โดยที่ข้อ 2 วรรคหนึ่ง แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 12/2564 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขออนุญาตหรือแจ้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 ข้อ 2 วรรคหนึ่ง แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ. 30/2564 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขออนุญาตหรือแจ้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564 และข้อ 2 วรรคหนึ่ง แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สธ. 21/2564 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขออนุญาตหรือแจ้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564 ได้มีการกำหนดให้ ในการขออนุญาตหรือแจ้งต่อสำนักงาน ให้ผู้ขออนุญาตหรือแจ้งดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระ ต้นทุน และเวลา ให้แก่ผู้ส่งข้อมูล นั้น เพื่อปรับปรุงกระบวนการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้ส่งข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอก กับสำนักงาน ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ครอบคลุมการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จากผู้ส่งข้อมูลทุกประเภท และรองรับการลงตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคล รวมทั้งสามารถ รักษาความปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยป้องกันมิให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องล่วงรู้ข้อมูลที่รับส่ง ระหว่างกัน ตลอดจนยกระดับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ส่งข้อมูลต่อสำนักงานในระดับที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ในด้านการยืนยันตัวบุคคลที่มีสิทธิจริงและการตรวจสอบความถูกต้องตรงกันของ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สำนักงานได้รับกับข้อมูลที่มีการนำส่ง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสำนักงาน มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะของสำนักงานตามมาตรา 24(4) มาตรา 25 วรรคหนึ่ง (2) และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สำนักงานจึงออกระเบียบวิธีปฏิบัติไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ข้อ 2 ให้ยกเลิก (1) ระเบียบวิธีปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557 (2) ระเบียบวิธีปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560 (3) ระเบียบวิธีปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563 ข้อ 3 ในระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ คำว่า ?ข้อความ? ?ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์? ?ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์? และ ?ใบรับรอง? ให้มีความหมายเช่นเดียวกับบทนิยามของคำดังกล่าวที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ คำว่า ?คู่กุญแจ? (key pair) ?กุญแจส่วนตัว? (private key) และ ?กุญแจสาธารณะ? (public key) ให้มีความหมายเช่นเดียวกับบทนิยามของคำดังกล่าวที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับแนวทางการจัดทำแนวนโยบาย (Certificate Policy) และแนวปฏิบัติ (Certification Practice Statement) ของผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certification Authority) ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ?ผู้ส่งข้อมูล? หมายความว่า บุคคลธรรมดา นิติบุคคล หรือคณะบุคคลที่มีหน้าที่ นำส่งข้อมูลต่อสำนักงานและได้ทำความตกลงในการนำส่งข้อมูลต่อสำนักงานในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ?บัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคล? (company account) หมายความว่า บัญชีของผู้ใช้งานสำหรับนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ที่ออกโดยสำนักงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการแจ้ง เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกรายชื่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ผู้กำหนดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน และใช้เป็นตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามี) รวมถึงวัตถุประสงค์อื่นตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการจัดการและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน ?บัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต.? (SEC account) หมายความว่า บัญชีของผู้ใช้งานสำหรับบุคคลธรรมดา ที่ออกโดยสำนักงาน เพื่อประโยชน์ในการจัดการและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ต่อสำนักงาน ?เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ? (operating officer) หมายความว่า กรรมการ หุ้นส่วน หรือพนักงาน ที่ได้รับมอบอำนาจให้ปฏิบัติการแทนนิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลในการส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน และให้รวมถึงบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้รับดำเนินการให้แก่นิติบุคคลหรือ คณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลเพื่อการดังกล่าวด้วย ?ผู้กำหนดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ? (designating person) หมายความว่า กรรมการ หุ้นส่วน หรือพนักงานที่มีตำแหน่งตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการฝ่ายขึ้นไปหรือเทียบเท่า ซึ่งได้รับมอบหมาย จากนิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลให้มีอำนาจในการแต่งตั้ง เปลี่ยนแปลง ยกเลิก และกำหนดสถานะ ตลอดจนขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ และให้รวมถึงบุคคลอื่นที่มีตำแหน่ง ในระดับเดียวกับกรรมการ หุ้นส่วน หรือพนักงานข้างต้นซึ่งเป็นผู้รับดำเนินการให้แก่นิติบุคคลหรือ คณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลเพื่อการดังกล่าวด้วย ?ผู้สนับสนุนการนำส่งข้อมูล? หมายความว่า กรรมการ หุ้นส่วน หรือพนักงาน ที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลมอบอำนาจให้จัดทำข้อมูลของนิติบุคคลหรือคณะบุคคล เพื่อเตรียมการก่อนนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่สำนักงาน เช่น จัดทำ เรียกดู หรือตรวจสอบ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น แต่ไม่รวมถึงอำนาจในการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน และให้รวมถึงบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้รับดำเนินการให้แก่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลเพื่อการดังกล่าวด้วย ?ผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน? (account administrator) หมายความว่า กรรมการ หุ้นส่วน หรือพนักงาน ที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลมอบอำนาจให้บริหารจัดการสิทธิในการจัดทำหรือเข้าถึงข้อมูลของผู้สนับสนุนการนำส่งข้อมูล แต่ไม่รวมถึงอำนาจในการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ต่อสำนักงาน และให้รวมถึงบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้รับดำเนินการให้แก่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล เพื่อการดังกล่าวด้วย ?ลายมือชื่อดิจิทัล? หมายความว่า ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้น โดยการนำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มาแปลงเป็นตัวเลขและใช้กับระบบคู่กุญแจ โดยนำไปคำนวณร่วมกับ กุญแจส่วนตัวของผู้ลงลายมือชื่อในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ในลักษณะที่สามารถใช้กุญแจสาธารณะ ของผู้ลงลายมือชื่อตรวจสอบได้ว่าลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นได้สร้างขึ้นโดยกุญแจส่วนตัวของ ผู้ลงลายมือชื่อนั้นหรือไม่ และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการลงลายมือชื่อดังกล่าวได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงภายหลังการลงลายมือชื่อหรือไม่ ?ผู้ให้บริการออกใบรับรอง? (certification authority) หมายความว่า นิติบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่ออกใบรับรอง เพื่อยืนยันว่าข้อมูลสำหรับใช้สร้างลายมือชื่อดิจิทัลที่กำกับ มากับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งส่งมายังสำนักงานเป็นของผู้มีหน้าที่ลงนามหรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจริง ?คู่มือการใช้งาน? หมายความว่า คู่มือการใช้งานสำหรับการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือคู่มืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามข้อ 10 วรรคหนึ่ง ข้อ 4 ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ให้ใช้บังคับกับเฉพาะกรณีการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้ส่งข้อมูลกับสำนักงาน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สำนักงานได้ประกาศไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงาน ข้อ 5 การรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) การพิสูจน์และยืนยันตัวตนของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ต่อสำนักงาน ให้เป็นไปตามหมวด 1 (2) การรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน ให้เป็นไปตามหมวด 2 (3) ข้อกำหนดเพิ่มเติมกรณีผู้ส่งข้อมูลเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ให้เป็นไปตามหมวด 3 หมวด 1 การพิสูจน์และยืนยันตัวตนของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่ง ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน ข้อ 6 เพื่อประโยชน์ในการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่สำนักงาน ให้บุคคลดังต่อไปนี้ ดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในข้อ 7 (1) บุคคลธรรมดาผู้ส่งข้อมูล (2) กรรมการของนิติบุคคล หรือบุคคลอื่นที่มีอำนาจหน้าที่ในลักษณะทำนองเดียวกับกรรมการของนิติบุคคล ทุกราย ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลเป็นนิติบุคคลและมีกฎหมายหรือกฎลำดับรองกำหนดให้ในการนำส่งข้อมูลต่อสำนักงาน ต้องมีการลงนามเพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูล โดยกรรมการหรือบุคคลอื่นตามข้างต้น ทุกราย (3) ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลเป็นนิติบุคคลและ ไม่ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการส่งข้อมูลแทนตน เว้นแต่เป็นกรณีตาม (2) (4) บุคคลในคณะบุคคลทุกราย ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลเป็นคณะบุคคล และเป็นไปตามเงื่อนไขข้อหนึ่งข้อใดดังนี้ (ก) คณะบุคคลนั้นไม่ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการส่งข้อมูลแทนตน (ข) มีกฎหมายหรือกฎลำดับรองกำหนดให้ในการนำส่งข้อมูลต่อสำนักงาน ต้องมีการลงนามโดยบุคคลในคณะบุคคลทุกราย (5) เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคล และ มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการส่งข้อมูลแทนตน (6) ผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน (ถ้ามี) (7) ผู้สนับสนุนการนำส่งข้อมูล (ถ้ามี) ข้อ 7 ให้บุคคลตามข้อ 6 ดำเนินการดังต่อไปนี้ (1) กรณีเป็นบุคคลสัญชาติไทย ให้บุคคลดังกล่าวยื่นคำขอสมัครใช้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านระบบของผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เพื่อขอรับบัญชีผู้ใช้งานตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการจัดการหรือนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน (2) กรณีเป็นบุคคลที่มิได้มีสัญชาติไทยและเป็นบุคคลตามข้อ 6(1) (2) (3) (4) หรือ (7) บุคคลดังกล่าวต้องยื่นคำขอลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. ต่อสำนักงาน เพื่อประโยชน์ ในการยืนยันตัวตน รวมทั้งการจัดการและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงานด้วย ข้อ 8 การยื่นคำขอลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. ต่อสำนักงานตาม ข้อ 7(2) ให้เป็นไปตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุในคู่มือสำหรับประชาชน โดยสำนักงานจะพิจารณา คำขอให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่สำนักงานได้รับคำขอ พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบคำขอที่ถูกต้องครบถ้วนตามคู่มือสำหรับประชาชน ในกรณีที่ผู้ลงทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ประสงค์จะขอยกเลิกบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. ให้แจ้งการยกเลิกพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งต่อสำนักงาน ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุในคู่มือสำหรับประชาชน ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับกรณีที่ผู้ลงทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. ที่ได้เคยแจ้งไว้ต่อสำนักงาน โดยอนุโลม ข้อ 9 เพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของบุคคลตามข้อ 6 ให้บุคคลดังกล่าวกรอกข้อมูลในแบบคำขอสมัครใช้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านระบบของผู้ให้บริการพิสูจน์และ ยืนยันตัวตนตามข้อ 7(1) และแบบคำขอลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. ตามข้อ 7(2) แล้วแต่กรณี ให้ครบถ้วน หมวด 2 การรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน ข้อ 10 สำนักงานจะจัดให้มีคู่มือการใช้งานสำหรับการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือคู่มืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงาน ให้บุคคลหรือคณะบุคคลที่ประสงค์จะเป็นผู้ส่งข้อมูล แสดงความตกลงในการนำส่งข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ระบุในคู่มือการใช้งานตามวรรคหนึ่ง ข้อ 11 การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงานทุกครั้งต้องกระทำโดยมีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้ส่งข้อมูลหรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตามประเภทและวิธีการที่ระบุ ในคู่มือการใช้งาน ข้อ 12 ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลจะส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่กำกับด้วยลายมือชื่อดิจิทัล ต่อสำนักงาน ก่อนเริ่มการส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่กำกับด้วยลายมือชื่อดิจิทัลต่อสำนักงาน ให้ผู้ส่งข้อมูล จัดให้มีใบรับรองที่ออกโดยผู้ให้บริการออกใบรับรองที่น่าเชื่อถือ ใบรับรองตามวรรคหนึ่งต้องมีรูปแบบมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้งาน ข้อ 13 ผู้ให้บริการออกใบรับรองที่น่าเชื่อถือตามข้อ 12 ต้องมีคุณสมบัติหรือรายชื่อตามที่กำหนดไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงาน ข้อ 14 เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่กำกับด้วยลายมือชื่อดิจิทัล ผู้ส่งข้อมูลต้องปฏิบัติตามหน้าที่และข้อผูกพันที่ผู้ให้บริการออกใบรับรองกำหนดในแนวนโยบาย (Certificate Policy: CP) และแนวปฏิบัติ (Certificate Practice Statement: CPS) ของผู้ให้บริการออกใบรับรองอย่างเคร่งครัด ข้อ 15 ให้ถือว่าสำนักงานได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ต่อเมื่อสำนักงานได้แจ้ง เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยข้อความว่า ?สำนักงานได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดทางเทคนิคแล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังไม่ถือเป็นการรับรองหรือแสดงว่าสำนักงานได้ตรวจสอบแล้ว ถึงความครบถ้วนถูกต้องของสาระของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่นำส่ง? หรือข้อความอื่นในทำนองเดียวกัน ข้อ 16 สำนักงานมีสิทธิปฏิเสธไม่รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ส่งต่อสำนักงาน ในกรณีดังต่อไปนี้ (1) เมื่อข้อมูลทางเทคนิคบ่งชี้ว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่นำส่งถูกแก้ไข เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงภายหลังการส่ง หรือมีความผิดปกติของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่กำกับข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ที่นำส่ง (2) เมื่อพบว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับไม่เป็นไปตามข้อกำหนดทางเทคนิค ที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งานที่ใช้บังคับอยู่ในเวลาที่ได้นำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น ในกรณีที่สำนักงานปฏิเสธไม่รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานจะแจ้งเป็นข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ส่งข้อมูล หรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของนิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล แล้วแต่กรณี ทราบโดยทันที ข้อ 17 ในการพิจารณาเวลาและสถานที่ในการส่งหรือรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ให้ถือว่าเวลาตามที่ปรากฏที่ระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงาน ณ ขณะที่ผู้ส่งข้อมูลหรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของนิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล แล้วแต่กรณี กดส่งข้อมูล เป็นเวลาส่ง และเวลาตามที่ปรากฏที่ระบบรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเชื่อถือ ณ ขณะที่สำนักงานได้รับข้อมูล เป็นเวลารับ (2) ให้ถือว่าที่ทำการของสำนักงานเป็นสถานที่ที่ได้รับข้อมูล (3) ในการพิจารณาสถานที่ที่ส่งข้อมูล ให้พิจารณาดังนี้ (ก) กรณีที่ผู้ส่งข้อมูลเป็นนิติบุคคล ให้ถือว่าที่ทำการสำนักงานใหญ่ของผู้ส่งข้อมูลเป็นสถานที่ที่ส่งข้อมูล (ข) กรณีที่ผู้ส่งข้อมูลเป็นสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาต ให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ให้ถือว่าสถานที่ทำการหลัก ของสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศในประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ส่งข้อมูล (ค) กรณีอื่นนอกเหนือจาก (ก) และ (ข) ให้นำความในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาใช้บังคับโดยอนุโลม หมวด 3 ข้อกำหนดเพิ่มเติมกรณีผู้ส่งข้อมูลเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ข้อ 18 ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลเป็นนิติบุคคลและการทำธุรกรรมของนิติบุคคลดังกล่าว ต้องประทับตราของนิติบุคคล ให้นิติบุคคลนั้นยื่นคำขอลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ต่อสำนักงานเพื่อใช้เป็นตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคล ทั้งนี้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุ ในคู่มือสำหรับประชาชน โดยสำนักงานจะพิจารณาคำขอให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่สำนักงานได้รับคำขอ พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบคำขอที่ถูกต้องครบถ้วนตามคู่มือสำหรับประชาชน ในกรณีที่นิติบุคคลผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะยกเลิกบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ให้นิติบุคคลผู้ส่งข้อมูลแจ้งการยกเลิกพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งต่อสำนักงาน ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุในคู่มือสำหรับประชาชน ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับกรณีที่นิติบุคคลผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ที่ได้เคยแจ้งไว้ต่อสำนักงาน โดยอนุโลม ข้อ 19 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของนิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล นิติบุคคลหรือคณะบุคคลดังกล่าวอาจกำหนดให้มีผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน หรือผู้สนับสนุนการนำส่งข้อมูล ก็ได้ ข้อ 20 ในกรณีที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล ประสงค์จะกำหนดให้มี ผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน ให้นิติบุคคลหรือคณะบุคคลดังกล่าวยื่นคำขอลงทะเบียนผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน ต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุในคู่มือสำหรับประชาชน โดยสำนักงานจะพิจารณาคำขอ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่สำนักงานได้รับคำขอ พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบคำขอ ที่ถูกต้องครบถ้วนตามคู่มือสำหรับประชาชน ในกรณีที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะยกเลิกผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน ให้นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลแจ้งการยกเลิก พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการแจ้งต่อสำนักงาน ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุในคู่มือสำหรับประชาชน ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับกรณีที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน ที่ได้เคยแจ้งไว้ต่อสำนักงาน โดยอนุโลม การยื่นคำขอตามวรรคหนึ่งและวรรคสาม รวมทั้งการแจ้งตามวรรคสอง ให้ดำเนินการ โดยผ่านบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคลด้วย ข้อ 21 ในกรณีที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล ประสงค์จะกำหนดให้มี ผู้สนับสนุนการนำส่งข้อมูล หรือดำเนินการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว ให้ผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกับสำนักงานแล้ว ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่กำหนด ไว้ในคู่มือการใช้งาน ข้อ 22 ในกรณีที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนำส่งข้อมูล ให้นิติบุคคลหรือคณะบุคคลดังกล่าวดำเนินการดังต่อไปนี้ด้วย (1) ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ต่อสำนักงาน โดยให้นำความ ในข้อ 18 มาใช้บังคับ โดยอนุโลม (2) แจ้งรายชื่อของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ รวมทั้งขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการรายดังกล่าวต่อสำนักงาน ในกรณีที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะจัดให้มีบุคคลซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ให้นิติบุคคลหรือคณะบุคคลดังกล่าวแจ้งรายชื่อของผู้กำหนดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ รวมทั้งขอบเขตอำนาจหน้าที่ของผู้กำหนดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการรายดังกล่าวต่อสำนักงาน การยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหรือ ผู้กำหนดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ให้นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลแจ้งข้อมูลดังกล่าวต่อสำนักงานด้วย การแจ้งข้อมูลตาม (2) วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม ให้ดำเนินการ โดยผ่านบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคลตาม (1) ด้วย ทั้งนี้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุ ในคู่มือสำหรับประชาชน (3) ในการส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูล ต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแลให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการดำเนินการส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงาน ให้เป็นไปตามคู่มือการใช้งานอย่างเคร่งครัด (4) ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจะส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่กำกับด้วยลายมือชื่อดิจิทัลต่อสำนักงาน ก่อนเริ่มการส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของผู้ส่งข้อมูล จัดให้มีใบรับรองที่ออกโดยผู้ให้บริการออกใบรับรองที่น่าเชื่อถือโดยให้นำความในข้อ 12 วรรคสอง และข้อ 13 มาใช้บังคับ โดยอนุโลม (5) เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่กำกับด้วยลายมือชื่อดิจิทัลตาม (4) ผู้ส่งข้อมูลต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแลให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการปฏิบัติตามหน้าที่และข้อผูกพันที่ผู้ให้บริการออกใบรับรองกำหนดในแนวนโยบาย (Certificate Policy: CP) และแนวปฏิบัติ (Certificate Practice Statement: CPS) ของผู้ให้บริการออกใบรับรองอย่างเคร่งครัด มิให้นำความในข้อ 12 วรรคหนึ่ง และข้อ 14 มาใช้บังคับกับกรณีที่นิติบุคคลหรือ คณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนำส่งข้อมูล หมวด 4 การใช้บังคับและบทเฉพาะกาล ข้อ 23 ในกรณีที่นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะยื่นคำขอลงทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน หรือแจ้งการยกเลิกผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน ตามข้อ 20 หรือแจ้งข้อมูลตามข้อ 22 วรรคหนึ่ง (2) วรรคสี่ แล้วแต่กรณี ซึ่งต้องดำเนินการโดยผ่านบัญชีผู้ใช้งาน นิติบุคคลหรือคณะบุคคล ให้นิติบุคคลหรือคณะบุคคลผู้ส่งข้อมูลดังกล่าวได้รับผ่อนผันไม่ต้องดำเนินการโดยผ่านบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคลได้ ทั้งนี้ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ใช้บังคับ ในกรณีที่มีการยื่นคำขอลงทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน ก่อนครบกำหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง โดยการยื่นคำขอนั้นไม่ได้ดำเนินการโดยผ่านบัญชีผู้ใช้งาน นิติบุคคลหรือคณะบุคคล และสำนักงานอยู่ในระหว่างการพิจารณาคำขอดังกล่าว สำนักงานจะพิจารณา คำขอนั้นต่อไปโดยถือเสมือนว่าได้ดำเนินการโดยผ่านบัญชีผู้ใช้งานนิติบุคคลหรือคณะบุคคลแล้ว ข้อ 24 ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลได้แต่งตั้งผู้กำหนดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ผู้บริหารบัญชีผู้ใช้งาน ผู้สนับสนุนการนำส่งข้อมูล อยู่แล้วโดยชอบในวันก่อนวันที่ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ใช้บังคับ ให้การแต่งตั้งนั้นยังคงมีผลต่อไปจนกว่าผู้มีอำนาจหน้าที่จะแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือยกเลิกการลงทะเบียนของบุคคลดังกล่าวต่อสำนักงานตามข้อ 20 ข้อ 21 ข้อ 22 วรรคหนึ่ง (2) วรรคสี่ หรือข้อ 23 แล้วแต่กรณี ข้อ 25 ในการดำเนินการให้มีบัญชีผู้ใช้งานตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้งานตาม ข้อ 7(1) หรือบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. ตามข้อ 7(2) รวมทั้งการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงานโดยใช้บัญชีดังกล่าว ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่สำนักงานกำหนดเป็นต้นไป โดยสำนักงานจะแจ้งให้ ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ พร้อมทั้งเงื่อนไขการดำเนินการ (ถ้ามี) เป็นการทั่วไปบนเว็บไซต์ของสำนักงานด้วย สำนักงานอาจกำหนดวันเริ่มดำเนินการตามวรรคหนึ่งโดยพิจารณาตามความพร้อมของแต่ละระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ในระหว่างที่สำนักงานยังมิได้มีการกำหนดวันเริ่มดำเนินการตามวรรคหนึ่งสำหรับ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ใด ให้ผู้ส่งข้อมูลนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อสำนักงานตามระเบียบวิธีปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ใช้บังคับ ไปพลางก่อน ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ผู้ส่งข้อมูล เป็นนิติบุคคลและการรับส่งข้อมูลนั้นได้ดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์อยู่ก่อนแล้ว ข้อ 26 เมื่อสำนักงานมีการกำหนดวันเริ่มดำเนินการตามข้อ 25 วรรคหนึ่ง สำหรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ใดแล้ว ผู้ส่งข้อมูลอาจขอผ่อนผันการดำเนินการตามข้อ 25 วรรคหนึ่ง ทั้งหมดหรือบางส่วน ต่อสำนักงานได้ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควร สำนักงานจะพิจารณาคำขอตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการนับแต่ วันที่สำนักงานได้รับคำขอ พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบคำขอที่ถูกต้องครบถ้วนตามคู่มือ สำหรับประชาชน ให้นำความในข้อ 25 วรรคสาม มาใช้บังคับกับผู้ส่งข้อมูลที่ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงานตามวรรคสอง โดยอนุโลม ข้อ 27 ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลมีบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. อยู่แล้วโดยชอบ ก่อนวันที่ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ใช้บังคับ ให้บัญชีนั้นยังคงมีผลต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่สำนักงานกำหนด ตามข้อ 25 หรือวันสิ้นสุดระยะเวลาการผ่อนผันตามข้อ 26 แล้วแต่กรณี ข้อ 28 ในกรณีที่บุคคลใดยื่นคำขอลงทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งานระบบของ ก.ล.ต. ต่อสำนักงาน ตามระเบียบวิธีปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือแนวทางอื่นใดของสำนักงาน ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ใช้บังคับ โดยการยื่นคำขอดังกล่าวได้ดำเนินการก่อนวันที่สำนักงานกำหนดตามข้อ 25 หรือก่อนสิ้นสุดระยะเวลาการผ่อนผันตามข้อ 26 แล้วแต่กรณี และคำขอนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ให้การพิจารณาคำขอนั้นอยู่ภายใต้ข้อกำหนดตามระเบียบวิธีปฏิบัติหรือแนวทางดังกล่าว ทั้งนี้ เว้นแต่ผู้ยื่นคำขอจะได้แจ้งต่อสำนักงานว่าประสงค์จะขอให้สำนักงานพิจารณา คำขอภายใต้ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ ในกรณีที่สำนักงานให้ความเห็นชอบตามคำขอลงทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่า เป็นการให้ความเห็นชอบตามระเบียบวิธีปฏิบัตินี้แล้ว ข้อ 29 ให้บรรดาคำสั่ง และหนังสือเวียน ที่ออก หรือวางแนวปฏิบัติตามระเบียบวิธีปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ใช้บังคับ ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดแห่งระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ จนกว่าจะได้มีคำสั่ง หรือหนังสือเวียนที่ออกหรือวางแนวปฏิบัติตามระเบียบวิธีปฏิบัตินี้ใช้บังคับ ข้อ 30 ในกรณีที่มีระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ข้อกำหนด หรือหนังสือเวียนฉบับอื่นใดอ้างอิงระเบียบวิธีปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557 ให้การอ้างอิงดังกล่าวหมายถึงการอ้างอิงระเบียบวิธีปฏิบัติฉบับนี้ ประกาศ ณ วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564 (นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล) เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่มา: http://www.sec.or.th/