ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่ ทธ/น/ข. 26/2551
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเป็นผู้บริหาร
ของบริษัทหลักทรัพย์
_____________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16/6 และมาตรา 103(4) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 109 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 มาตรา 44 และมาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ทำหน้าที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
(1) “บริษัทหลักทรัพย์” หมายความว่า บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
(2) “ผู้บริหาร” หมายความว่า กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ
(3) “บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ” หมายความว่า กรรมการบริหาร รองผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้จัดการสาขา และให้หมายความรวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าที่เรียกชื่ออย่างอื่น โดยบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบงานในสายงานเกี่ยวกับการให้บริการด้านหลักทรัพย์ การปฏิบัติการด้านหลักทรัพย์ หรือการวิจัยด้านหลักทรัพย์หรือตลาดทุน หรือสายงานอื่นในทำนองเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่ว่าสายงานนั้นจะปฏิบัติงานเพื่อให้บริการแก่บุคคลอื่นหรือเพื่อประโยชน์ของบริษัทเอง
(4) “กรรมการบริหาร” หมายความว่า บุคคลซึ่งคณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งให้เป็นกรรมการบริหาร หรือมอบหมายให้มีอำนาจตัดสินใจในการดำเนินงานของบริษัทแทนคณะกรรมการบริษัท
(5) “ผู้อำนวยการฝ่าย” หมายความว่า บุคคลซึ่งรับผิดชอบงานในระดับส่วนงานภายในบริษัท
ข้อ 2 บริษัทหลักทรัพย์อาจตั้งหรือยอมให้ผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์อื่น เป็นหรือทำหน้าที่ผู้บริหารหรือที่ปรึกษาของบริษัทหลักทรัพย์ได้โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน หากบริษัทหลักทรัพย์แสดงได้ว่ามีการจัดโครงสร้างขององค์กรที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์นั้นได้ และในกรณีที่ผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ดำรงตำแหน่งที่ต้องทำงานเต็มเวลา ผู้บริหารรายนั้นจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวในบริษัทหลักทรัพย์ได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ข้อ 3 การขอความเห็นชอบตามหลักการที่กำหนดไว้ในข้อ 2 ให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ประสงค์จะได้รับความเห็นชอบยื่นคำขอต่อสำนักงานพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบคำขอตามแบบและวิธีการที่สำนักงานจัดไว้ในระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน
สำนักงานจะแจ้งผลการพิจารณาคำขอความเห็นชอบให้บริษัทหลักทรัพย์ทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับเอกสารหลักฐานจากบริษัทหลักทรัพย์ครบถ้วน เว้นแต่เป็นกรณีมีเหตุจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและสำนักงานได้แจ้งเหตุจำเป็นดังกล่าวให้บริษัทหลักทรัพย์ทราบก่อนสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
ข้อ 4 ในกรณีที่ปรากฏว่าข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญตามคำขอที่ได้ยื่นไว้ต่อสำนักงานมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ให้บริษัทหลักทรัพย์แจ้งให้สำนักงานทราบภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว
หากสำนักงานได้พิจารณาข้อมูลดังกล่าวแล้วเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้นเป็นเหตุให้ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามข้อ 2 ให้สำนักงานแจ้งการให้ความเห็นชอบสิ้นสุดลงต่อบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ให้นำความในข้อ 3 วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ 5 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
(นายวิจิตร สุพินิจ)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ของบริษัทหลักทรัพย์อื่น เป็นหรือทำหน้าที่กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการหรือที่ปรึกษาของบริษัทหลักทรัพย์ได้ อัน
สอดคล้องกับการสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์มีการจัดโครงสร้างการดำเนินการในรูปกลุ่มธุรกิจ (financial conglomerate) ซึ่ง
ทำให้เกิดความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น และเป็นไปตามแนวโน้มการกำกับดูแลสถาบันการเงินแบบ
รวมกลุ่ม (consolidated supervision) ของธนาคารแห่งประเทศไทยอีกด้วย