ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กค. 13/2551
เรื่อง คุณสมบัติและวิธีการแต่งตั้งกรรมการพิจารณาโทษทางปกครอง
_____________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 (1) และมาตรา 123 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 มาตรา 8 (1) และมาตรา 72 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคล ซึ่งตามมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 และมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
(1) “ประธานกรรมการ” หมายความว่า ประธานกรรมการพิจารณาโทษทางปกครอง
(2) “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการพิจารณาโทษทางปกครอง
(3) “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 2 คณะกรรมการพิจารณาโทษทางปกครองแต่ละคณะ ให้ประกอบด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอีกสองคน
ข้อ 3 บุคคลซึ่งจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการหรือกรรมการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(1) เป็นบุคคลซึ่งมีประสบการณ์ทำงานในสถาบันการเงิน โดยอยู่ในสายงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินหรือตลาดทุน หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการบัญชี การเงิน การบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ หรือกฎหมาย
(2) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
(3) ไม่เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย
(4) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ไม่ว่าจะมีการรอการลงโทษหรือไม่ก็ตามเว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(5) ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสำนักงาน ก.ล.ต.
ข้อ 4 ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี
ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระมิได้
ข้อ 5 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามข้อ 4 ประธานกรรมการและกรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3
(4) คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้พ้นจากตำแหน่ง
ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ คณะกรรมการ ก.ล.ต. อาจแต่งตั้งผู้อื่นเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการแทน และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งแทนมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี
ข้อ 6 ให้เลขาธิการเสนอชื่อบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการและกรรมการต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ รวมทั้งข้อเท็จจริงอื่นที่แสดงถึงการเป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ด้วย ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการครบวาระตามข้อ 4 ให้เลขาธิการเสนอชื่อต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ก่อนครบวาระอย่างน้อยหกสิบวัน และหากครบวาระแล้วแต่ยังมิได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการหรือกรรมการขึ้นใหม่ ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งประธานกรรมการหรือกรรมการขึ้นใหม่
เมื่อประธานกรรมการหรือกรรมการพ้นจากตำแหน่งตามข้อ 5 ให้เลขาธิการเสนอชื่อประธานกรรมการหรือกรรมการต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีตำแหน่งว่าง
ข้อ 7 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551
(นายวิจิตร สุพินิจ)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
มาตรา 72 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 บัญญัติให้คุณสมบัติและวิธีการแต่งตั้งกรรมการ
พิจารณาโทษทางปกครอง เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด และเป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ใน
เรื่องดังกล่าวขึ้นใช้บังคับ จึงจำเป็นต้องออกประกาศฉบับนี้