ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กจ. 6/2552
เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการขออนุญาตเสนอขาย
หลักทรัพย์ที่ออกใหม่ และการขออนุมัติโครงการ
แปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์
(ฉบับที่ 2)
__________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 5(5) แห่งพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 มาตรา 44 และมาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 19/2551 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ และการขออนุมัติโครงการแปลงสินทรัพย์เป็น หลักทรัพย์ ลงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 4 คำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ประเภทหุ้นกู้หรือตั๋วเงิน คำขอละ 30,000 บาท เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) คำขออนุญาตสำหรับหุ้นกู้ที่ออกใหม่ตามข้อ 5(1) (2) และ (3)
(2) คำขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ตามโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ไม่คิดค่าธรรมเนียมคำขอดังกล่าว แต่ให้ชำระค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามข้อ 6
ข้อ 5 คำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ประเภทหุ้นกู้หรือใบแสดงสิทธิดังต่อไปนี้ คำขอละ 10,000 บาท
(1) หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยโดยนำไปเสนอขายในต่างประเทศ
(2) หุ้นกู้อนุพันธ์ที่ออกใหม่ซึ่งเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือผู้ลงทุนรายใหญ่
(3) หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทต่างประเทศและเสนอขายต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย
(4) ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทยโดยอ้างอิงกับหุ้นกู้หรือพันธบัตร
ข้อ 6 คำขอเกี่ยวกับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ คำขอละ 30,000 บาท”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2552
(นายวิจิตร สุพินิจ)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เป็นการเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีอัตราที่ลดลงซึ่งสอดคล้องกับการพิจารณาคำขอ
อนุญาตที่พิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ผ่อนคลายขึ้นสำหรับการขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ประเภทดังกล่าว อีกทั้งปรับปรุงการเก็บ
ค่าธรรมเนียมคำขอเกี่ยวกับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ให้สอดคล้องกับประกาศการขออนุญาตและการอนุญาตให้ออกหุ้นกู้ตาม
โครงการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออกประกาศนี้