ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่ ทน. 29/2563
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน
และการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม
(ฉบับที่ 3)
_______________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 129/2 วรรคสาม และมาตรา 129/3 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562คณะกรรมการกำกับตลาดทุนออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (5) ของข้อ 10 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 33/2562 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน และการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ลงวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562
“(5) ความเห็นของผู้ดูแลผลประโยชน์เกี่ยวกับผลกระทบที่ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับจากการลงมติ ในกรณีเป็นการดำเนินการที่มีข้อกำหนดให้ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ดูแลผลประโยชน์”
ข้อ 2 ให้เพิ่มความดังต่อไปนี้เป็นข้อ 14/1 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 33/2562 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน และการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ลงวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562
“ข้อ 14/1 เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงที่บริษัทจัดการกองทุนรวมพิจารณาแล้วมีความเชื่อโดยสุจริตและสมเหตุสมผลว่ามีเหตุจำเป็นเพื่อพิทักษ์ประโยชน์และคุ้มครองผู้ถือหน่วยลงทุน ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมโดยได้รับความเห็นชอบจากผู้ดูแลผลประโยชน์ ดำเนินการตามระยะเวลาที่เกี่ยวข้องกับการประชุมหรือการส่งหนังสือขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมดังต่อไปนี้แทนระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 12 และข้อ 13 ได้
(1) การกำหนดวันที่ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งมีชื่อปรากฏในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นผู้มีสิทธิในการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนหรือเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในหนังสือขอมติของกองทุนรวมตามข้อ 6 หากเป็นการดำเนินการภายหลังประกาศเลิกกองทุนรวม แต่ยังไม่เสร็จสิ้นการดำเนินการที่ให้ถือว่าเป็นการเลิกกองทุนรวมดังกล่าว บริษัทจัดการกองทุนรวมอาจกำหนดวันที่ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งมีชื่อปรากฏในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันเลิกกองทุนรวม เป็นวันที่ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนหรือเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในหนังสือขอมติของกองทุนรวมก็ได้
(2) กรณีที่เป็นกองทุนรวมที่มิได้มีหน่วยลงทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การแจ้งวันที่ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมกำหนดหรือวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนตามข้อ 7 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันก่อนวันที่กำหนดตามข้อ 6
กรณีเป็นการดำเนินการภายหลังประกาศเลิกกองทุนรวมแต่ยังไม่เสร็จสิ้นการดำเนินการที่ให้ถือว่าเป็นการเลิกกองทุนรวมดังกล่าว ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันก่อนวันที่ส่งหนังสือนัดประชุมหรือหนังสือขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุนตาม (3)
(3) การจัดส่งหนังสือนัดประชุมหรือหนังสือขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุนล่วงหน้าตามข้อ 12 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนหรือวันสุดท้ายของการรับหนังสือแจ้งมติ
(4) การนัดประชุมใหม่หรือการกำหนดวันสุดท้ายของการรับหนังสือแจ้งมติใหม่ตามข้อ 13 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการดังนี้
(ก) แจ้งผู้ถือหน่วยลงทุนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันก่อนวันดังกล่าว
(ข) จัดส่งหนังสือนัดประชุมหรือหนังสือขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุนล่วงหน้าตามข้อ 12 ให้ดำเนินการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนหรือวันสุดท้ายของการรับหนังสือแจ้งมติ
มติของผู้ถือหน่วยลงทุนตามวรรคหนึ่งต้องมีผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของโครงการ หรือมีผู้ถือหน่วยลงทุนส่งหนังสือแจ้งมติและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนดังกล่าว แล้วแต่กรณี”
ข้อ 3 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563
(นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่มา: http://www.sec.or.th/