การดูแลรักษาทรัพย์สินที่สำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิก

ข่าวกฏหมายและประกาศ Friday October 28, 2005 15:51 —ประกาศ ก.ล.ต.

                     ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กธ. 52/2548
เรื่อง การดูแลรักษาทรัพย์สินที่สำนักหักบัญชี
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิก
_____________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 มาตรา 82 และมาตรา 83 วรรคสองประกอบกับมาตรา 34(2) แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มี บทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 39 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
“สำนักหักบัญชีสัญญา” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
“ทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิก” หมายความว่า
(1) ทรัพย์สินที่สำนักหักบัญชีสัญญาได้รับมาจากสมาชิกทั้งที่เป็นของสมาชิกและของลูกค้าเพื่อเป็นประกันการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
(2) ทรัพย์สินที่สำนักหักบัญชีสัญญาได้รับมาเนื่องจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทั้งของสมาชิกและของลูกค้า
(3) ทรัพย์สินที่สมาชิกนำมาวางไว้กับสำนักหักบัญชีสัญญาเพื่อความมั่นคงของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ข้อ 2 สำนักหักบัญชีสัญญามีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลรักษาทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิกโดยจะมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการดังกล่าวแทนมิได้การที่สำนักหักบัญชีสัญญาจัดเก็บทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิกตามวิธีการที่กำหนดในข้อ 4 มิให้ถือว่าเป็นการมอบหมายให้ผู้อื่นดูแลรักษาทรัพย์สินดังกล่าวแทนตน
ข้อ 3 ในการดูแลรักษาทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิก สำนักหักบัญชีสัญญาต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) จัดทำและเก็บรักษาบัญชีทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิกแยกจากบัญชีทรัพย์สินของสำนักหักบัญชีสัญญาโดยให้ดำเนินการแยกเป็นบัญชีของสมาชิกแต่ละรายด้วยรวมทั้งจัดทำและเก็บรักษาบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าแยกจากบัญชีทรัพย์สินของสมาชิกให้ถูกต้องครบถ้วน ตรงต่อความเป็นจริงและเป็นปัจจุบัน
(2) จัดเก็บทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิกให้มีความมั่นคงปลอดภัยและมีรายการและจำนวนตรงตามที่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินตาม (1)
(3) จัดเก็บทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิกแยกจากทรัพย์สินของสำนักหักบัญชีสัญญาในลักษณะที่สามารถชี้เฉพาะได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิกโดยปราศจากเหตุสงสัย
(4) รายงานการดูแลรักษาทรัพย์สินดังกล่าวให้สมาชิกทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมทั้งนี้ การดำเนินการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่สำนักหักบัญชีสัญญากำหนด
ข้อ 4 ในการดูแลรักษาทรัพย์สินที่ได้รับมาหรือมีไว้เพื่อสมาชิก หากสำนักหักบัญชีสัญญาได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นการแยกทรัพย์สินตามข้อ 3 (3) แล้ว
(1) ในกรณีที่เป็นทรัพย์สินประเภทเงิน ให้จัดเก็บโดยการฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารอื่นที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น หรือลงทุนตามกรอบหรือนโยบายการลงทุนที่สำนักหักบัญชีสัญญากำหนด โดยให้ระบุว่าการฝากหรือการลงทุนดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยสำนักหักบัญชีสัญญาเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามที่กำหนดในมาตรา 83 ทั้งนี้ ให้ระบุวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนด้วย
(2) ในกรณีที่เป็นทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์ ให้จัดเก็บโดยการฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยโดยให้ระบุว่าการฝากหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยสำนักหักบัญชีสัญญาเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามที่กำหนดในมาตรา 83 ทั้งนี้ ให้ระบุวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนด้วย
ข้อ 5 ในการกำหนดกรอบหรือนโยบายการลงทุนตามข้อ 4 (1) ให้สำนักหักบัญชีสัญญาคำนึงถึงสภาพคล่องและความเสี่ยงในการลงทุน ตลอดจนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้สำนักหักบัญชีสัญญารายงานกรอบหรือนโยบายการลงทุนที่กำหนดขึ้น ตลอดจนการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรอบหรือนโยบายการลงทุนดังกล่าว ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. โดยไม่ชักช้า
ข้อ 6 สำนักหักบัญชีสัญญาต้องตรวจสอบและดูแลให้พนักงานปฏิบัติตามประกาศและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งสำนักหักบัญชีสัญญากำหนดขึ้นโดยเคร่งครัด
ข้อ 7 ในกรณีที่ปรากฏต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ว่าสำนักหักบัญชีสัญญาแห่งใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศหรือกฎเกณฑ์ที่สำนักหักบัญชีสัญญากำหนดขึ้น หรือดำเนินการที่ไม่เหมาะสมในการประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญา สำนักงาน ก.ล.ต. อาจสั่งให้สำนักหักบัญชีแห่งนั้นดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศและกฎเกณฑ์ดังกล่าว หรือดำเนินการใดๆ ตามที่เห็นสมควรได้
ข้อ 8 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2548
(นายทนง พิทยะ)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ