ข้อกำหนดเกี่ยวกับผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday January 17, 2005 11:35 —ประกาศ ก.ล.ต.

                        ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กจ. 5/2548
เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
____________________________________
โดยที่เป็นการสมควรออกข้อกำหนดกลางเกี่ยวกับลักษณะของผู้บริหารของบริษัทที่ออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน เพื่อประโยชน์ประกอบการพิจารณาคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าว โดยดำเนินการภายใต้ระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร อันเป็นระบบที่รองรับข้อมูลรายชื่อผู้บริหารที่นำส่งโดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทที่มีหน้าที่จัดทำและส่งรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทตามมาตรา 56 ด้วย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
(1) คำว่า “บริษัทจดทะเบียน” “บริษัทย่อย” “ผู้บริหาร” และ “ผู้มีอำนาจควบคุม” ให้มีความหมายเช่นเดียวกับบทนิยามของคำดังกล่าวที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการยื่นและการยกเว้นการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์
(2) “ระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร” หมายความว่า ระบบข้อมูลที่จัดขึ้นโดยสำนักงานภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศนี้ เพื่อแสดงรายชื่อบุคคลที่เป็นผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
(3) “สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 2 เมื่อประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับใดวางข้อกำหนดให้การพิจารณาลักษณะของผู้บริหารของบริษัทที่ขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการพิจารณาคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าว การพิจารณาองค์ประกอบดังกล่าวให้อยู่ภายใต้บังคับแห่งประกาศฉบับนี้
ในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่มีหน้าที่จัดทำและส่งรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทตามมาตรา 56 บริษัทใด ประสงค์จะนำรายชื่อบุคคลที่เป็นผู้บริหารของบริษัทเข้าสู่ระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร ให้การดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้บังคับแห่งประกาศนี้ด้วยโดยอนุโลม
ข้อ 3 ผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ บุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(2) เป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหารตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(3) อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินคดีอาญาโดยหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย ในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ฉ้อฉล หรือทุจริต
(4) อยู่ระหว่างระยะเวลาที่กำหนดตามคำสั่งขององค์กรที่มีอำนาจตามกฎหมายต่างประเทศ ห้ามมิให้เป็นผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
(5) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตาม (3) หรือเคยถูกเปรียบเทียบปรับเนื่องจากการกระทำความผิดตาม (3)
(6) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการประพฤติผิดต่อหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง (duties of care) และซื่อสัตย์สุจริต (duties of loyalty) เพื่อประโยชน์
ที่ดีที่สุดของกิจการและผู้ถือหุ้นโดยรวมของกิจการที่ตนเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจควบคุม หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(7) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางไม่สุจริตหรือฉ้อฉลผู้อื่น หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(8) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมหรือการเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(9) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมการอำพรางฐานะทางการเงินหรือผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน หรือจงใจแสดงข้อความอันเป็นเท็จในสาระสำคัญหรือปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญที่ควรบอกให้แจ้งในเอกสารใด ๆ ที่ต้องเปิดเผยต่อประชาชนหรือต้องยื่นต่อสำนักงานหรือคณะกรรมการ ก.ล.ต. ไม่ว่าจะเป็นการกระทำในนามของตนเองหรือกระทำแทนนิติบุคคลหรือกิจการที่ตนมีอำนาจในการจัดการ หรือมีหรือเคยมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของบุคคลอื่น
(10) มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรือเคยมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการละเลยการตรวจสอบดูแลตามสมควรเยี่ยงผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่เคยเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน ที่ตนเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจควบคุม หรือบริษัทย่อยของบริษัทดังกล่าว เพื่อมิให้บริษัทฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัท ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น อันอาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในตลาดทุนโดยรวม หรือความเสียหายต่อชื่อเสียง ฐานะ หรือการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้น
ข้อ 4 ผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ต้องเป็นบุคคลซึ่งบริษัทได้แจ้งชื่อต่อสำนักงาน และสำนักงานได้แสดงรายชื่อบุคคลนั้นไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารแล้วสำนักงานจะแสดงรายชื่อผู้บริหารไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารก็ต่อเมื่อสำนักงานไม่พบข้อเท็จจริงหรือข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 ของบุคคลดังกล่าว แต่ทั้งนี้ การแสดงรายชื่อบุคคลใดไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร มิได้เป็นการรับรองว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3
ข้อ 5 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบุคคลที่บริษัทแจ้งชื่อเพื่อการนำเข้าสู่ระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 สำนักงานจะปฏิเสธการแสดงรายชื่อไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร เว้นแต่กรณีที่ลักษณะต้องห้ามดังกล่าวเป็นลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3(5) (6) (7) (8) (9) หรือ (10) และข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคคลนั้น มิได้ร้ายแรงถึงขนาดที่ไม่สมควรแสดงรายชื่อบุคคลดังกล่าวไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร หรือเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมาแล้วเกินสิบห้าปีนับถึงวันที่แจ้งชื่อต่อสำนักงาน สำนักงานจะใช้ดุลพินิจไม่ยกเหตุอันเป็นลักษณะต้องห้ามในกรณีนั้น มาเป็นเหตุในการปฏิเสธการแสดงรายชื่อผู้บริหารรายดังกล่าวไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารก็ได้ ในการนี้ สำนักงานจะกำหนดเงื่อนไขในการแสดงรายชื่อบุคคลดังกล่าวไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารด้วยก็ได้ในกรณีที่สำนักงานปฏิเสธการแสดงรายชื่อผู้บริหารไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3(5) (6) (7) (8) (9) หรือ (10) สำนักงานอาจแจ้งให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์และผู้บริหารรายดังกล่าวทราบถึงกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขในการพิจารณารับรายชื่อ
ผู้บริหารรายดังกล่าวเพื่อแสดงไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารครั้งต่อไปไว้ด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นการกำหนดระยะเวลา ระยะเวลาดังกล่าวต้องไม่เกินสิบห้าปีนับแต่วันที่สำนักงานแจ้งปฏิเสธการแสดงรายชื่อผู้บริหารรายดังกล่าวไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร ในกรณีที่การดำเนินการตามวรรคสองเป็นเหตุให้สำนักงานมีคำสั่งไม่อนุญาตตามคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทใด สำนักงานจะกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขสำหรับการรับพิจารณาคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งต่อไป โดยคำนึงถึงระยะเวลาหรือเงื่อนไขที่กำหนดในวรรคสองด้วยก็ได้
ข้อ 6 ในระหว่างที่คำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการพิจารณา หรือระหว่างที่การอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ยังคงมีผล หากผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงจากรายชื่อที่ได้แจ้งชื่อต่อสำนักงาน ให้บริษัทแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว พร้อมกับการแจ้งรายชื่อผู้บริหารรายใหม่ (ถ้ามี) ต่อสำนักงาน เพื่อให้สำนักงานพิจารณานำรายชื่อดังกล่าวไปแสดงไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารต่อไป เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่าบริษัทไม่แจ้งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร หรือมีผู้บริหารรายใหม่ที่สำนักงานจะปฏิเสธการแสดงรายชื่อไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร ให้สำนักงานมีอำนาจนำข้อเท็จจริงดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณาคำขออนุญาตที่ค้างอยู่หรือทบทวนการอนุญาตที่ได้ให้ไว้แล้วได้
ข้อ 7 การแจ้งข้อมูลผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือข้อมูลการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน ให้เป็นไปตามแบบและวิธีการที่สำนักงานประกาศกำหนด
ข้อ 8 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่าผู้บริหารรายใดที่มีรายชื่ออยู่ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 ให้สำนักงานถอนการแสดงรายชื่อบุคคลนั้นจากระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร เว้นแต่ในกรณีที่เป็นลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3(5) (6) (7) (8) (9) หรือ (10) ให้สำนักงานมีอำนาจดำเนินการดังนี้
(1) หากพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วเกินกว่าสิบห้าปีนับถึงวันที่ข้อเท็จจริงปรากฏต่อสำนักงาน สำนักงานจะใช้ดุลพินิจไม่ยกเหตุอันเป็นลักษณะต้องห้ามในกรณีนั้นมาเป็นเหตุในการถอนการแสดงรายชื่อบุคคลนั้นจากระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารก็ได้ หรือ
(2) หากพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคคลในกรณีนั้นมิได้มีลักษณะร้ายแรงถึงขนาดที่จะถอนการแสดงรายชื่อบุคคลนั้นจากระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร สำนักงานจะแสดงรายชื่อบุคคลดังกล่าวไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารต่อไปก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้ สำนักงานจะสั่งภาคทัณฑ์บุคคลดังกล่าว หรือกำหนดให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการเรื่องหนึ่งเรื่องใดด้วยก็ได้
ข้อ 9 ในกรณีที่สำนักงานถอนการแสดงรายชื่อบุคคลใดจากระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร เนื่องจากการมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3(5) (6) (7) (8) (9) หรือ (10) สำนักงานอาจแจ้งให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์และผู้บริหารรายดังกล่าว ทราบถึงกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขในการพิจารณารับรายชื่อผู้บริหารรายดังกล่าวเพื่อแสดงไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารครั้งต่อไปไว้ด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นการกำหนดระยะเวลา ระยะเวลาดังกล่าวต้องไม่เกินสิบห้าปีนับแต่วันที่สำนักงานแจ้งถอนการแสดงรายชื่อผู้บริหารรายดังกล่าวจากระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร
ข้อ 10 เพื่อประโยชน์ตามประกาศนี้ ให้สำนักงานจัดให้มีฐานข้อมูลรายชื่อผู้บริหารที่ประชาชนเข้าตรวจดูได้ สำนักงานอาจดำเนินการแจ้งข่าวข้อมูลต่อสาธารณชนเกี่ยวกับการปฏิเสธการแสดงรายชื่อผู้บริหารในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือถอนรายชื่อผู้บริหารจากระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม หรือภาคทัณฑ์ผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือจัดข้อมูลดังกล่าวไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างก็ได้
ข้อ 11 เพื่อประโยชน์ตามข้อ 5 และข้อ 8 สำนักงานอาจนำปัจจัยดังต่อไปนี้มาประกอบการพิจารณาในการปฏิเสธหรือถอนการแสดงรายชื่อของบุคคลใดในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร หรือเพื่อกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขในการแสดงรายชื่อผู้บริหารรายดังกล่าวไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร
(1) ลักษณะของพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม
(2) ผลประโยชน์ที่เกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม
(3) ระดับความร้ายแรงของผลกระทบหรือความเสียหายต่อบริษัทหรือผู้ถือหุ้นโดยรวม
(4) พฤติกรรมอื่นของบุคคลดังกล่าว เช่น การให้ข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสำนักงาน การให้ความร่วมมือในการแก้ไขหรือเยียวยาการกระทำ
ที่เกิดขึ้น การปิดบังอำพรางหรือทำลายข้อมูล หรือการให้ข้อมูลเท็จ เป็นต้น
ข้อ 12 นอกจากเหตุแห่งการมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 แล้ว การยกเลิกการแสดงรายชื่อบุคคลไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารให้กระทำได้เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(1) ผู้บริหารตาย
(2) ผู้บริหารพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทซึ่งผู้บริหารดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ สิ้นสุดหน้าที่ในการจัดทำและส่งรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทตามมาตรา 56 เว้นแต่ผู้บริหารรายดังกล่าวยังคงดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บริหารของบริษัทอื่นที่ได้แจ้งชื่อผู้บริหารรายนั้นเพื่อแสดงไว้ในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร
ข้อ 13 เพื่อให้การใช้ดุลพินิจสั่งการของสำนักงานตามประกาศนี้มีความชัดเจนและผ่านกระบวนการทบทวนตามสมควร เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงใดที่อาจนำไปสู่การปฏิเสธหรือถอนการแสดงรายชื่อของบุคคลใดในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหาร ก่อนที่สำนักงานจะมีคำวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าว สำนักงานต้องกำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งทำหน้าที่พิจารณาข้อเท็จจริงและเสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ภายใต้กระบวนพิจารณาของคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานดังกล่าว อย่างน้อยต้องกำหนดให้มีการแจ้งให้บุคคลที่อาจถูกปฏิเสธหรือถอนการแสดงรายชื่อนั้น ได้ทราบข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับข้อสงสัยถึงการมีลักษณะต้องห้ามของบุคคลดังกล่าว และแจ้งสิทธิของบุคคลดังกล่าวในการชี้แจงและนำเสนอพยานหลักฐานเพื่อหักล้าง
ข้อสงสัยนั้นความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับกรณีข้อเท็จจริงที่แสดงถึงการมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3(1) (2) (3) หรือ (4) หรือกรณีอื่นใดที่สำนักงานเห็นว่าได้ผ่านกระบวนวิธีพิจารณามาเพียงพอแล้ว
ข้อ 14 ข้อเท็จจริงใดที่สำนักงานได้นำมาใช้ประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการทางปกครองตามข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 8 แล้ว สำนักงานจะนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาสั่งการซ้ำอีกไม่ได้ แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบถึงการใช้ข้อเท็จจริงนั้นเป็นปัจจัยประกอบการพิจารณา เพราะบุคคลซึ่งเป็นเหตุแห่งการสั่งการในครั้งก่อนมีพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามขึ้นอีก
ข้อ 15 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548
(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ