื่อแก้ไข เยียวยา หรือป้องกันมิให้เกิดข้อเท็จจริงหรือพฤติกรรมทำนองเดียวกันนั้นซ้ำอีก
(5) พฤติกรรมของผู้สอบบัญชีที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานหรือขัดขวางการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.ล.ต. เช่น การให้ข้อเท็จจริงหรือหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาหรือการดำเนินการ การปิดบังอำพรางหรือทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หรือการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ เป็นต้น
(6) ความซับซ้อนของลักษณะการกระทำหรือเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำ เช่น การใช้ชื่อบุคคลอื่น หรือการตั้งบริษัทอำพราง เป็นต้น
(7) ประวัติพฤติกรรมในช่วง 10 ปีก่อนที่สำนักงาน ก.ล.ต. จะพิจารณาการมีลักษณะต้องห้าม ในแต่ละกรณี เช่น เป็นพฤติกรรมครั้งแรก หรือเป็นพฤติกรรมที่เกิดซ้ำหรือต่อเนื่อง เป็นต้น
ข้อ 14 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 5 สำนักงาน ก.ล.ต. จะเสนอข้อเท็จจริง ข้อกล่าวหา และข้อโต้แย้ง รวมทั้งคำชี้แจงของผู้ถูกพิจารณา (ถ้ามี) ให้คณะที่ปรึกษาด้านการสอบบัญชีพิจารณาเพื่อให้ความเห็นหรือข้อแนะนำ และหากคณะที่ปรึกษาด้านการสอบบัญชีประสงค์จะให้ผู้ถูกพิจารณาชี้แจงเพิ่มเติม สำนักงาน ก.ล.ต. จะจัดให้มีการชี้แจงเช่นนั้น
คณะที่ปรึกษาด้านการสอบบัญชีตามวรรคหนึ่ง ต้องประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งที่ไม่ได้ปฏิบัติงานด้านการสอบบัญชีในช่วง 3 ปีก่อนวันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษาดังกล่าว
ข้อ 15 ในกรณีปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุตามที่กำหนดในข้อ 11 วรรคหนึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. อาจไม่ยกกรณีดังกล่าวขึ้นเป็นเหตุในการสั่งพักการให้ความเห็นชอบ หากเป็นไปตามเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ผู้สอบบัญชีปฏิบัติตามบทลงโทษที่เสนอโดยผู้สอบบัญชีนั้นเอง (Enforceable Undertaking) ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. เห็นชอบด้วยตามที่เสนอนั้น
(2) ผู้สอบบัญชีกระทำการหรืองดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. สั่ง ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่เหตุดังกล่าวมีลักษณะไม่ร้ายแรง หรือมิได้ส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญ
ประกาศ ณ วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
(นายรพี สุจริตกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่มา: http://www.sec.or.th/