มาตรการดำเนินการบันทึกคะแนนความผิด (point system)

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 6, 2009 11:55 —ประกาศ ก.ล.ต.

6 สิงหาคม 2552

เรียน ผู้จัดการ

บริษัทหลักทรัพย์ทุกบริษัท

บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการ

กองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลทุกบริษัท

บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท

บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทการเป็น

ผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท

นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์

นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน

ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

ที่ กลต.น./ธ.(ว) 23/2552 เรื่อง มาตรการดำเนินการบันทึกคะแนนความผิด (point system)

ด้วยผู้บริหาร ของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (“บริษัท”) เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์หรือธุรกิจจัดการลงทุนมีระบบงานและระบบการกำกับดูแลการปฏิบัติงานที่ดี รวมถึงทำให้เกิดวัฒนธรรมของการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายในองค์กร (compliance culture) นอกจากนี้ Fund Manager ก็เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุนเพื่อผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งการมีผู้บริหารและ Fund Manager ที่มีคุณภาพ มีการคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุน (fiduciary duty) จะก่อให้เกิดความไว้วางใจแก่ผู้ลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน”) จึงเห็นว่า มาตรการหนึ่งที่จะเสริมสร้างให้ผู้บริหารและ Fund Manager ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว คือ การกำหนดให้บุคคลดังกล่าวมีความรับผิดชอบส่วนตัว (personal accountability) ในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว

เพื่อให้สำนักงานมีเครื่องมือในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้บริหารของบริษัท และ Fund Manager ให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น สำนักงานจึงนำระบบบันทึกคะแนนความผิด (point system) มาใช้ตามนัยข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 ของประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ/น/ข. 3/2548 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ ลงวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548 และข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 ของประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ/น/ข. 35/2548 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ลงวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2548 โดยระบบดังกล่าวจะคำนึงถึงระดับความร้ายแรงและความถี่ของพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือจรรยาบรรณหรือมาตรฐานในการประกอบธุรกิจ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ขอบเขตการบังคับใช้

1.1 กรณีผู้บริหาร

กรณีผู้บริหารของบริษัทได้กระทำผิด หรือมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอันเป็นลักษณะต้องห้าม หรือกรณีที่บริษัทมีการกระทำผิดและสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้บริหารสั่งการหรือไม่สั่งการ กระทำการหรืองดเว้นกระทำการ หรือละเลยการทำหน้าที่ตามสมควรในการตรวจสอบดูแลมิให้บริษัทปฏิบัติฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อฐานะการเงิน การดำเนินธุรกิจ หรือต่อลูกค้า หรือมีการปฏิบัติในลักษณะอื่นใดอันเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย

1.2 กรณี Fund Manager

กรณี Fund Manager กระทำผิด หรือกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนมีการกระทำผิดและสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่ Fund Manager จัดการลงทุนโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือขาดความระมัดระวังหรือมีพฤติกรรมจงใจโดยไม่ได้ใช้ความสามารถเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างเต็มที่ ไม่คำนึงถึงและรักษาผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และไม่ตั้งอยู่บนหลักแห่งความซื่อสัตย์สุจริตและความรอบคอบระมัดระวัง

2. ระดับคะแนนความผิดและการดำเนินการ

การพิจารณาระดับคะแนนความผิดจะพิจารณาจากการปฏิบัติงาน ผลกระทบ และนัยสำคัญของเรื่อง โดยจะนำปัจจัยในข้อ 3 มาเป็นปัจจัยในการกำหนดคะแนน โดยมีรายละเอียดดังนี้

               ระดับความผิด (พิจารณาจากการปฏิบัติงาน ผลกระทบ และนัยสำคัญของเรื่อง)          คะแนนที่ได้ในแต่ละครั้ง
          -  ผลกระทบเล็กน้อย หรือไม่ใช้ความระมัดระวังเท่าที่ควร                                 1 หรือ 2
          -  ผลกระทบปานกลาง หรือไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ          3 หรือ 4
  • ผลกระทบมาก หรือจงใจกระทำผิด หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น
             ในลักษณะเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีการปฏิบัติในลักษณะส่อไปในทางไม่สุจริต                   มากกว่า 4

เมื่อผู้กระทำผิดถูกลงโทษ สำนักงานจะบันทึกประวัติการถูกลงโทษเป็นคะแนนตามระดับโทษที่ได้รับ หากผู้กระทำผิดมีการกระทำผิดขึ้นอีก สำนักงานจะนำคะแนนที่บันทึกไว้จากประวัติการถูกลงโทษมาใช้เป็นปัจจัยในการเพิ่มระดับโทษทางปกครองที่จะลงสำหรับการกระทำผิดครั้งใหม่ โดยในแต่ละระดับคะแนนมีบทลงโทษดังนี้

          คะแนน                    บทลงโทษ          การดำเนินการ
          1-2 คะแนน               ภาคทัณฑ์โดย         - มีหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์
                                  ไม่เปิดเผย          - มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการ) หรือ

มีหนังสือถึงผู้จัดการ (กรณี Fund Manager หรือผู้บริหารอื่น)

เพื่อแจ้งการดำเนินการ

  • แจ้งสมาคมบริษัทจัดการลงทุน/สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ถึง

พฤติกรรมความผิดโดยไม่เปิดเผยชื่อผู้กระทำผิดและบริษัทที่สังกัด

          3-4 คะแนน             ตำหนิโดยเปิดเผย       - มีหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์
                                 ต่อสาธารณชน         - มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการ) หรือ
          5-6 คะแนน                  พัก               มีหนังสือถึงผู้จัดการ (กรณี Fund Manager หรือผู้บริหารอื่น)

เพื่อแจ้งการดำเนินการ

            7 คะแนน                เพิกถอน           - เปิดเผยต่อสาธารณชน (เปิดเผยชื่อผู้กระทำผิดและบริษัทที่สังกัด)

2.1 ในการบันทึกคะแนนความผิดจะบันทึกเป็นคะแนนของแต่ละบุคคลโดยไม่พิจารณาเรื่องการสังกัดบริษัทใด ๆ และในกรณีที่บุคคลใดมีสถานะเป็นทั้งผู้บริหาร และ Fund Manager จะนับรวมคะแนนความผิดของทั้ง 2 สถานะเข้าด้วยกัน

2.2 บริษัทที่จะรับผู้บริหารหรือ Fund Manager เข้าปฏิบัติงานสามารถสอบถามคะแนนความผิดจากสำนักงานได้โดยการแสดงหนังสือยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลจากผู้บริหารหรือ Fund Manager ดังกล่าวต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ในการเปิดเผยสำนักงานจะให้ข้อมูลคะแนนความผิดในช่วง 3 ปีย้อนหลัง

2.3 การล้างคะแนน จะล้างเมื่อผู้กระทำผิดได้รับโทษเพิกถอนหรือเมื่อครบระยะเวลา 3 ปี โดยจะล้างทิ้งเฉพาะคะแนนที่ครบกำหนด

3. ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาระดับความผิด

ในการพิจารณาระดับความผิดตามข้อ 2 สำนักงานจะคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้

3.1 การปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหาร และ Fund Manager

  • พิจารณาจากระดับของการขาดความระมัดระวัง หรือไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือละเลยการทำหน้าที่ตามสมควร
  • พิจารณาจากการมีพฤติกรรมจงใจโดยรู้ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือมีการวางแผนหรือเตรียมการ หรือมีพฤติกรรมซับซ้อน หรือร่วมกับบริษัทในการกระทำผิด หรือช่วยเหลือ สนับสนุนหรือยอมเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือจงใจกระทำผิด หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่นในลักษณะเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีการปฏิบัติในลักษณะส่อไปในทางไม่สุจริต

3.2 นัยสำคัญของเรื่องและผลกระทบ

  • นัยสำคัญของเรื่อง : จะพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงปัจจัยดังต่อไปนี้

1) เรื่องที่มีนัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อฐานะการเงิน หรือการดำเนินธุรกิจ หรือต่อลูกค้า หรือการตัดสินใจของผู้ลงทุน เช่น การปิดบังข้อมูลหรือเปิดเผยข้อมูลเท็จหรือมีการกระทำใด ๆ ให้ลูกค้าสำคัญผิดเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนหรือผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้รับจากการลงทุน เป็นต้น

2) ความถี่และระยะเวลาของการกระทำความผิด เช่น มีการกระทำความผิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ หรือมีระยะเวลากระทำผิดต่อเนื่อง เป็นต้น

  • ผลกระทบ : จะพิจารณาจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบ จำนวนเงินหรือขนาดความเสียหาย ผลประโยชน์ที่บริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับ โดยแบ่งผลกระทบเป็น 3 ระดับ ดังนี้

1) ผลกระทบเล็กน้อย เมื่อปรากฏว่าเป็นการผิดระเบียบปฏิบัติหรือข้อกำหนดต่าง ๆ ที่กำหนดในประกาศ หรือเป็นเรื่องการดำเนินงานทั่วไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ลูกค้า หรือนักลงทุน เพียงเล็กน้อย

2) ผลกระทบปานกลาง เมื่อปรากฏว่าอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และลูกค้าหรือนักลงทุน

3) ผลกระทบมาก เมื่อปรากฏว่าอาจกระทบฐานะความมั่นคงของบริษัทและหรือระบบการเงินโดยรวม

ทั้งนี้ สำนักงานอาจนำพฤติกรรมภายหลังการกระทำผิด เช่น การให้ความร่วมมือต่อสำนักงานหรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการชี้แจงข้อมูลหรือรวบรวมพยานหลักฐาน หรือแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบ หรือการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น มาประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดระดับความรุนแรงของมาตรการลงโทษได้

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ขอแสดงความนับถือ

(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)

เลขาธิการ

ฝ่ายกำกับธุรกิจจัดการลงทุน
โทรศัพท์ 0-2263-6029/โทรสาร 0-2263-6289
ฝ่ายกำกับธุรกิจนายหน้าและค้าหลักทรัพย์
โทรศัพท์ 0-2695-9553/โทรสาร 0-2695-9762

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ