การกระทำการหรืองดเว้นกระทำการในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 20, 2009 10:31 —ประกาศ ก.ล.ต.

ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

ที่ ทจ. 6/2552

เรื่อง การกระทำการหรืองดเว้นกระทำการ

ในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ

__________________

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16/6 มาตรา 247 และมาตรา 250/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 มาตรา 44 และมาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ทำหน้าที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ในประกาศนี้

(1) “กิจการ” หมายความว่า บริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

(2) “หลักทรัพย์แปลงสภาพ” หมายความว่า ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ หรือหุ้นกู้แปลงสภาพ

(3) “บริษัทย่อย” หมายความว่า

(ก) บริษัทที่กิจการถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น

(ข) บริษัทที่กิจการตาม (ก) ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น

(ค) บริษัทที่ถูกถือหุ้นต่อไปเป็นทอด ๆ โดยเริ่มจากการถือหุ้นของบริษัทตาม (ข) ในบริษัทที่ถูกถือหุ้น โดยการถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวในแต่ละทอดมีจำนวนเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทที่ถูกถือหุ้นนั้น

(ง) บริษัทที่กิจการหรือบริษัทตาม (ก) (ข) หรือ (ค) ถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทที่ถูกถือหุ้นนั้น

(จ) บริษัทที่กิจการหรือบริษัทตาม (ก) (ข) (ค) หรือ (ง) มีอำนาจควบคุมในเรื่องการกำหนดนโยบายทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์จากกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทนั้น

(4) “บริษัทร่วม” หมายความว่า

(ก) บริษัทที่กิจการหรือบริษัทย่อยถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละยี่สิบแต่ไม่เกินร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทที่ถูกถือหุ้นนั้น

(ข) บริษัทที่กิจการหรือบริษัทย่อยมีอำนาจในการมีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัท แต่ไม่ถึงระดับที่จะควบคุมนโยบายดังกล่าว และไม่ถือเป็นบริษัทย่อยหรือกิจการร่วมค้า

ข้อ 2 การกระทำของกิจการที่เข้าลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาตามข้อ 5 เข้าลักษณะเป็นการกระทำในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อ ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการ

(1) การส่งหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน หรือเพื่อขออนุมัติการออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ โดยมิได้เปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้ไว้อย่างชัดแจ้ง

(ก) รายละเอียดเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อเท่าที่กิจการทราบ

(ข) ผลกระทบของการเพิ่มทุนจดทะเบียนหรือการออกหลักทรัพย์แปลงสภาพต่อการทำคำเสนอซื้อและต่อผู้ถือหุ้นของกิจการจากการดำเนินการดังกล่าว

(2) การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินที่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของกิจการ ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาหรือเครื่องจักรหลักที่ใช้ในการผลิต ที่มีมูลค่าตั้งแต่ร้อยละสิบซึ่งคำนวณตามมูลค่าสูงสุดในแต่ละวิธีตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยหลักเกณฑ์ ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน

(3) การก่อหนี้หรือการเข้าทำ แก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิกสัญญาที่มีนัยสำคัญ โดยมิได้มีลักษณะเป็นการดำเนินการปกติในทางธุรกิจของกิจการ

(4) การซื้อหุ้นคืนของกิจการ (treasury stock) หรือการก่อให้หรือสนับสนุนให้บริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมซื้อหุ้นของกิจการ

(5) การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในลักษณะที่มิใช่การดำเนินการปกติของกิจการ

ข้อ 3 ในการนำเรื่องเข้าขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการตามมาตรา 250/1 ก่อนทำรายการตามข้อ 2(2) ให้กิจการจัดทำความเห็นในเรื่องดังต่อไปนี้อย่างชัดเจนในหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น

(1) ความสมเหตุสมผลและประโยชน์ของการทำรายการต่อกิจการ

(2) ความเป็นธรรมของราคาและเงื่อนไขของการทำรายการ

(3) ความเห็นว่าผู้ถือหุ้นควรลงมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการทำรายการพร้อมระบุเหตุผลประกอบ

(4) ความเห็นเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินทุนหมุนเวียนของกิจการในกรณีที่กิจการตกลงเข้าทำรายการ ในกรณีที่การทำรายการตามข้อ 2(2) มีมูลค่าตั้งแต่ร้อยละห้าสิบขึ้นไปซึ่งคำนวณตามมูลค่าสูงสุดในแต่ละวิธีตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน กิจการต้องจัดให้มีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำรายการดังกล่าวในเรื่องที่กำหนดตามวรรคหนึ่งแทนกิจการ

ข้อ 4 การกระทำของกิจการตามข้อ 2 หากเป็นการดำเนินการภายใต้ความยินยอมหรือการผ่อนผันดังต่อไปนี้ ไม่เป็นการกระทำในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อ

(1) ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ทำคำเสนอซื้อ ให้กระทำการเช่นนั้นได้

(2) ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงานในกรณีที่กิจการแสดงได้ว่ามีข้อจำกัดในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการ และการกระทำนั้นมิได้มีเจตนาเพื่อก่อให้เกิดผลกระทบต่อการทำคำเสนอซื้อ โดยต้องยื่นขอผ่อนผันต่อสำนักงานก่อนที่กิจการจะกระทำการดังกล่าว และในกรณีที่เห็นสมควร สำนักงานอาจเสนอให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการพิจารณาคำขอผ่อนผันดังกล่าวได้

ข้อ 5 ให้การกระทำของกิจการตามข้อ 2 ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่มีการประกาศต่อสาธารณชนว่าจะเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ หรือวันที่ยื่นประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ หรือวันที่เริ่มต้นทำคำเสนอซื้อแล้วแต่วันใดจะเกิดก่อน จนถึงวันที่ยื่นประกาศปฏิเสธการทำคำเสนอซื้อ หรือวันที่ส่งหนังสือแจ้งการยกเลิกคำเสนอซื้อพร้อมเหตุผลต่อสำนักงานและสำนักงานมิได้แจ้งทักท้วงการยกเลิกดังกล่าว หรือวันที่พ้นกำหนดระยะเวลารับซื้อตามคำเสนอซื้อ ตามที่กำหนดไว้ในประกาศที่ออกตามความในมาตรา 247 แล้วแต่กรณี เป็นการกระทำในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อ

ข้อ 6 ในกรณีที่กิจการกระทำการตามข้อ 2 โดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการ ผู้ทำคำเสนอซื้อจะใช้สิทธิยกเลิกคำเสนอซื้อหรือลดราคาเสนอซื้อได้ ต่อเมื่อผู้ทำคำเสนอซื้อได้ระบุเหตุดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนในคำเสนอซื้อและได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานแล้ว เมื่อเกิดเหตุที่ผู้ทำคำเสนอซื้อจะใช้สิทธิตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ทำคำเสนอซื้อแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นหนังสือให้สำนักงานทราบก่อนการใช้สิทธิ และหากสำนักงานมิได้ทักท้วงเป็นประการใดภายในสามวันทำการนับแต่วันที่สำนักงานได้รับแจ้ง ให้ถือว่าผู้ทำคำเสนอซื้อได้รับความเห็นชอบให้ใช้ สิทธิตามวรรคหนึ่งได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ทำคำเสนอซื้อ บุคคลที่กระทำการร่วมกันตามมาตรา 247 หรือบุคคลตามมาตรา 258 ของบุคคลเหล่านั้นได้ใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเห็นชอบด้วยกับการกระทำการตามข้อ 2 ผู้ทำคำเสนอซื้อจะใช้สิทธิตามวรรคหนึ่งมิได้

ข้อ 7 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

(นายวิจิตร สุพินิจ)

ประธานกรรมการ

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

หมายเหตุ : เหตุผลในการออกประกาศฉบับนี้ คือ เพื่อกำหนดลักษณะการกระทำของกิจการที่น่าจะมีผลกระทบต่อการทำคำเสนอซื้อ ซึ่งต้องได้รับ

อนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น การกระทำเช่นนั้นจึงจะมีผลผูกพันกิจการ และกำหนดให้ผู้ทำคำเสนอซื้ออาจยกเลิกคำเสนอซื้อได้เมื่อมีการ

กระทำของกิจการในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จึงจำเป็นต้องออกประกาศนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ