6 สิงหาคม 2552
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์ทุกบริษัท
บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการ
กองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลทุกบริษัท
บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท
บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทการเป็น
ผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท
นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ที่ กลต.น./ธ.(ว) 23/2552 เรื่อง มาตรการดำเนินการบันทึกคะแนนความผิด (point system)
ด้วยผู้บริหาร ของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (“บริษัท”) เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์หรือธุรกิจจัดการลงทุนมีระบบงานและระบบการกำกับดูแลการปฏิบัติงานที่ดี รวมถึงทำให้เกิดวัฒนธรรมของการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายในองค์กร (compliance culture) นอกจากนี้ Fund Manager ก็เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุนเพื่อผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งการมีผู้บริหารและ Fund Manager ที่มีคุณภาพ มีการคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุน (fiduciary duty) จะก่อให้เกิดความไว้วางใจแก่ผู้ลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน”) จึงเห็นว่า มาตรการหนึ่งที่จะเสริมสร้างให้ผู้บริหารและ Fund Manager ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว คือ การกำหนดให้บุคคลดังกล่าวมีความรับผิดชอบส่วนตัว (personal accountability) ในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
เพื่อให้สำนักงานมีเครื่องมือในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้บริหารของบริษัท และ Fund Manager ให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น สำนักงานจึงนำระบบบันทึกคะแนนความผิด (point system) มาใช้ตามนัยข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 ของประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ/น/ข. 3/2548 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ ลงวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548 และข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 ของประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ/น/ข. 35/2548 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ลงวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2548 โดยระบบดังกล่าวจะคำนึงถึงระดับความร้ายแรงและความถี่ของพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือจรรยาบรรณหรือมาตรฐานในการประกอบธุรกิจ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ขอบเขตการบังคับใช้
1.1 กรณีผู้บริหาร
กรณีผู้บริหารของบริษัทได้กระทำผิด หรือมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอันเป็นลักษณะต้องห้าม หรือกรณีที่บริษัทมีการกระทำผิดและสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้บริหารสั่งการหรือไม่สั่งการ กระทำการหรืองดเว้นกระทำการ หรือละเลยการทำหน้าที่ตามสมควรในการตรวจสอบดูแลมิให้บริษัทปฏิบัติฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อฐานะการเงิน การดำเนินธุรกิจ หรือต่อลูกค้า หรือมีการปฏิบัติในลักษณะอื่นใดอันเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
1.2 กรณี Fund Manager
กรณี Fund Manager กระทำผิด หรือกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนมีการกระทำผิดและสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่ Fund Manager จัดการลงทุนโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือขาดความระมัดระวังหรือมีพฤติกรรมจงใจโดยไม่ได้ใช้ความสามารถเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างเต็มที่ ไม่คำนึงถึงและรักษาผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และไม่ตั้งอยู่บนหลักแห่งความซื่อสัตย์สุจริตและความรอบคอบระมัดระวัง
2. ระดับคะแนนความผิดและการดำเนินการ
การพิจารณาระดับคะแนนความผิดจะพิจารณาจากการปฏิบัติงาน ผลกระทบ และนัยสำคัญของเรื่อง โดยจะนำปัจจัยในข้อ 3 มาเป็นปัจจัยในการกำหนดคะแนน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ระดับความผิด (พิจารณาจากการปฏิบัติงาน ผลกระทบ และนัยสำคัญของเรื่อง) คะแนนที่ได้ในแต่ละครั้ง - ผลกระทบเล็กน้อย หรือไม่ใช้ความระมัดระวังเท่าที่ควร 1 หรือ 2 - ผลกระทบปานกลาง หรือไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ 3 หรือ 4
- ผลกระทบมาก หรือจงใจกระทำผิด หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น
ในลักษณะเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีการปฏิบัติในลักษณะส่อไปในทางไม่สุจริต มากกว่า 4
เมื่อผู้กระทำผิดถูกลงโทษ สำนักงานจะบันทึกประวัติการถูกลงโทษเป็นคะแนนตามระดับโทษที่ได้รับ หากผู้กระทำผิดมีการกระทำผิดขึ้นอีก สำนักงานจะนำคะแนนที่บันทึกไว้จากประวัติการถูกลงโทษมาใช้เป็นปัจจัยในการเพิ่มระดับโทษทางปกครองที่จะลงสำหรับการกระทำผิดครั้งใหม่ โดยในแต่ละระดับคะแนนมีบทลงโทษดังนี้
คะแนน บทลงโทษ การดำเนินการ 1-2 คะแนน ภาคทัณฑ์โดย - มีหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์ ไม่เปิดเผย - มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการ) หรือ
มีหนังสือถึงผู้จัดการ (กรณี Fund Manager หรือผู้บริหารอื่น)
เพื่อแจ้งการดำเนินการ
- แจ้งสมาคมบริษัทจัดการลงทุน/สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ถึง
พฤติกรรมความผิดโดยไม่เปิดเผยชื่อผู้กระทำผิดและบริษัทที่สังกัด
3-4 คะแนน ตำหนิโดยเปิดเผย - มีหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์ ต่อสาธารณชน - มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการ) หรือ 5-6 คะแนน พัก มีหนังสือถึงผู้จัดการ (กรณี Fund Manager หรือผู้บริหารอื่น)
เพื่อแจ้งการดำเนินการ
7 คะแนน เพิกถอน - เปิดเผยต่อสาธารณชน (เปิดเผยชื่อผู้กระทำผิดและบริษัทที่สังกัด)
2.1 ในการบันทึกคะแนนความผิดจะบันทึกเป็นคะแนนของแต่ละบุคคลโดยไม่พิจารณาเรื่องการสังกัดบริษัทใด ๆ และในกรณีที่บุคคลใดมีสถานะเป็นทั้งผู้บริหาร และ Fund Manager จะนับรวมคะแนนความผิดของทั้ง 2 สถานะเข้าด้วยกัน
2.2 บริษัทที่จะรับผู้บริหารหรือ Fund Manager เข้าปฏิบัติงานสามารถสอบถามคะแนนความผิดจากสำนักงานได้โดยการแสดงหนังสือยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลจากผู้บริหารหรือ Fund Manager ดังกล่าวต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ในการเปิดเผยสำนักงานจะให้ข้อมูลคะแนนความผิดในช่วง 3 ปีย้อนหลัง
2.3 การล้างคะแนน จะล้างเมื่อผู้กระทำผิดได้รับโทษเพิกถอนหรือเมื่อครบระยะเวลา 3 ปี โดยจะล้างทิ้งเฉพาะคะแนนที่ครบกำหนด
3. ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาระดับความผิด
ในการพิจารณาระดับความผิดตามข้อ 2 สำนักงานจะคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
3.1 การปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหาร และ Fund Manager
- พิจารณาจากระดับของการขาดความระมัดระวัง หรือไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือละเลยการทำหน้าที่ตามสมควร
- พิจารณาจากการมีพฤติกรรมจงใจโดยรู้ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือมีการวางแผนหรือเตรียมการ หรือมีพฤติกรรมซับซ้อน หรือร่วมกับบริษัทในการกระทำผิด หรือช่วยเหลือ สนับสนุนหรือยอมเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือจงใจกระทำผิด หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่นในลักษณะเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีการปฏิบัติในลักษณะส่อไปในทางไม่สุจริต
3.2 นัยสำคัญของเรื่องและผลกระทบ
- นัยสำคัญของเรื่อง : จะพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
1) เรื่องที่มีนัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อฐานะการเงิน หรือการดำเนินธุรกิจ หรือต่อลูกค้า หรือการตัดสินใจของผู้ลงทุน เช่น การปิดบังข้อมูลหรือเปิดเผยข้อมูลเท็จหรือมีการกระทำใด ๆ ให้ลูกค้าสำคัญผิดเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนหรือผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้รับจากการลงทุน เป็นต้น
2) ความถี่และระยะเวลาของการกระทำความผิด เช่น มีการกระทำความผิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ หรือมีระยะเวลากระทำผิดต่อเนื่อง เป็นต้น
- ผลกระทบ : จะพิจารณาจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบ จำนวนเงินหรือขนาดความเสียหาย ผลประโยชน์ที่บริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับ โดยแบ่งผลกระทบเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1) ผลกระทบเล็กน้อย เมื่อปรากฏว่าเป็นการผิดระเบียบปฏิบัติหรือข้อกำหนดต่าง ๆ ที่กำหนดในประกาศ หรือเป็นเรื่องการดำเนินงานทั่วไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ลูกค้า หรือนักลงทุน เพียงเล็กน้อย
2) ผลกระทบปานกลาง เมื่อปรากฏว่าอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และลูกค้าหรือนักลงทุน
3) ผลกระทบมาก เมื่อปรากฏว่าอาจกระทบฐานะความมั่นคงของบริษัทและหรือระบบการเงินโดยรวม
ทั้งนี้ สำนักงานอาจนำพฤติกรรมภายหลังการกระทำผิด เช่น การให้ความร่วมมือต่อสำนักงานหรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการชี้แจงข้อมูลหรือรวบรวมพยานหลักฐาน หรือแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบ หรือการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น มาประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดระดับความรุนแรงของมาตรการลงโทษได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ