ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่ ทธ. 44/2552
เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการลงทุนในหลักทรัพย์
เพื่อบริษัทหลักทรัพย์
_______________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และมาตรา 98(3) และมาตรา 98(7) (ข) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 41 มาตรา 43 มาตรา 44 และมาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัย อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการ ก.ล.ต. ทำหน้าที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
“บริษัทหลักทรัพย์” หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือหลายประเภทดังนี้ แต่ไม่รวมถึงสถาบันการเงินที่จัดตั้งตามกฎหมายอื่นและได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
(1) การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์
(2) การค้าหลักทรัพย์
(3) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน
(4) การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
“รายงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์” หมายความว่า บทความหรืองานวิจัยที่บริษัทหลักทรัพย์จัดทำขึ้นเพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เกี่ยวกับคุณค่าของหลักทรัพย์ ความเหมาะสมในการลงทุนที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ หรือบริษัทที่ออกหลักทรัพย์
ข้อ 2 ในกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์มีการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของบริษัท ให้บริษัทหลักทรัพย์ซื้อหรือมีหุ้นได้โดยถือว่าได้รับผ่อนผันจากสำนักงานตามมาตรา 98(7) (ข) แล้ว แต่ในกรณีที่การลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการอื่นของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับตลาดทุนตามมาตรา 98(8) ด้วย
ข้อ 3 ในการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของบริษัท บริษัทหลักทรัพย์ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าก่อนประโยชน์ของบริษัทหลักทรัพย์ โดยต้องซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของลูกค้าก่อนบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ เว้นแต่คำสั่งของลูกค้าจะกำหนดเงื่อนไขในการซื้อขายหลักทรัพย์ไว้ชัดเจนเป็นอย่างอื่น
ข้อ 4 ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์ซื้อหรือขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของบริษัทโดยแสวงหาประโยชน์จากการเป็นผู้จัดทำรายงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ในลักษณะที่เป็นการเอาเปรียบผู้ลงทุน
ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าบริษัทหลักทรัพย์ซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการเป็นผู้จัดทำรายงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ในลักษณะที่เป็นการเอาเปรียบผู้ลงทุนตามวรรคหนึ่งด้วย เว้นแต่บริษัทหลักทรัพย์จะพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและสมควร และการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าวมิได้มีเจตนาแสวงหาประโยชน์ในลักษณะที่เป็นการเอาเปรียบผู้ลงทุน
(1) บริษัทหลักทรัพย์มีการซื้อหรือขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของบริษัทในระหว่างการจัดทำรายงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือภายในสามวันทำการตั้งแต่วันที่รายงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้เผยแพร่ต่อผู้ลงทุน และ
(2) บริษัทหลักทรัพย์ไม่มีระเบียบวิธีปฏิบัติหรือไม่ได้ควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามระเบียบวิธีปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวกับระบบป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือระบบป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลอันมิพึงเปิดเผยระหว่างหน่วยงานและบุคลากรของบริษัทหลักทรัพย์ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการจัดให้มีระบบงานสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อบริษัทหลักทรัพย์อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ
ข้อ 5 บริษัทหลักทรัพย์ต้องควบคุมดูแลให้พนักงานปฏิบัติตามประกาศนี้ด้วย
ข้อ 6 บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดทำและเก็บรักษาเอกสารหรือรายงานเกี่ยวกับข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์และรายงานเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของบริษัทไว้อย่างครบถ้วนเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่มีการจัดทำเอกสารหรือรายงาน
ข้อ 7 บริษัทหลักทรัพย์ใดไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ หรือสำนักงานเห็นว่าบริษัทหลักทรัพย์อาจได้รับความเสียหายจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ให้สำนักงานมีอำนาจสั่งให้บริษัทหลักทรัพย์นั้นแก้ไข กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการซื้อหรือขายหรือมีหลักทรัพย์เพื่อการลงทุน การเปิดเผยข้อมูล หรือการกระทำอื่นที่เกี่ยวข้องได้
ข้อ 8 ให้บรรดาประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คำสั่ง และหนังสือเวียน ที่ออกหรือวางแนวปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 38/2546 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อบริษัทหลักทรัพย์ ลงวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดแห่งประกาศนี้ จนกว่าจะได้มีประกาศ คำสั่ง และหนังสือเวียน ที่ออกหรือวางแนวปฏิบัติตามประกาศนี้ใช้บังคับ
ข้อ 9 ในกรณีที่มีประกาศฉบับอื่นใดอ้างอิงประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 38/2546 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อบริษัทหลักทรัพย์ ลงวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ให้การอ้างอิงดังกล่าวหมายถึง การอ้างอิงประกาศฉบับนี้
ข้อ 10 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552
(นายวิจิตร สุพินิจ)
ประธานกรรมการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ออกหลักเกณฑ์ห้ามบริษัทหลักทรัพย์กระทำการใด ๆ อันมีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเป็นการเอาเปรียบลูกค้าหรือบุคคลที่
เกี่ยวข้อง และหลักเกณฑ์ในการผ่อนผันให้บริษัทหลักทรัพย์ซื้อหรือมีหุ้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน จึงเห็นควรออก
ประกาศเพื่อทดแทนประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 38/2546 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธี
การในการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อบริษัทหลักทรัพย์ ลงวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2546 จึงจำเป็นต้องออกประกาศนี้