ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่ ทจ. 11/2552
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรายงานการเปิดเผยข้อมูล
เกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
___________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 มาตรา 44 และมาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ทำหน้าที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 17/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรายงานการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551
ข้อ 2 ในประกาศนี้ และแบบท้ายประกาศนี้
(1) เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นการเฉพาะในประกาศนี้ ให้นำบทนิยามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ มาใช้ในประกาศนี้และแบบตามประกาศนี้โดยอนุโลม
(ก) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการกำหนดบทนิยามในประกาศเกี่ยวกับการออกและเสนอขายตราสารหนี้ทุกประเภท ในส่วนที่เกี่ยวกับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ซึ่งมีหน้าที่ตามประกาศนี้เนื่องจากการออกและเสนอขายตราสารหนี้
(ข) ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการกำหนดบทนิยามในประกาศเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ ในส่วนที่เกี่ยวกับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ซึ่งมีหน้าที่ตามประกาศนี้เนื่องจากการออกและเสนอขายหลักทรัพย์อื่นนอกจาก (ก)
(2) “ผู้สอบบัญชี” หมายความว่า ผู้สอบบัญชีที่อยู่ในบัญชีที่สำนักงานให้ความเห็นชอบ
(3) “สถาบันการเงิน” หมายความว่า
(ก) ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
(ข) บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน หรือ
(ค) บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 3 ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหน้าที่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามที่กำหนดในข้อ 4 ข้อ 5 หรือข้อ 6 ต่อสำนักงานจำนวนสองฉบับ ตั้งแต่วันที่แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้ยื่นต่อสำนักงาน มีผลใช้บังคับแล้ว ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์สามารถเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่อยู่ภายใต้บังคับให้ต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน หากต่อมามีกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้ ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวมีหน้าที่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานตามที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่งต่อสำนักงานภายใต้หลักเกณฑ์ ดังนี้
(1) เมื่อมีผู้ถือหลักทรัพย์ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานเพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในภายหลัง ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหน้าที่เริ่มตั้งแต่วันที่แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนที่ผู้ถือหลักทรัพย์ได้ยื่นต่อสำนักงานนั้นมีผลใช้บังคับ
(2) เมื่อบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีการยกเลิกข้อจำกัดการโอนหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้ตามประกาศเกี่ยวกับการยกเลิกข้อจำกัดการโอนหุ้นกู้ ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหน้าที่เริ่มตั้งแต่วันที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้ยกเลิกข้อจำกัดการโอนหุ้นกู้นั้นตามที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน
ในกรณีที่บริษัทมหาชนจำกัดออกหลักทรัพย์แปลงสภาพโดยเสนอขายหลักทรัพย์ต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นเองตามสัดส่วนการถือหุ้น และจะมีการออกหุ้นหรือหุ้นกู้รองรับหลักทรัพย์แปลงสภาพดังกล่าวให้แก่ผู้ที่จะใช้สิทธิตามหลักทรัพย์แปลงสภาพนั้นซึ่งอาจมิใช่ผู้ถือหุ้นของบริษัท และบริษัทได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นดังกล่าวต่อสำนักงาน ให้บริษัทดังกล่าวมีหน้าที่ตามวรรคหนึ่งในฐานะที่เป็นบริษัทที่ออกหุ้นหรือหุ้นกู้ตามมาตรา 33 ด้วย
ข้อ 4 เว้นแต่ที่กำหนดในข้อ 5 ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย งบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่บริษัทมีหน้าที่จัดทำและส่งต่อสำนักงานให้เป็นไปตามรายการและระยะเวลา ดังต่อไปนี้
(1) งบการเงินรายไตรมาสที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว ให้ส่งต่อสำนักงานภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของแต่ละไตรมาส
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
(ก) บริษัทที่มิได้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทดังกล่าวมิได้ออกหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้หรือตั๋วเงิน
(ข) บริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีคำสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนของบริษัทดังกล่าวเป็นการชั่วคราวโดยขึ้นเครื่องหมาย SP (suspension)อันเนื่องมาจากบริษัทอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการและได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมาย ว่าด้วยล้มละลายแล้ว หรือบริษัทที่อยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ภายในกำหนด (Non-Performing Group หรือ NPG)ให้บริษัทตามวรรคสอง (ก) และ (ข) จัดทำรายงานทางการเงินสำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนแรกของปีบัญชี โดยรูปแบบและรายการที่แสดงให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีว่าด้วยงบการเงินระหว่างกาลที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี รวมทั้งจัดทำคำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน ซึ่งมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้ และให้ส่งต่อสำนักงานภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือนแรกของปีบัญชีนั้น
(ก) ความคืบหน้าของการฟื้นฟูกิจการ (ถ้ามี)
(ข) ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
(ค) คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานในลักษณะเช่นเดียวกับ (2) ของหัวข้อ 12 ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน ในส่วนที่ 1 บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ของแบบ 56-1 ท้ายประกาศนี้
(ง) รายการระหว่างกันกับบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง
(2) งบการเงินประจำงวดการบัญชีที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้ว ให้ส่งต่อสำนักงานภายในสามเดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี
(3) แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี ให้ส่งต่อสำนักงานภายในสามเดือนนับแต่ วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี โดยแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(ก) ในกรณีอื่น ๆ นอกจากที่ได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะ ให้ใช้แบบ 56-1 ท้ายประกาศนี้ซึ่งเป็นแบบทั่วไป
(ข) ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีการเสนอขายหุ้นกู้ที่ออกเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์หรือหุ้นกู้อนุพันธ์ในกรณีทั่วไปให้ใช้แบบ 56-4 ท้ายประกาศนี้
(ค) ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ให้ใช้แบบ 56-dw ท้ายประกาศนี้
ในกรณีที่บริษัทมีการออกหลักทรัพย์หลายประเภท และต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีตามวรรคหนึ่งหลายแบบ บริษัทอาจผนวกรายการในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีซึ่งเป็นรายการที่ไม่ซ้ำกันรวมไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีแบบใดแบบหนึ่งก็ได้ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีซึ่งเป็นแบบ 56-1 ให้ใช้แบบ 56-1 เป็นแบบหลักเพื่อการผนวกรายการดังกล่าว ทั้งนี้ ให้แจ้งการผนวกรายการดังกล่าวให้สำนักงานทราบในเวลาที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีด้วย
(4) รายงานประจำปีและหนังสือนัดประชุมสามัญประจำปี ให้ส่งสำเนาต่อสำนักงานภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลบัญชี ทั้งนี้ รายงานประจำปีต้องมีข้อมูลอย่างน้อยตามแบบ 56-2 ท้ายประกาศนี้ หรือใช้แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) พร้อมแนบงบการเงินประจำงวดการบัญชีนั้น ทั้งนี้ บริษัทที่ออกหลักทรัพย์อาจจัดทำรายงานประจำปีในรูปแผ่นบันทึกข้อมูลก็ได้ แต่แผ่นบันทึกข้อมูลดังกล่าว ต้องมีข้อมูลถูกต้องตรงกันและนำเสนอข้อมูลในรูปแบบเดียวกันกับที่กำหนดไว้สำหรับรายงานประจำปีที่จัดทำในรูปเอกสารสิ่งพิมพ์
ความในวรรคหนึ่งของ (4) ให้ใช้บังคับเมื่อบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเสนอขายหุ้นโดยตรง หรือเสนอขายหุ้นเนื่องจากมีการใช้สิทธิตามหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือใบแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ และเป็นบริษัทที่มิได้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
การจัดทำและส่งงบการเงินของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ต่อสำนักงานตามวรรคหนึ่ง ให้เริ่มตั้งแต่งบการเงินรายไตรมาสหรืองบการเงินประจำงวดการบัญชีที่ถัดจากงบการเงินที่ปรากฏในแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนที่มีผลใช้บังคับแล้ว
เมื่อบริษัทที่ออกหลักทรัพย์บริษัทใดได้จัดทำและส่งงบการเงินประจำงวดการบัญชีสำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนหรือหนึ่งปีตามวรรคหนึ่ง (2) ต่อสำนักงาน ให้ถือว่าบริษัทนั้นได้จัดทำและส่งงบการเงินสำหรับไตรมาสที่สองหรือไตรมาสที่สี่ตามวรรคหนึ่ง (1) ต่อสำนักงานแล้ว แต่ทั้งนี้ ถ้าบริษัทส่งงบการเงินประจำงวดการบัญชีสำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนหรือหนึ่งปีเมื่อพ้นหกสิบวันนับแต่วันสิ้นสุดงวดการบัญชี ให้ถือว่าบริษัทส่งงบการเงินสำหรับไตรมาสที่สองหรือไตรมาสที่สี่ล่าช้านับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ครบหกสิบวันดังกล่าว
ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศหรือตลาดอื่นใดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการในต่างประเทศ และมีหน้าที่ตามกฎหมายของประเทศนั้น ในการจัดทำและส่งรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท ต่อตลาดหลักทรัพย์หรือหน่วยงานทางการในต่างประเทศดังกล่าว รายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่ส่งต่อสำนักงานตามวรรคหนึ่ง (3) และ (4) ต้องมีรายละเอียดของข้อมูลไม่น้อยกว่ารายงานทำนองเดียวกันที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้จัดทำและเปิดเผยในต่างประเทศ
ในการจัดส่งงบการเงินตามวรรคหนึ่ง (1) และ (2) ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ส่งเอกสารดังต่อไปนี้ต่อสำนักงานพร้อมกับงบการเงินดังกล่าวด้วย
(1) หนังสือรับรองงบการเงินตามแบบ 56-3 ท้ายประกาศนี้
(2) บทสรุปประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชี
ข้อ 5 ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่มีลักษณะครบถ้วนดังต่อไปนี้ ส่งสำเนางบการเงินต่อสำนักงาน ภายในระยะเวลาเดียวกับที่จัดส่งให้กับหน่วยงานทางการซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลการประกอบธุรกิจโดยตรง หรือกระทรวงพาณิชย์ แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน
(1) จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
(2) มิได้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(3) เสนอขายหุ้นกู้หรือตั๋วเงินต่อผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีการจดข้อจำกัดการโอนหรือเงื่อนไขการโอนหุ้นกู้หรือตั๋วเงินนั้นให้จำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ลงทุนดังกล่าว และ
(4) ไม่มีการเสนอขายหลักทรัพย์ในลักษณะอื่นใด
ให้บริษัทตามวรรคหนึ่งที่ออกหุ้นกู้ตามโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี โดยใช้แบบ 56-4 ท้ายประกาศนี้ต่อสำนักงาน ภายในสามเดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี
ข้อ 6 ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
(1) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหน้าที่ตามประกาศนี้เนื่องจากการเสนอขายหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้
(ก) หุ้นกู้ที่ได้รับอนุญาตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการเสนอขายหุ้นกู้ต่างประเทศต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย
(ข) หุ้นกู้ที่ได้รับอนุญาตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการเสนอขายพันธบัตรต่างประเทศหรือหุ้นกู้ต่างประเทศในประเทศไทย
(ค) ตราสารหนี้ที่ได้รับอนุญาตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายตราสารหนี้ที่ออกใหม่
(ง) ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่ได้รับอนุญาตตามประกาศเกี่ยวกับการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่ออกใหม่
(จ) หุ้นกู้อนุพันธ์ที่ได้รับอนุญาตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ที่ออกใหม่
(2) ให้บริษัทส่งเอกสารดังต่อไปนี้ ตามระยะเวลาที่กำหนดใน (3) โดยจะจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่ขายหลักทรัพย์ตาม (1)(ข) ที่เป็นกรณีทั่วไป บริษัทต้องมีคำแปลภาษาไทยที่มีการรับรองความถูกต้องของคำแปลไว้ด้วย
(ก) งบการเงินรายไตรมาสที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว (ถ้ามี)
(ข) งบการเงินประจำงวดการบัญชีที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้ว
(ค) แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี
บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตาม (1)(ก) หรือ (ข) ซึ่งไม่มีหน้าที่จัดทำและส่งงบการเงินรายไตรมาสหรืองบการเงินประจำงวดหกเดือนต่อตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศหรือหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ บริษัทไม่จำต้องส่งงบการเงินดังกล่าวต่อสำนักงาน
(3) ให้บริษัทส่งเอกสารตาม (2) ต่อสำนักงาน ภายในระยะเวลาต่อไปนี้
(ก) ภายในระยะเวลาเดียวกับที่บริษัทมีหน้าที่ต้องจัดส่งข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศที่บริษัทมีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน หรือหน่วยงานทางการในต่างประเทศที่บริษัทมีหน้าที่ส่งเอกสารดังกล่าว แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันสิ้นสุดปีงบประมาณหรือวันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท
(ข) ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันสิ้นสุดปีงบประมาณหรือวันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท ในกรณีที่บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องจัดส่งข้อมูลตาม (ก)
ให้สาขาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์เป็นสาขาเต็มรูปแบบในประเทศไทย ที่เสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีการจดข้อจำกัดการโอนหรือเงื่อนไขการโอนหุ้นกู้นั้นให้จำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ลงทุนดังกล่าว ส่งสำเนางบการเงินต่อสำนักงาน ภายในระยะเวลาเดียวกับการส่งเอกสารตามวรรคหนึ่ง (3) โดยอาจจัดทำเป็นภาษาอังกฤษก็ได้
ข้อ 7 วิธีการจัดทำงบการเงินรายไตรมาสและงบการเงินประจำงวดการบัญชีตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) สำหรับกรณีบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ให้เป็นดังนี้
(1) งบการเงินรายไตรมาส
(ก) รายการที่แสดงในงบการเงินรายไตรมาส ต้องมีรายการครบถ้วนในลักษณะเดียวกับงบการเงินประจำงวดการบัญชี
(ข) ข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินรายไตรมาส ให้เปิดเผยเฉพาะรายละเอียดดังต่อไปนี้ (ถ้ามี)
1. การลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทร่วม และบริษัทอื่น
2. รายการบัญชีของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทย่อย กับบริษัทใหญ่ บริษัทร่วม กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าว
3. เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน
4. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
(ค) ข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีในรายงานการสอบทานงบการเงินรายไตรมาสต้องไม่มีลักษณะที่แสดงให้เห็นว่า ผู้สอบบัญชีไม่อาจสอบทานงบการเงินดังกล่าวได้ตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่กำหนดโดยสภาวิชาชีพบัญชี อันเนื่องมาจากบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ไม่ให้ความร่วมมือ
(2) งบการเงินประจำงวดการบัญชี ต้องมีรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีที่ไม่มีความหมายในลักษณะไม่แสดงความเห็นต่อการ จัดทำงบการเงินของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือที่ไม่แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขในรายการบัญชีที่เป็นสาระสำคัญ อันเนื่องมาจากผู้สอบบัญชีถูกจำกัด ขอบเขตการสอบบัญชี เว้นแต่การถูกจำกัดขอบเขตการสอบบัญชีดังกล่าวมิได้เกิดจากการกระทำหรือไม่กระทำของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
(3) ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีบริษัทย่อย ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์จัดทำงบการเงินรวมเป็นการเพิ่มเติม และหากบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวไม่ได้นำบริษัทย่อยใดมารวมในงบการเงินรวม ให้แจ้งเหตุผลถึงการไม่นำมารวม และเปิดเผยผลกระทบและงบการเงินของบริษัทย่อยดังกล่าวในหมายเหตุประกอบงบการเงินหรืองบการเงินรวม แล้วแต่กรณี
(4) การจัดทำและเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินต้องเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่ใช้บังคับกับบริษัทมหาชนจำกัด ทั้งนี้ ในกรณีที่การจัดทำหรือการเปิดเผยข้อมูลในเรื่องใดไม่มีมาตรฐานการบัญชีไทยครอบคลุมถึง ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ระบุรายการนโยบายบัญชีที่ใช้ปฏิบัติสำหรับการบันทึกบัญชีรายการนั้น และคำอธิบายว่านโยบายการบัญชีดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีใด
ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศหรือตลาดอื่นใดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการในต่างประเทศ และมีหน้าที่ตามกฎหมายของประเทศนั้นในการจัดทำและส่งงบการเงินของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์หรือหน่วยงานทางการในต่างประเทศดังกล่าว ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ปฏิบัติดังต่อไปนี้ด้วย
(ก) กรณีที่การจัดทำหรือการเปิดเผยข้อมูลในเรื่องใดไม่มีมาตรฐานการบัญชีไทยครอบคลุมถึง และมาตรฐานการบัญชีที่ถือปฏิบัติในต่างประเทศนั้นเป็น International Financial Reporting Standards (IFRS) หรือ Financial Accounting Standards (FAS) หรือ United States Generally Accepted Accounting Principle (US GAAP) ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์จัดทำและเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินในรายการที่ไม่มีมาตรฐานการบัญชีไทยครอบคลุมถึงตามมาตรฐานการบัญชีที่ถือปฏิบัติในต่างประเทศดังกล่าว
(ข) กรณีอื่นนอกจาก (ก) และบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้จัดทำงบการเงินอีกฉบับหนึ่งนอกเหนือจากงบการเงินฉบับที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์จัดทำและส่งต่อสำนักงาน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่ถือปฏิบัติในต่างประเทศนั้น ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์จัดส่งงบการเงินฉบับที่เปิดเผยในต่างประเทศนั้นต่อสำนักงานด้วย ทั้งนี้ ในหนังสือนำส่งงบการเงินฉบับที่เปิดเผยในต่างประเทศต่อสำนักงาน ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ระบุมาตรฐานการบัญชีที่ใช้สำหรับการจัดทำและเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินในรายการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีไทย หรือรายการที่ไม่มีมาตรฐานการบัญชีไทยครอบคลุมถึงไว้ด้วย
(5) กรณีบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีผลรวมของรายการซื้อและรายการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน เกินสองเท่าของยอดคงค้างของเงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน และเกินร้อยละห้าของสินทรัพย์รวม ณ วันสิ้นงวด ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าว เปิดเผยยอดรวมรายการซื้อและรายการขายหลักทรัพย์จดทะเบียนที่เกิดขึ้นระหว่างงวด ในหมายเหตุประกอบงบการเงินรายไตรมาสและประจำงวดการบัญชี
เพื่อประโยชน์ตามวรรคหนึ่ง
“หลักทรัพย์จดทะเบียน” หมายความว่า หุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หุ้นกู้อนุพันธ์ ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง ใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ กลุ่มหลักทรัพย์ หรือดัชนีกลุ่มหลักทรัพย์ดังกล่าว ทั้งนี้ เฉพาะหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีการซื้อขายในตลาดในประเทศหรือต่างประเทศซึ่งมีรายการซื้อขายที่มีลักษณะเหมือนกัน มีผู้เต็มใจซื้อและขายตลอดเวลาทำการ และมีการเปิดเผยราคาต่อสาธารณชน
“เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน” หมายความว่า เงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้า หรือหลักทรัพย์เผื่อขายที่มีเจตนาถือไว้ไม่เกินหนึ่งปี ทั้งนี้ ไม่รวมถึงเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า
“หลักทรัพย์เพื่อค้า” หมายความว่า หลักทรัพย์เพื่อค้าตามมาตรฐานการบัญชีว่าด้วยเงินลงทุนในตราสารการเงิน
“หลักทรัพย์เผื่อขาย” หมายความว่า หลักทรัพย์เผื่อขายตามมาตรฐานการบัญชีว่าด้วยเงินลงทุนในตราสารการเงิน
ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัย หรือบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต หรือบริษัทประกันวินาศภัยดังกล่าว เป็นบริษัทย่อย ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตาม (5) นี้ สำหรับงบการเงินที่ต้องส่งต่อสำนักงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป
(6) ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นสถาบันการเงิน ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวเปิดเผยรายละเอียดสินทรัพย์ของบริษัทที่เข้าเกณฑ์การจัดชั้นสินทรัพย์แต่ละชั้นไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วย ทั้งนี้ ให้ใช้เกณฑ์การจัดชั้นสินทรัพย์ที่กำหนดโดยหน่วยงานที่กำกับและควบคุมการประกอบธุรกิจของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้น
(7) ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดให้มีการหมุนเวียนผู้สอบบัญชี หากผู้สอบบัญชีรายเดิมปฏิบัติหน้าที่สอบทานหรือตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทมาแล้วห้ารอบปีบัญชีติดต่อกัน เว้นแต่บริษัทจดทะเบียนที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชี
การหมุนเวียนผู้สอบบัญชีตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(ก) บริษัทสามารถแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรายใหม่ที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีเดียวกับผู้สอบบัญชีรายเดิมก็ได้
(ข) บริษัทจะแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรายที่พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากการหมุนเวียนผู้สอบบัญชีเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทได้เมื่อพ้นระยะเวลาอย่างน้อยสองรอบปีบัญชี นับแต่วันที่ผู้สอบบัญชีรายดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในสองรอบปีบัญชีนับแต่ปีบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2549 หากบริษัทจดทะเบียนมีเหตุจำเป็นและสมควรทำให้ไม่สามารถจัดให้มีการหมุนเวียนผู้สอบบัญชีตามวรรคหนึ่งได้ ให้บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวยื่นขอผ่อนผันตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่สำนักงานประกาศกำหนด ในกรณีที่รายได้หรือกำไรสุทธิตามงบการเงินล่าสุดของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง มีความแตกต่างจากงบการเงินในงวดเดียวกันของปีก่อนเกินกว่าร้อยละยี่สิบ ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์จัดทำคำอธิบายสาเหตุของความแตกต่างดังกล่าว และส่งต่อสำนักงานพร้อมกับงบการเงินตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณีสำหรับกรณีบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่ตามประกาศนี้เนื่องจากการเสนอขายหลักทรัพย์ตามข้อ 6(1) วิธีการจัดทำและเปิดเผยข้อมูล ในงบการเงินรายไตรมาสและงบการเงินประจำงวดการบัญชีตามข้อ 6(2)(ก) และ (ข) ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี หรือ International Financial Reporting Standards (IFRS) หรือ Financial Accounting Standards (FAS) หรือ United States Generally Accepted Accounting Principle (US GAAP) หรือมาตรฐานการบัญชีอื่นที่สำนักงานยอมรับ
ข้อ 8 นอกจากการส่งข้อมูลในรูปเอกสารสิ่งพิมพ์แล้ว ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามรายการในข้อ 4 วรรคหนึ่ง(1) (2) และ (3) ข้อ 5 หรือข้อ 6(2)(ก) (ข) และ (ค) แล้วแต่กรณี ต่อสำนักงานในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) กรณีบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทจดทะเบียนให้ส่งข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบการรับส่งข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด
(2) กรณีบริษัทอื่นนอกจาก (1) ให้ส่งข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบการรับส่งข้อมูล ตามแนวทางที่สำนักงานกำหนด
งบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ส่งต่อสำนักงาน ทั้งในรูปเอกสารสิ่งพิมพ์และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีข้อความถูกต้องตรงกัน และต้องไม่มีการแสดงข้อความอันเป็นเท็จในสาระสำคัญ หรือปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญที่ควรบอกให้แจ้ง
ข้อ 9 ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์สิ้นสุดหน้าที่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทต่อสำนักงานตามประกาศนี้ เมื่อเกิดกรณีดังต่อไปนี้
(1) มีการชำระบัญชีเพื่อเลิกกิจการของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
(2) บริษัทไม่สามารถขายหลักทรัพย์ได้ภายในระยะเวลาที่สำนักงานอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่
(3) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้ชำระหนี้ตามหลักทรัพย์จนครบถ้วนแล้ว เว้นแต่กรณีที่เป็นหลักทรัพย์แปลงสภาพ
(4) เมื่อครบอายุใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือหุ้นกู้อนุพันธ์ หรือเมื่อครบอายุหลักทรัพย์แปลงสภาพอื่นและปรากฏว่าไม่มีผู้ใช้สิทธิตามหลักทรัพย์แปลงสภาพอื่นดังกล่าว
(5) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้ดำเนินการเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยความสมัครใจ และบริษัทได้จัดให้มีการเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั้งหมดแล้วตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน และภายหลังการเสนอซื้อ มีผู้ถือหุ้นรายอื่นซึ่งมิใช่ผู้ทำคำเสนอซื้อ บุคคลที่กระทำร่วมกับผู้ทำคำเสนอซื้อ (acting in concert) และรวมกับบุคคลตามมาตรา 258 ของบุคคลดังกล่าว ถือหุ้นรวมกันไม่เกินร้อยละห้าของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท
(6) ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้ดำเนินการเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยความสมัครใจ และบริษัทได้จัดให้มีการเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั้งหมดแล้วตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน แต่ภายหลังการเสนอซื้อ มีผู้ถือหุ้นรายอื่นซึ่งมิใช่ผู้ทำคำเสนอซื้อ บุคคลที่กระทำร่วมกับผู้ทำคำเสนอซื้อ (acting in concert) และรวมกับบุคคลตามมาตรา 258 ของบุคคลดังกล่าว ถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละห้าของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงของบริษัท หากบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ถือหุ้นทุกรายว่าไม่ประสงค์จะได้รับข้อมูลตามประกาศนี้
(7) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีจำนวนผู้ถือหลักทรัพย์ทุกประเภทรวมกันไม่เกินหนึ่งร้อยราย และบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้นมิได้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือมิได้มีหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวต้องมิได้มีหน้าที่ในการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงานตามประกาศนี้อันเนื่องมาจากการออกหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้หรือตั๋วเงิน เว้นแต่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ถือหุ้นกู้หรือตั๋วเงินทุกรายว่าไม่ประสงค์จะได้รับข้อมูลตามประกาศนี้
(8) ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีจำนวนผู้ถือหลักทรัพย์ทุกประเภทรวมกันเกินกว่าหนึ่งร้อยราย และบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้นมิได้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือมิได้มีหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ หากบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ถือหลักทรัพย์ทุกรายว่าไม่ประสงค์จะได้รับข้อมูลตามประกาศนี้
(9) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้นมิได้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือมิได้มีหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์
(10) บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นสถาบันการเงินที่ถูกระงับการดำเนินกิจการตามคำสั่งของเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้นมิได้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือมิได้มีหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์
(11) บริษัทต่างประเทศที่ออกหลักทรัพย์ให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทต่างประเทศ บริษัทร่วม บริษัทย่อย หรือสาขาของบริษัทดังกล่าว ในประเทศไทย ก่อนวันที่ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 31/2551 เรื่อง การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกโดยบริษัทต่างประเทศให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทต่างประเทศหรือบริษัทในเครือ ในประเทศไทย ลงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 มีผลใช้บังคับการสิ้นสุดหน้าที่การจัดทำและส่งงบการเงินเมื่อเกิดกรณีตามวรรคหนึ่ง (2) (3) (4) (5) หรือ (6) หรือการสิ้นสุดหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง (11) ไม่รวมถึงกรณีบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหน้าที่ต้องจัดทำและส่งงบการเงินและรายงานตามประกาศนี้เนื่องจากบริษัทได้ออกหลักทรัพย์อื่นด้วย
ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์แจ้งเหตุที่ทำให้หน้าที่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์สิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง (1) ถึง (10) ต่อสำนักงานก่อนถึงกำหนดเวลาส่งงบการเงินและรายงานดังกล่าว
ข้อ 10 ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์แสดงให้สำนักงานเห็นได้ว่าบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีเหตุอันควรที่จะไม่แสดงรายละเอียดของข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในแบบ 56-1 หรือแบบ 56-dw แล้วแต่กรณี ซึ่งเป็นรายการอย่างเดียวกับข้อมูลที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนดตามมาตรา 69(11) มาตรา 70(9) และมาตรา 71(5) หากรายละเอียดของข้อมูลนั้นไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ให้สำนักงานผ่อนผันให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ไม่ต้องแสดงรายละเอียดของข้อมูลดังกล่าวในแบบ 56-1 หรือแบบ 56-dw ได้ แล้วแต่กรณี
ในกรณีที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์แสดงให้สำนักงานเห็นได้ว่า บริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีเหตุอันควรที่จะไม่แสดงรายละเอียดของข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในแบบ 56-2 หากรายละเอียดข้อมูลนั้นไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ให้สำนักงานมีอำนาจผ่อนผันให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ไม่ต้องแสดงรายละเอียดของข้อมูลดังกล่าวในแบบ 56-2 ได้
ข้อ 11 ในกรณีมีเหตุจำเป็นและสมควรทำให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ไม่สามารถส่งงบการเงินหรือรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานต่อสำนักงานภายในระยะเวลาที่กำหนดตามประกาศนี้ บริษัทที่ออกหลักทรัพย์อาจมีหนังสือขอผ่อนผันการส่งงบการเงินหรือรายงานดังกล่าวต่อสำนักงานก่อนวันครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ 4 ข้อ 5 หรือข้อ 6 พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลในการขอผ่อนผันและแจ้งกำหนดระยะเวลาที่จะจัดส่งงบการเงินหรือรายงานนั้น
ในกรณีที่สำนักงานไม่ผ่อนผันให้ตามที่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ร้องขอตามวรรคหนึ่ง บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ต้องรับผิดเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 56 นับตั้งแต่วันครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ 4 ข้อ 5 หรือข้อ 6 แล้วแต่กรณี
ข้อ 12 ให้บริษัทที่ออกหุ้นกู้หรือตั๋วเงินที่มีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 40/2540 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรายงานการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 และประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรายงานการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหุ้นกู้ ลงวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวต่อไป เว้นแต่ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้แบบ ให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ดังกล่าวใช้แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีท้ายประกาศนี้
ให้การจัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่เป็นสาขาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์เป็นสาขาเต็มรูปแบบในประเทศไทยซึ่งมีการเสนอขายหุ้นกู้หรือตั๋วเงิน และมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 40/2540 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรายงานการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 อาจจัดทำเป็นภาษาอังกฤษก็ได้
ข้อ 13 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามมาตรา 56 ที่มีหน้าที่จัดส่งต่อสำนักงานตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2552
(นายวิจิตร สุพินิจ)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ โดยได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์บางประการให้กับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่ม Non-Performing
Group บริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งเสนอขายหุ้นกู้หรือตั๋วเงินต่อผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่โดยบริษัทดังกล่าวมิได้มี
หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและไม่มีการเสนอขายหลักทรัพย์ในลักษณะอื่น รวมทั้งบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ซึ่งเป็น
บริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ และเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเงินลงทุนในหลักทรัพย์ให้มีความชัดเจน
ขึ้น โดยผ่อนคลายหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวโดยยกเว้นให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตามประเภทที่กำหนดในประกาศนี้ ซึ่งมีการลงทุนใน
หลักทรัพย์เป็นปกติ ไม่จำต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเงินลงทุนในหลักทรัพย์อีก เนื่องจากผู้ลงทุนสามารถคาดหมายเกี่ยวกับการลงทุน
ในหลักทรัพย์ และความเสี่ยงในการลงทุนเช่นนั้นของกิจการดังกล่าวได้ นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงข้อมูลที่ต้องเปิดเผย โดยปรับลด
รายการที่ไม่จำเป็นและเป็นข้อมูลสำคัญของกิจการซึ่งมีผลต่อการแข่งขันทางธุรกิจ อีกทั้งปรับปรุงวิธีการลงลายมือชื่อในการรับรองความ
ถูกต้องของข้อมูลด้วย จึงจำเป็นต้องออกประกาศนี้