ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สย. 45/2549
เรื่อง การจัดสรรกระแสรายรับตามโครงการแปลงสินทรัพย์เป็น
หลักทรัพย์ และการรายงานการโอนสินทรัพย์และ
ผลประโยชน์คงเหลือของนิติบุคคลเฉพาะกิจ
___________________________
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 70(3) และข้อ 72 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กย. 31/2549 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายตราสารหนี้ที่ออกใหม่ ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ในประกาศนี้
(1) “การจัดสรรกระแสรายรับ” หมายความว่า การจัดสรรรายได้ของนิติบุคคลเฉพาะกิจที่เกิดจากการรับโอนสินทรัพย์ที่เป็นสิทธิเรียกร้อง เพื่อการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
(2) “รายได้” หมายความว่า รายได้ตามงบกำไรขาดทุน ซึ่งรวมถึง รายได้จากเงินลงทุนในลูกหนี้ ดอกเบี้ยจากเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้องในลูกหนี้ หรือค่าเช่ารับ
(3) “ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายตามงบกำไรขาดทุน ซึ่งรวมถึง ดอกเบี้ยจ่าย ค่าเช่าจ่าย ต้นทุนในการดำเนินงาน หรือเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สูญหรือหนี้สงสัยจะสูญตามที่กฎหมายกำหนด
หมวด 1
การจัดสรรกระแสรายรับตามโครงการ
แปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์
__________________________
ข้อ 3 ให้นิติบุคคลเฉพาะกิจที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล รายงานการจัดสรรกระแสรายรับ ต่อสำนักงานภายในสามเดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี
ข้อ 4 การจัดสรรกระแสรายรับของนิติบุคคลเฉพาะกิจ จะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละเจ็ดสิบของรายได้เฉลี่ยตลอดอายุโครงการ และต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบของรายได้ในแต่ละปีบัญชี
ข้อ 5 ในกรณีมีเหตุจำเป็นทำให้นิติบุคคลเฉพาะกิจ ไม่สามารถจัดสรรกระแสรายรับในแต่ละปีบัญชี ให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อ 4 ให้นิติบุคคลเฉพาะกิจนั้น ยื่นขอผ่อนผันอัตราการจัดสรรกระแสรายรับต่อสำนักงานก่อนวันครบกำหนดเวลาที่ต้องรายงานการจัดสรรกระแสรายรับ
ตามข้อ 3 โดยต้องแสดงเหตุผลและความจำเป็นในการขอผ่อนผัน และในกรณีที่สำนักงานเห็นว่ามีเหตุจำเป็นและสมควร สำนักงานอาจผ่อนผันอัตราการจัดสรรกระแสรายรับดังกล่าว โดยอาจกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ได้รับการผ่อนผันต้องปฏิบัติด้วยก็ได้
หมวด 2
รายงานการโอนสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือ
ภายหลังการสิ้นสุดสถานะของนิติบุคคลเฉพาะกิจ
_______________________
ข้อ 6 ภายหลังการสิ้นสุดสถานะของนิติบุคคลเฉพาะกิจที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้บุคคลดังกล่าวรายงานการโอนสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือให้แก่ผู้เสนอโครงการต่อสำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันสิ้นสุดสถานะของนิติบุคคลเฉพาะกิจ โดยแสดงรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) วันสิ้นสุดสถานะของนิติบุคคลเฉพาะกิจ
(2) วันที่โอนสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือให้แก่ผู้เสนอโครงการ
(3) รายละเอียดของสินทรัพย์และผลประโยชน์ที่โอน โดยระบุมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์ จำนวนลูกหนี้ และมูลค่าทางบัญชีของผลประโยชน์
ในกรณีที่บุคคลตามวรรคหนึ่งไม่อาจโอนสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือให้แก่ผู้เสนอโครงการภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้เพิ่มรายละเอียดดังต่อไปนี้ไว้ในรายงานด้วย
(1) รายละเอียดของสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือที่ยังมิได้โอน โดยระบุมูลค่า
ทางบัญชีของสินทรัพย์ จำนวนลูกหนี้ และมูลค่าทางบัญชีของผลประโยชน์
(2) เหตุผลและความจำเป็นที่ทำให้ไม่สามารถโอนสินทรัพย์และผลประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ผู้เสนอโครงการได้
(3) แผนการดำเนินการกับสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือที่ยังมิได้โอนให้แก่ผู้เสนอโครงการ และระยะเวลาที่คาดว่าจะโอนได้ทั้งหมด รายงานตามข้อนี้ ให้ยื่นต่อกรมสรรพากรภายในกำหนดเวลาเดียวกันด้วย
ข้อ 7 ในกรณีมีเหตุจำเป็นทำให้บุคคลตามข้อ 6 ไม่สามารถโอนสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือให้แก่ผู้เสนอโครงการภายในกำหนดเวลา ให้บุคคลนั้นยื่นคำขอผ่อนผันกำหนดเวลาการโอนดังกล่าวต่อสำนักงานก่อนวันครบกำหนด โดยต้องแสดงให้ชัดเจนถึงเหตุผลและความจำเป็น
ในการขอผ่อนผัน แผนการดำเนินการกับสินทรัพย์และผลประโยชน์คงเหลือที่ยังมิได้โอนให้แก่ผู้เสนอโครงการ รวมทั้งระยะเวลาที่คาดว่าจะโอนได้ทั้งหมด และในกรณีที่สำนักงานเห็นว่ามีเหตุอันจำเป็นและสมควร สำนักงานอาจผ่อนผันกำหนดเวลาการโอนดังกล่าวโดยอาจกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ได้รับการผ่อนผันต้องปฏิบัติด้วยก็ได้
ประกาศ ณ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2549
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์