คุณสมบัติและวิธีการแต่งตั้งกรรมการพิจารณาโทษทางปกครอง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 13, 2008 09:58 —ประกาศ ก.ล.ต.

ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ที่ กค. 13/2551

เรื่อง คุณสมบัติและวิธีการแต่งตั้งกรรมการพิจารณาโทษทางปกครอง

_____________________

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 (1) และมาตรา 123 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 มาตรา 8 (1) และมาตรา 72 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคล ซึ่งตามมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 และมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ในประกาศนี้

(1) “ประธานกรรมการ” หมายความว่า ประธานกรรมการพิจารณาโทษทางปกครอง

(2) “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการพิจารณาโทษทางปกครอง

(3) “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ข้อ 2 คณะกรรมการพิจารณาโทษทางปกครองแต่ละคณะ ให้ประกอบด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอีกสองคน

ข้อ 3 บุคคลซึ่งจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการหรือกรรมการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(1) เป็นบุคคลซึ่งมีประสบการณ์ทำงานในสถาบันการเงิน โดยอยู่ในสายงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินหรือตลาดทุน หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการบัญชี การเงิน การบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ หรือกฎหมาย

(2) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

(3) ไม่เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย

(4) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ไม่ว่าจะมีการรอการลงโทษหรือไม่ก็ตามเว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(5) ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสำนักงาน ก.ล.ต.

ข้อ 4 ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี

ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระมิได้

ข้อ 5 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามข้อ 4 ประธานกรรมการและกรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

(1) ตาย

(2) ลาออก

(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3

(4) คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้พ้นจากตำแหน่ง

ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ คณะกรรมการ ก.ล.ต. อาจแต่งตั้งผู้อื่นเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการแทน และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งแทนมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี

ข้อ 6 ให้เลขาธิการเสนอชื่อบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3 ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการและกรรมการต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ รวมทั้งข้อเท็จจริงอื่นที่แสดงถึงการเป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ด้วย ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการครบวาระตามข้อ 4 ให้เลขาธิการเสนอชื่อต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ก่อนครบวาระอย่างน้อยหกสิบวัน และหากครบวาระแล้วแต่ยังมิได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการหรือกรรมการขึ้นใหม่ ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งประธานกรรมการหรือกรรมการขึ้นใหม่

เมื่อประธานกรรมการหรือกรรมการพ้นจากตำแหน่งตามข้อ 5 ให้เลขาธิการเสนอชื่อประธานกรรมการหรือกรรมการต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีตำแหน่งว่าง

ข้อ 7 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551

(นายวิจิตร สุพินิจ)

ประธานกรรมการ

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

หมายเหตุ : เหตุผลในการออกประกาศฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 123 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และ

มาตรา 72 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 บัญญัติให้คุณสมบัติและวิธีการแต่งตั้งกรรมการ

พิจารณาโทษทางปกครอง เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด และเป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ใน

เรื่องดังกล่าวขึ้นใช้บังคับ จึงจำเป็นต้องออกประกาศฉบับนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ