ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สน. 38/2562
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อ
ผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย
กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน
และกองทุนส่วนบุคคล
(ฉบับที่ 14)
_____________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 129/1(4) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562 และข้อ 8(6) และข้อ 9 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 89/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 สำนักงานออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นบทนิยามคำว่า “มติพิเศษ” และคำว่า “มติเสียงข้างมาก”ต่อจากบทนิยามคำว่า “ข้อผูกพัน” ในข้อ 7 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558
“ “มติพิเศษ” หมายความว่า มติของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งเข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน หรือของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งส่งหนังสือแจ้งมติและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
“มติเสียงข้างมาก” หมายความว่า มติของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีคะแนนเสียงข้างมากของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งเข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน หรือของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งส่งหนังสือแจ้งมติและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน”
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (4) ของข้อ 31 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(4) ผู้ถือหน่วยลงทุนตกลงรับชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นแทนเงิน และบริษัทจัดการกองทุนรวมได้รับมติพิเศษให้ชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นแทนเงินได้”
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 45/1 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558
“ข้อ 45/1 ในกรณีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนใช้สิทธิขอเพิกถอนมติตามมาตรา 129/4 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) จัดทำและส่งรายงานการใช้สิทธิดังกล่าวต่อสำนักงานโดยไม่ชักช้า
(2) จัดทำและส่งรายงานเพื่อแสดงความคืบหน้าของการดำเนินการดังกล่าวให้แก่สำนักงานทุกรอบระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่ผู้ถือหน่วยลงทุนใช้สิทธิขอเพิกถอนมติ หรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
(3) เปิดเผยรายงานตาม (1) และ (2) ในลักษณะที่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้”
ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในส่วนที่ 6 การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการ ข้อ 47 ข้อ 48 ข้อ 49 ข้อ 50 ข้อ 51 ข้อ 52 และข้อ 52/1 ของหมวด 1 หลักเกณฑ์ทั่วไป ในภาค 2 การจัดการกองทุนรวม แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่ รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 39/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ส่วนที่ 6
การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการ
______________
ข้อ 47 การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทจัดการกองทุนรวมอาจขอให้สำนักงานให้ความเห็นชอบแทนการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนก็ได้ ทั้งนี้ สำนักงานอาจกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทจัดการกองทุนรวมปฏิบัติเพื่อประโยชน์ในการแก้ไขโครงการก่อนให้ความเห็นชอบก็ได้
(1) การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับการขายและการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
(2) การเพิ่มชนิดหน่วยลงทุนที่ไม่ทำให้สิทธิที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีอยู่เดิมด้อยลง
(3) การเปลี่ยนแปลงประเภทของทรัพย์สินที่กองทุนรวมลงทุนหรืออัตราส่วนการลงทุนที่สอดคล้องกับนโยบายการลงทุน
(4) การคำนวณและการประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน ราคาขายหน่วยลงทุน หรือราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน แล้วแต่กรณี ตามข้อ 9 และข้อ 10 ซึ่งได้รับการผ่อนผันจากสำนักงานตามข้อ 107(2)
(5) กรณีอื่นใดนอกเหนือจาก (1) (2) (3) และ (4) การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการตามวรรคหนึ่งต้องไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่ทำให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ หรือเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งปวง
ข้อ 48 การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการโดยขอความเห็นชอบต่อสำนักงาน นอกเหนือจากข้อ 50 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมยื่นคำขอเป็นหนังสือพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบคำขอ ที่ถูกต้องครบถ้วนตามคู่มือสำหรับประชาชน และชำระค่าธรรมเนียมต่อสำนักงานเมื่อสำนักงานได้รับคำขอพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบคำขอที่ถูกต้องครบถ้วนตามคู่มือสำหรับประชาชนแล้ว ทั้งนี้ อัตราค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ
เมื่อสำนักงานได้รับคำขอและเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องครบถ้วนตามวรรคหนึ่งแล้ว สำนักงานจะดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
การชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง มิให้บริษัทจัดการกองทุนรวมเรียกเก็บจากกองทุนรวม
ข้อ 49 การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการโดยใช้วิธีการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน หากปรากฏว่ามติเสียงข้างมากหรือมติพิเศษมีจำนวนไม่เกินร้อยละ 55 หรือไม่เกินร้อยละ 80 หรือในกรณีที่เป็นกองทุนรวมที่มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุน หากปรากฏว่ามติเสียงข้างมากหรือมติพิเศษเมื่อคำนวณเฉพาะหน่วยลงทุนแต่ละชนิด มีจำนวนไม่เกินร้อยละ 55 หรือไม่เกินร้อยละ 80 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการขอมติและการนับมติไปยังผู้ดูแลผลประโยชน์ เพื่อให้ผู้ดูแลผลประโยชน์รับรองผลการนับมตินั้น
ข้อ 50 การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าสำนักงานให้ความเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมโครงการในเรื่องดังกล่าว
(1) การแก้ไขเพิ่มเติมซึ่งมีผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งปวงได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น
ในกรณีดังนี้
(ก) การลดมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน
(ข) การเพิ่มช่องทางในการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
(ค) การเพิ่มจำนวนผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน
(ง) การเพิ่มความถี่ของการส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งไม่กระทบต่อสถานะการลงทุนของกองทุนรวมอย่างมีนัยสำคัญ
(จ) การลดเวลาส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนล่วงหน้าก่อนมีการเปิดให้ขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
(2) การแก้ไขเพิ่มเติมที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ตลอดจนประกาศ กฎ และคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจแห่งกฎหมายดังกล่าว
(3) การแก้ไขเพิ่มเติมชื่อและรายละเอียดอื่นของบุคคลให้ถูกต้อง
(4) การแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเปลี่ยนตัวผู้ดูแลผลประโยชน์ เมื่อได้รับอนุญาตจากสำนักงานตามข้อ 8 แล้ว
(5) การแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อลดค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมเปิด ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 97 วรรคสอง”
ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 58 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อ ผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 58 ในกรณีที่กองทุนรวมใดมีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุน การขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนนอกจากจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนที่กำหนดไว้ในข้อผูกพัน หรือที่กำหนดไว้ในมาตรา 129/2 และมาตรา 129/3 หรือตามที่กำหนดในประกาศนี้แล้ว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้ด้วย
(1) ในกรณีที่เป็นการขอมติที่มีผลกระทบต่อผู้ถือหน่วยลงทุนทุกชนิด โดยแต่ละชนิดได้รับผลกระทบต่อผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เท่ากัน ต้องได้รับมติเสียงข้างมากหรือมติพิเศษของจำนวนหน่วยลงทุนแต่ละชนิดที่ได้รับผลกระทบ แล้วแต่กรณี
(2) ในกรณีที่เป็นการขอมติที่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ว่ากรณีใด ต้องได้รับมติเสียงข้างมากหรือมติพิเศษของจำนวนหน่วยลงทุนแต่ละชนิดที่ได้รับผลกระทบ แล้วแต่กรณี
(3) ในกรณีที่เป็นการขอมติที่มีผลกระทบต่อผู้ถือหน่วยลงทุนชนิดใดชนิดหนึ่ง ต้องได้รับมติเสียงข้างมากหรือมติพิเศษของจำนวนหน่วยลงทุนแต่ละชนิดที่ได้รับผลกระทบ แล้วแต่กรณีบริษัทจัดการกองทุนรวมต้องระบุหลักเกณฑ์เพิ่มเติมสำหรับการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุนตามวรรคหนึ่งไว้อย่างชัดเจนในข้อผูกพันด้วย”
ข้อ 6 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 61 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(2) ได้รับมติเสียงข้างมากให้แก้ไขโครงการเพื่อเปลี่ยนสภาพกองทุนรวมจากกองทุนรวมปิดเป็นกองทุนรวมเปิด”
ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 67 ข้อ 68 และข้อ 69 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 67 การควบรวมกองทุนรวมต้องเป็นการควบกองทุนรวมหรือการรวมกองทุนรวมที่อยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการกองทุนรวมเดียวกัน โดยบริษัทจัดการกองทุนรวมต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของแต่ละกองทุนรวมด้วยความเป็นธรรม
ข้อ 68 กองทุนรวมตั้งแต่ 2 กองทุนรวมขึ้นไปจะดำเนินการเพื่อควบรวมกองทุนรวมได้ต่อเมื่อได้รับมติของผู้ถือหน่วยลงทุนตามหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ในโครงการและข้อผูกพัน ภายใต้ หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) กรณีการควบรวมกองทุนรวมระหว่างกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและระดับความเสี่ยงของการลงทุน (risk spectrum) เดียวกัน บริษัทจัดการกองทุนรวมต้องได้รับ มติเสียงข้างมากของโครงการแต่ละกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนรวมดังกล่าว
(2) กรณีการควบรวมกองทุนรวมระหว่างกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและระดับความเสี่ยงของการลงทุน (risk spectrum) แตกต่างกัน บริษัทจัดการกองทุนรวมต้องได้รับมติพิเศษของโครงการแต่ละกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนรวมดังกล่าว การขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุนตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมกำหนดรายละเอียดของโครงการและข้อผูกพันใหม่ หรือแก้ไขเพิ่มเติมโครงการและข้อผูกพันที่รับโอน (ถ้ามี) พร้อมทั้งขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อเลิกกองทุนรวมเดิมหรือกองทุนรวมที่โอนไปในคราวเดียวกันด้วย
ในการรวมกองทุนรวมปิดกับกองทุนรวมปิด หรือกองทุนรวมปิดกับกองทุนรวมเปิด หากมีผลให้กองทุนรวมที่รับโอนเป็นกองทุนรวมเปิด ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน ของกองทุนรวมที่รับโอนดังกล่าวเพื่อเปลี่ยนสภาพกองทุนรวมจากกองทุนรวมปิดเป็นกองทุนรวมเปิดด้วย และหากได้รับมติของผู้ถือหน่วยลงทุนตามหลักเกณฑ์ในวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าได้รับมติของผู้ถือหน่วยลงทุนในการเปลี่ยนสภาพกองทุนรวมตามข้อ 61(2) แล้ว
ข้อ 69 การขอมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนตามข้อ 68 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมส่งหนังสือนัดประชุมหรือหนังสือขอมติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนและการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโดยเปิดเผยข้อมูลที่ผู้ถือหน่วยลงทุนควรทราบเกี่ยวกับการควบรวมกองทุนรวมอย่างน้อยดังต่อไปนี้ ให้ชัดเจนไว้ในหนังสือนัดประชุมหรือหนังสือขอมติดังกล่าว
(1) สถานะการลงทุนของกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนที่เป็นปัจจุบันก่อนการขอมติควบรวมกองทุนรวม ซึ่งจะต้องแสดงรายละเอียดเป็นรายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น โดยระบุประเภท ชื่อ จำนวน อัตราผลตอบแทน (ถ้ามี) มูลค่ายุติธรรมของหลักทรัพย์ตามแนวปฏิบัติทางการบัญชีว่าด้วยการบัญชีสำหรับกิจการที่ดำเนินธุรกิจเฉพาะด้านการลงทุนตามที่สมาคมกำหนดโดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ล่าสุด และผลการดำเนินงานล่าสุดของกองทุนรวม
(2) สรุปประเด็นเปรียบเทียบสาระสำคัญและความแตกต่างของกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนรวม และลักษณะที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการควบรวมกองทุนรวมแล้ว โดยต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทและวัตถุประสงค์ของโครงการ นโยบายการลงทุน และค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนและจากกองทุนรวม เป็นอย่างน้อย
(3) ขั้นตอน สาระสำคัญของการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน และกำหนดเวลาในการควบรวมกองทุนรวม
(4) สิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนรวม
(5) รายงานแสดงฐานะการเงินของกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนรวม ประมาณการฐานะการเงินของกองทุนรวมใหม่หรือกองทุนรวมที่รับโอน
(6) การดำเนินการเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผล (ถ้ามี) ก่อนการควบรวมกองทุนรวม และนโยบายการจ่ายเงินปันผลภายหลังการควบรวมกองทุนรวม (ถ้ามี)
(7) ค่าใช้จ่ายในการควบรวมกองทุนรวมที่จะเรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุนและกองทุนรวม (ถ้ามี) เช่น ค่าใช้จ่ายในการชำระบัญชี เป็นต้น
(8) ข้อดีและข้อเสียหลังจากมีการควบรวมกองทุนรวม เช่น ค่าใช้จ่าย ความเสี่ยง หรือสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องไม่มีลักษณะที่เกินความจริง”
ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 71 ข้อ 72 และข้อ 73 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 71 เมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติให้มีการควบรวมกองทุนรวมตามข้อ 68 แล้ว ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมแจ้งมติดังกล่าวให้สำนักงานทราบ พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
(1) รายละเอียดของโครงการใหม่ หรือการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการที่จะควบรวมกองทุนรวม
(2) ร่างข้อผูกพันใหม่กับบริษัทจัดการกองทุนรวม ร่างสัญญาจัดตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมใหม่ และร่างหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของกองทุนรวมใหม่หรือกองทุนรวมที่รับโอน รวมทั้งร่างข้อผูกพันและร่างสัญญาจัดตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมที่รับโอน ในกรณีที่มีการแก้ไขข้อผูกพันและสัญญาดังกล่าว
(3) หนังสือรับรองการได้มติของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนรวม
(4) รายงานมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน สถานะการลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินของกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนรวม ณ วันทำการสุดท้ายก่อนแจ้งมติดังกล่าวให้สำนักงานทราบ
ข้อ 72 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมควบรวมกองทุนรวมให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้แจ้งมติให้สำนักงานทราบตามข้อ 71 แล้ว เว้นแต่ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงาน ทั้งนี้ ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมกำหนดวันเลิกกองทุนรวมเดิมหรือกองทุนรวมที่โอนเป็นวันเดียวกันกับวันที่ควบรวมกองทุนรวมดังกล่าว
ข้อ 73 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมบอกกล่าวการควบรวมกองทุนรวมและการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการและข้อผูกพัน (ถ้ามี) ตลอดจนสิทธิและกำหนดเวลาในการใช้สิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุน ของกองทุนรวมเดิมหรือกองทุนรวมที่โอนตามวิธีการดังต่อไปนี้ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมควบรวมกองทุนรวมให้แล้วเสร็จตามข้อ 72
(1) แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายของกองทุนรวมที่จะควบรวมกองทุนทราบเป็นหนังสือพร้อมสรุปสาระสำคัญของโครงการและข้อผูกพันใหม่หรือกองทุนรวมที่รับโอน วันที่จะควบรวมกองทุน วันเริ่มทำการซื้อขายหน่วยลงทุนโดยระบุวัน เดือน ปี อย่างชัดแจ้ง และสถานที่ติดต่อเพื่อสอบถามหรือรับข้อมูลเพิ่มเติม
(2) เปิดเผยข้อมูลในลักษณะที่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
ในกรณีที่เป็นการรวมกองทุนรวมปิดกับกองทุนรวมปิด หรือกองทุนรวมปิดกับกองทุนรวมเปิด หากมีผลให้กองทุนรวมที่รับโอนเป็นกองทุนรวมเปิด นอกจากการแจ้งและเปิดเผยข้อมูลตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมแจ้งและเปิดเผยข้อมูลการได้รับมติของผู้ถือหน่วยลงทุนตามข้อ 68 วรรคสามด้วย”
ข้อ 9 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 84 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(2) ก่อนการรับชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่นที่มิใช่หลักประกันในแต่ละครั้ง บริษัทจัดการกองทุนรวมต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุนตามมติพิเศษ”
ข้อ 10 ให้ยกเลิกความในของข้อ 85 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 85 ในการขอความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุน บริษัทจัดการกองทุนรวมต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่กองทุนรวมจะได้จากการรับชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่น มูลค่าของทรัพย์สิน ประมาณการค่าใช้จ่าย เช่น ค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งทรัพย์สิน ค่าใช้จ่ายในการบริหารทรัพย์สิน และค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายทรัพย์สิน เป็นต้น พร้อมเหตุผลและความจำเป็นในการรับชำระหนี้ รวมทั้งต้องจัดให้มีหรือจัดทำเอกสารหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) เอกสารหลักฐานซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่ามีการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น
(2) บทวิเคราะห์และเหตุผลประกอบบทวิเคราะห์ที่บริษัทจัดการกองทุนรวมจัดทำ ซึ่งแสดงถึงพฤติการณ์ว่าผู้ออกตราสารหนี้หรือลูกหนี้ตามสิทธิเรียกร้องจะไม่สามารถชำระหนี้ได้”
ข้อ 11 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของ (2) ในข้อ 98 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 21/2562 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล (ฉบับที่ 12) ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ในการเปิดเผยข้อมูลตามวรรคหนึ่ง มิให้นำมาใช้กับกรณีที่บริษัทจัดการกองทุนรวมได้รับมติพิเศษ”
ข้อ 12 ให้ยกเลิกบทนิยามคำว่า “มติของผู้ถือหน่วยลงทุน” ในข้อ 108 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558
ข้อ 13 ให้ยกเลิกความในข้อ 109 และข้อ 110 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 109 เมื่อเกิดหรือรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่ทำให้ต้องจัดให้มีผู้ประกันรายใหม่ บริษัทจัดการกองทุนรวมต้องจัดให้มีผู้ประกันรายใหม่ที่มีคุณสมบัติและมีข้อกำหนดตามสัญญาประกันในระดับที่ไม่ต่ำกว่าของผู้ประกันรายเดิม ณ ขณะทำสัญญาเดิมหรือตามที่กำหนดไว้ในข้อผูกพัน แล้วแต่กรณี เว้นแต่ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) บริษัทจัดการกองทุนรวมได้รับมติพิเศษให้จัดให้มีผู้ประกันรายใหม่เป็นอย่างอื่น
(2) บริษัทจัดการกองทุนรวมได้สงวนสิทธิไว้ในโครงการว่า ในกรณีที่ปรากฏเหตุดังกล่าวบริษัทจัดการกองทุนรวมจะเลิกกองทุนรวมมีประกัน หรือจัดการกองทุนรวมดังกล่าวต่อไปโดยยกเลิกการประกันและเลิกใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน โดยถือว่าได้รับมติพิเศษ
ในการขอมติพิเศษตามวรรคหนึ่ง (1) ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมเปิดเผยรายละเอียดซึ่งเป็นสาระสำคัญที่แตกต่างกันระหว่างผู้ประกันรายเดิมกับรายใหม่ และเรื่องที่อาจมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนที่สืบเนื่องจากการเปลี่ยนผู้ประกันรายใหม่ ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบด้วย
ในกรณีที่การจัดให้มีผู้ประกันรายใหม่เกิดขึ้นเนื่องจากความผิดของบริษัทจัดการกองทุนรวมเอง ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนตัวผู้ประกันหรือที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ยังไม่อาจจัดให้มีผู้ประกันรายใหม่ให้แก่กองทุนรวมมีประกันหรือผู้ถือหน่วยลงทุน แล้วแต่กรณี
ข้อ 110 ในกรณีที่ปรากฏว่าการจัดให้มีผู้ประกันรายใหม่จะมีผลทำให้ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีผู้ประกันเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 25 ของอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีผู้ประกันสำหรับงวดการประกันล่าสุด บริษัทจัดการกองทุนรวมจะจัดให้มีผู้ประกันรายใหม่ดังกล่าวได้ ต่อเมื่อบริษัทจัดการกองทุนรวมได้แก้ไขเพิ่มเติมโครงการในเรื่องดังกล่าวโดยต้องได้รับ มติพิเศษ เว้นแต่บริษัทจัดการกองทุนรวมได้สงวนสิทธิไว้ในโครงการตามข้อ 109 วรรคหนึ่ง (2)”
ข้อ 14 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 111 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(1) บริษัทจัดการกองทุนรวมไม่ได้รับมติพิเศษตามข้อ 109 วรรคหนึ่ง (1) หรือข้อ 110”
ข้อ 15 ให้ยกเลิกความในข้อ 112 แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 87/2558 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนส่วนบุคคล ลงวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 112 เมื่อปรากฏเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดตามข้อ 111 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) เลิกกองทุนรวมมีประกันเมื่อได้รับมติพิเศษ
(2) ยกเลิกการประกันเมื่อได้รับมติพิเศษและจัดการกองทุนรวมดังกล่าวต่อไป โดยให้บริษัทจัดการกองทุนรวมเลิกใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน และห้ามบริษัทจัดการกองทุนรวมโฆษณาหรือเปิดเผยว่าเป็นกองทุนรวมมีประกันอีกต่อไปการดำเนินการตามวรรคหนึ่งไม่เป็นผลให้บริษัทจัดการกองทุนรวมหลุดพ้นจาก ความรับผิดตามข้อ 109 วรรคสาม และบริษัทจัดการกองทุนรวมยังต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับกองทุนรวมมีประกันและผู้ถือหน่วยลงทุนจนถึงวันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมได้รับมติพิเศษตามข้อ 109 วรรคหนึ่ง (1) ด้วย”
ข้อ 16 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562
(นางทิพยสุดา ถาวรามร)
รองเลขาธิการ
เลขาธิการแทน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่มา: http://www.sec.or.th/