ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ สจ. 38/2561 เรื่อง การจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี ผู้ทำแผน และผู้บริหารแผน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 16, 2018 15:02 —ประกาศ ก.ล.ต.

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ที่ สจ. 38/2561

เรื่อง การจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์

และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกรรมการ ผู้บริหาร

ผู้สอบบัญชี ผู้ทำแผน และผู้บริหารแผน

________________________

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 สำนักงานออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิก

(1) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 12/2552 เรื่อง การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

(2) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 49/2560เรื่อง การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ข้อ 2 ในประกาศนี้และในแบบที่กำหนดตามประกาศนี้

“หลักทรัพย์” หมายความว่า หุ้น หรือหลักทรัพย์แปลงสภาพ

“หลักทรัพย์แปลงสภาพ” หมายความว่า หลักทรัพย์ที่มีข้อกำหนดและเงื่อนไขในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้

(1) ให้แปลงสภาพการชำระหนี้เป็นการส่งมอบหุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียนได้

(2) ให้สิทธิผู้ถือหลักทรัพย์ที่จะซื้อหุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน

(3) ให้สิทธิที่จะได้รับผลตอบแทนโดยอ้างอิงกับราคาหรือผลตอบแทนของหุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน

“สัญญาซื้อขายล่วงหน้า” หมายความว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะครบถ้วนดังต่อไปนี้

(1) มีข้อกำหนดให้คู่สัญญาได้รับผลตอบแทนโดยอ้างอิงกับราคาหรือผลตอบแทนของหุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน

(2) เป็นสัญญาที่จัดให้มีการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

“ผู้บริหาร” หมายความว่า ผู้จัดการ ผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหาร 4 รายแรกนับต่อจากผู้จัดการลงมา และผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารรายที่ 4 ทุกราย และให้หมายความรวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารในสายงานบัญชีหรือการเงินที่เป็นระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปหรือเทียบเท่า

“บริษัทจดทะเบียน” หมายความว่า บริษัทที่มีหุ้นที่ได้รับการจดทะเบียนให้ทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ว่าเป็นบริษัทไทยหรือบริษัทต่างประเทศ แต่ไม่รวมถึงบริษัทต่างประเทศที่เข้าลักษณะครบถ้วนดังต่อไปนี้

(1) มีตลาดหลักทรัพย์หรือหน่วยงานทางการในต่างประเทศเป็นตลาดหลักทรัพย์หลักหรือเป็นหน่วยงานกำกับดูแลหลัก (home regulator)

(2) ตลาดหลักทรัพย์หลักหรือหน่วยงานกำกับดูแลหลักของประเทศนั้นมีหลักเกณฑ์ในทำนองเดียวกันกับหลักเกณฑ์ของไทยที่กำหนดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชีของบริษัท ตลอดจนผู้ทำแผน ผู้บริหารแผน หรือผู้มีลักษณะในทำนองเดียวกัน ในกรณีบริษัทอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ

“บริษัทไทย” หมายความว่า บริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย

“บริษัทต่างประเทศ” หมายความว่า บริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ

“ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์” หมายความว่า ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

“การขายชอร์ต” หมายความว่า การขายหลักทรัพย์ที่ต้องยืมหลักทรัพย์มาเพื่อการส่งมอบ

หมวด 1

บุคคลที่มีหน้าที่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือ

หลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

ข้อ 3 กรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชีของบริษัทจดทะเบียนที่ถือหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังต่อไปนี้ มีหน้าที่จัดทำและส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าต่อสำนักงานตามหลักเกณฑ์ในหมวด 3 เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามหมวด 2

(1) หุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียนซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้สอบบัญชี

(2) หลักทรัพย์แปลงสภาพที่มีปัจจัยอ้างอิงเป็นหุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้สอบบัญชี

(3) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีปัจจัยอ้างอิงเป็นหุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้สอบบัญชี

ข้อ 4 นอกจากการมีหน้าที่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในส่วนของตนเองแล้ว ให้กรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี มีหน้าที่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในลักษณะเดียวกับที่กำหนดในข้อ 3 ของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับตนเองดังต่อไปนี้ ต่อสำนักงานตามหลักเกณฑ์ในหมวด 3 เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามหมวด 2

(1) คู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา

(2) บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

(3) นิติบุคคลซึ่งตนเอง บุคคลตาม (1) และบุคคลตาม (2) ถือหุ้นรวมกันเกินร้อยละ 30 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคลดังกล่าว และการถือหุ้นรวมกันดังกล่าวเป็นสัดส่วน ที่มากที่สุดในนิติบุคคลนั้น

ข้อ 5 ให้นำความในข้อ 3 และข้อ 4 มาใช้บังคับกับผู้บริหารชั่วคราว ผู้ทำแผน ผู้บริหารแผน และผู้บริหารแผนชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย โดยอนุโลม และในกรณีที่ผู้บริหารชั่วคราว ผู้ทำแผน ผู้บริหารแผน และผู้บริหารแผนชั่วคราว เป็นนิติบุคคล ให้นำความในข้อดังกล่าวมาใช้บังคับกับกรรมการและผู้บริหารของนิติบุคคลนั้น โดยอนุโลม ด้วยเช่นกัน

หมวด 2

กรณียกเว้นที่ไม่ต้องรายงาน

ข้อ 6 การเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเนื่องจากกรณีดังต่อไปนี้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

(1) การได้หลักทรัพย์ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนถืออยู่

(2) การได้หลักทรัพย์จากการจ่ายหุ้นปันผลของบริษัทจดทะเบียน

(3) การใช้สิทธิตามหลักทรัพย์แปลงสภาพ

(4) การได้หลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามาโดยทางมรดก

(5) การได้หลักทรัพย์จากการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่เนื่องจากการเป็นกรรมการหรือพนักงานของบริษัท (Employee Stock Option Plan) โดยการเสนอขายหลักทรัพย์ ดังกล่าวกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของประเทศไทย หรือตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ต่างประเทศที่ใช้บังคับกับบริษัทจดทะเบียน

(6) การได้หุ้นจากการเข้าร่วมโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (Employee Joint Investment Program) โดยคณะกรรมการของบริษัทจดทะเบียน มีหนังสือรับรอง ต่อสำนักงานว่าโครงการดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 7 และบริษัทจดทะเบียน ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโครงการและความเห็นของคณะกรรมการดังกล่าวผ่านระบบการรับส่งข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

(7) การเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์อันเนื่องมาจากธุรกรรมการยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ที่กระทำกับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ หรือศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และเข้าลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

(ก) กรณีที่บุคคลตามข้อ 3 ข้อ 4(1) (2) หรือ (3) หรือข้อ 5 เป็นผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ ต้องมีข้อกำหนดในสัญญายืมและให้ยืมหลักทรัพย์ที่ให้สิทธิในการเรียกคืนหลักทรัพย์ที่ให้ยืมได้ ตลอดอายุของสัญญา

(ข) กรณีที่บุคคลตามข้อ 3 ข้อ 4(1) (2) หรือ (3) หรือข้อ 5 เป็นผู้ยืมหลักทรัพย์ ต้องส่งมอบหลักทรัพย์ที่ได้จากการยืมภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ยืมหลักทรัพย์นั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบเพื่อการขายชอร์ตหรือการให้ยืมต่อในฐานะผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์

(ค) กรณีที่บุคคลตามข้อ 3 ข้อ 4(1) (2) หรือ (3) หรือข้อ 5 เป็นผู้ยืมหลักทรัพย์ ต้องส่งมอบหลักทรัพย์คืนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้มาซึ่งหลักทรัพย์เพื่อการส่งคืน

(8) การวางหลักประกันหรือรับหลักประกันโดยการโอนกรรมสิทธิ์ในหลักทรัพย์ที่เป็นหลักประกันให้แก่ผู้รับหลักประกัน ทั้งนี้ เฉพาะสำหรับธุรกรรมการยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน (7)

ในกรณีที่มีการผิดข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งมอบหลักทรัพย์ตามสัญญายืมและให้ยืมหลักทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง (7) หรือ (8) ให้กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี และบุคคลตามข้อ 5 รายงาน การเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ตามที่กำหนดในข้อ 12

ข้อ 7 โครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (Employee Joint Investment Program) ตามข้อ 6(6) ต้องไม่มีลักษณะที่เอื้อให้กรรมการหรือผู้บริหารสามารถแทรกแซงการตัดสินใจในการลงทุนได้ และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) เป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทจดทะเบียน และในกรณีที่มีการให้สิทธิแก่ผู้เข้าร่วมโครงการในฐานะกรรมการของบริษัท โครงการดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือเป็นไปตามข้อบังคับของบริษัทในส่วนที่เกี่ยวกับค่าตอบแทนกรรมการทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด

(2) มีข้อกำหนดให้กรรมการหรือผู้บริหารต้องนำส่งเงินสะสมเข้าโครงการเป็นงวดคงที่สม่ำเสมอตามจำนวนหรือสัดส่วนที่กำหนดในโครงการ เพื่อลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ที่ตนเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

(3) มีข้อกำหนดให้ผู้ดำเนินการตามโครงการต้องซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนเป็นรายงวด และในวันที่กำหนดแน่นอนซึ่งระบุไว้ในโครงการ โดยการซื้อหุ้นดังกล่าวต้องกระทำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ แล้วแต่กรณี

(4) มีการแยกบัญชีหลักทรัพย์ที่ได้มาตามโครงการดังกล่าวออกจากบัญชีหลักทรัพย์ที่ได้มาจากการลงทุนส่วนตัวของกรรมการหรือผู้บริหาร

หมวด 3

วิธีและระยะเวลาในการรายงาน

ข้อ 8 ให้กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี และบุคคลตามข้อ 5 รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เมื่อมีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า เว้นแต่เป็นการโอนหรือรับโอนซึ่งกระทำกับผู้รับฝากหลักทรัพย์ (custodian) ที่ถือครองหลักทรัพย์แทนบุคคลดังกล่าว

ข้อ 9 ให้ผู้มีหน้าที่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามข้อ 8 จัดทำรายงานตามแบบที่จัดไว้ในระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ และส่งต่อสำนักงานภายในระยะเวลาดังต่อไปนี้

(1) ภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่มีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในกรณีผู้มีหน้าที่รายงานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ครบถ้วนดังนี้

(ก) บริษัทจดทะเบียนแจ้งรายชื่อกรรมการและผู้บริหารเพื่อนำเข้าสู่ระบบข้อมูลรายชื่อกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามวิธีการที่สำนักงานกำหนดในประกาศสำนักงานว่าด้วยแบบและวิธีการแจ้งหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรรมการและผู้บริหารของบริษัท

(ข) ผู้มีหน้าที่รายงานซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก่อนวันที่มีชื่อแสดงในระบบข้อมูลรายชื่อกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตาม (ก)

(2) ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่มีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในกรณีอื่นนอกจาก (1)

ข้อ 10 ให้กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี และบุคคลตามข้อ 5 ส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยให้ส่งผ่านระบบการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวทางที่สำนักงานกำหนด เว้นแต่ เป็นการส่งรายงานต่อสำนักงานภายในระยะเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี และบุคคลตามข้อ 5 อาจจัดทำและส่งรายงานดังกล่าวต่อสำนักงานในรูปเอกสารสิ่งพิมพ์ตามแนวทางที่สำนักงานกำหนดได้

ข้อ 11 นอกจากการรายงานเมื่อมีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามข้อ 8 แล้ว ให้กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี และบุคคลตามข้อ 5 ส่งรายงานตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 9 และข้อ 10 ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวถือใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่ให้สิทธิที่จะได้รับชำระเงินที่คำนวณได้จากราคาของหุ้นที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียนจนครบอายุ ของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์นั้น

ข้อ 12 การรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ในกรณีที่มีการผิดข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งมอบหลักทรัพย์ตามสัญญายืมและให้ยืมหลักทรัพย์ ให้กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี และบุคคลตามข้อ 5 รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ตามหมวดนี้ โดยให้ถือว่าวันที่มีการผิดข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งมอบหลักทรัพย์ เป็นวันที่มีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์ที่ให้ยืมหรือหลักทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน แล้วแต่กรณี

หมวด 4

การสิ้นสุดหน้าที่การรายงาน

ข้อ 13 กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สอบบัญชี และบุคคลตามข้อ 5 ย่อมสิ้นสุดหน้าที่การจัดทำและส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าต่อสำนักงาน เมื่อหลักทรัพย์ทุกประเภทของบริษัทที่บุคคลดังกล่าวดำรงตำแหน่ง มีการเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หมวด 5

บทเฉพาะกาล

ข้อ 14 ในกรณีสำนักงานได้รับคำขอความเห็นชอบโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (Employee Joint Investment Program) ไว้แล้ว ก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้การขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 12/2552 เรื่อง การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ ของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552 และให้กรรมการหรือผู้บริหาร ที่ได้หุ้นจากการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามประกาศฉบับนี้

ข้อ 15 ให้กรรมการหรือผู้บริหารที่ได้หุ้นจากการเข้าร่วมโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (Employee Joint Investment Program) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 12/2552 เรื่อง การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ไปแล้วก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ได้รับยกเว้นไม่ต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามประกาศฉบับนี้

ข้อ 16 ในกรณีที่มีประกาศฉบับอื่นใดอ้างอิงประกาศดังต่อไปนี้ ให้การอ้างอิงดังกล่าวหมายถึงการอ้างอิงประกาศฉบับนี้

(1) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 14/2540 เรื่อง การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ ลงวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์

(2) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 12/2552 เรื่อง การจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552 หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี

ข้อ 17 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

(นายรพี สุจริตกุล)

เลขาธิการ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ที่มา: http://www.sec.or.th/


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ