นำส่งสำเนาประกาศและซักซ้อมความเข้าใจ

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday March 20, 2006 12:37 —ประกาศ ก.ล.ต.

                                                  20   มีนาคม  2549
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวม/กองทุนส่วนบุคคลทุกบริษัท
ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมทุกราย
ผู้รับฝากทรัพย์สินของกองทุนส่วนบุคคลทุกราย
นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
ที่ น.(ว)5/2549 เรื่อง นำส่งสำเนาประกาศและซักซ้อมความเข้าใจ
ด้วยสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ออกประกาศจำนวน 2 ฉบับดังนี้
1. ประกาศสำนักงานที่ สน. 6/ 2549 เรื่อง การจัดตั้งกองทุนรวมและการเข้าทำสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคล (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 (“ประกาศที่ สน. 6/2549”)
2. ประกาศสำนักงานที่ สข/น. 7/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 (“ประกาศที่ สข/น.7/2549”)
เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีความเข้าใจที่ตรงกันและถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศกำหนดได้อย่างถูกต้อง สำนักงานจึงขอซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นในประกาศและวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องโดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ประกาศที่ สน. 6/2549 เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศสำนักงานที่ สน. 23/2547 โดยกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ retail fund ดังนี้
1.1 ห้ามบริษัทจัดการจัดสรรหน่วยลงทุนให้แก่บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันใดเกิน 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้
(1) การจัดสรรหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์
(2) การจัดสรรให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันที่ได้รับยกเว้นภาษีที่มีลักษณะเป็น collective investment scheme และไม่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจลงทุน ได้แก่ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป
(3) กรณีอื่นใดที่ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงานเมื่อมีเหตุจำเป็นและสมควร อย่างไรก็ดี สำนักงานได้กำหนดแนวทางในการผ่อนผันการจัดสรรหน่วยลงทุนเกิน 1 ใน 3 สำหรับกรณีเหตุจำเป็นและสมควร โดยมีหลักในการพิจารณาดังนี้
(ก) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่กองทุนรวมในกรณีที่กองทุนรวมขาดสภาพคล่อง โดยต้องมีเงื่อนไขการลงทุน (การเข้าออกจากกองทุน) ที่ชัดเจน ซึ่งต้องอยู่ภายใต้หลักการที่สำคัญคือ เพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนโดยรวม และบริษัทจัดการต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและเป็นธรรม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ
(ข) เป็น seed money จากบริษัทแม่ เพื่อความมั่นคงของกองทุน โดยมีเงื่อนไขการลงทุนที่ชัดเจน และอยู่ภายใต้หลักการที่สำคัญตาม (ก)
(ค) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและพัฒนาตลาดทุน เช่น กรณีของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ง) กรณีอื่นใดที่สำนักงานเห็นสมควร ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป
1.2 กลุ่มบุคคลเดียวกัน พิจารณาได้ดังนี้
1.2.1 กรณีบุคคลธรรมดา หมายถึง
(1) บิดา มารดา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
(2) คู่สมรส
(3) กองทุนส่วนบุคคลตาม (1) หรือ (2)
1.2.2 กรณีนิติบุคคล หมายถึง
(1) นิติบุคคลและผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนของนิติบุคคลนั้นซึ่งถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลดังกล่าวเกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดหรือความเป็นหุ้นส่วนทั้งหมด แล้วแต่กรณี
(2) นิติบุคคล และนิติบุคคลอื่นซึ่งนิติบุคคลเป็นผู้ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลอื่นนั้นเกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของนิติบุคคลอื่นนั้นหรือความเป็นหุ้นส่วนทั้งหมดของนิติบุคคลอื่นนั้น แล้วแต่กรณี
(3) กองทุนส่วนบุคคลตาม (1) หรือ (2)
1.3 เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมครั้งแรก หากปรากฏว่า retail fund มีการจัดสรรหน่วยลงทุนให้แก่บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันใดเกิน 1 ใน 3 ให้การอนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมนั้นสิ้นสุดลง เว้นแต่ เป็นการจัดสรรที่ได้รับยกเว้นตาม 1.1
1.4 สำนักงานอาจเพิกถอนการอนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวม หากปรากฏว่า บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกัน ถือหน่วยลงทุนใดเกิน 1 ใน 3 ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้
(1) เป็นการเกิน 1 ใน 3 โดยมิได้เกิดจากการลงทุนหรือได้มาเพิ่มเติม และให้บริษัทจัดการรายงานต่อสำนักงานภายในห้าวันทำการนับแต่วันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมรู้หรือควรรู้ถึงเหตุดังกล่าว
(2) กรณีที่ได้รับยกเว้นให้ถือเกิน 1 ใน 3 ตาม 1.1
1.5 ในกรณีที่ปรากฏพฤติการณ์ว่า บริษัทจัดการดำเนินการใด ๆ หรือบุคคลใดถือหน่วยลงทุนโดยรู้เห็นหรือตกลงกับบุคคลอื่นอันเป็นการปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงในการถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 1 ใน 3 ของ retail fund หรือมีเหตุที่ควรสงสัยได้ว่า การจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อแสวงหาประโยชน์จากการลงทุนของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นการเฉพาะหรือเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพย์สินหรือธุรกิจของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดซึ่งสำนักงานได้ดำเนินการให้ชี้แจง และสั่งให้แก้ไขแต่ไม่สามารถทำให้กองทุนรวมนั้นเป็น retail fund ที่แท้จริงได้ สำนักงานอาจเพิกถอนการอนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมนั้น ซึ่งกรณีกองทุนรวมที่ยังไม่จดทะเบียนกองทุนรวม ให้บริษัทจัดการคืนเงินค่าจองซื้อหน่วยลงทุนและผลประโยชน์ใด ๆ ให้แก่ผู้จองซื้อหน่วยลงทุน แต่หากมีการจดทะเบียนกองทุนรวมแล้ว ให้บริษัทดำเนินการให้มีการเลิกกองทุนรวมทันที
1.6 หลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น ไม่ใช่กับกองทุนดังต่อไปนี้
(1) กองทุนรวม ETF ทั่วไป เฉพาะก่อนและในวันเริ่มขายหน่วยลงทุนในตลาดรอง
(2) กองทุน ABF2
2. ประกาศที่ สข/น. 7/2549 เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศสำนักงานที่ สข/น. 1/2549 โดยกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
2.1 เรื่องการถือหน่วยลงทุนเกิน 1 ใน 3 โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1.1 ใช้บังคับเฉพาะ retail fund แต่ไม่ใช้กับกองทุนรวมวายุภักษ์ กองทุน ABF2 และกองทุน ETF ทั่วไป เฉพาะก่อนและในวันเริ่มขายหน่วยลงทุนในตลาดรอง
2.1.2 บริษัทจัดการมีหน้าที่ต้องตรวจสอบการถือหน่วยเกิน 1 ใน 3 ของบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกัน โดยมีแนวปฏิบัติดังนี้
(1) รายงานต่อสำนักงานภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมรู้หรือควรรู้ถึงเหตุดังกล่าว
(2) หากมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันถือหน่วยเกินที่กำหนดดังกล่าว แม้จะได้รับยกเว้นหรือผ่อนผันจากสำนักงาน ในการดำเนินการขอมติจากผู้ถือหน่วยต้องไม่นับคะแนนเสียงของบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกัน เกินกว่า 1 ใน 3
(3) หากการเกิน 1 ใน 3 ไม่อยู่ในขอบเขตที่ได้รับการยกเว้นจากสำนักงาน ให้บริษัทจัดการแก้ไขสัดส่วนการถือหน่วยให้มีจำนวนไม่เกิน 1 ใน 3 ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่ปรากฏกรณีดังกล่าว
บริษัทจัดการต้องระบุกรณีตาม (2) และ (3) ไว้อย่างชัดเจนในโครงการ
2.1.3 กรณีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกัน ถือหน่วยลงทุนในบัญชีหลักทรัพย์แบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน (omnibus account) ให้บริษัทจัดการกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นเจ้าของบัญชีตรวจสอบ omnibus account ว่ามีบุคคลใดหรือบุคคลเดียวกันใด ถือหน่วยเกิน 1 ใน 3 และให้แจ้งบริษัทจัดการโดยพลัน ประกอบกับในการขอมติจากผู้ถือหน่วยไม่นับคะแนนเสียงของบุคคลดังกล่าวเกินกว่า 1 ใน 3 ด้วย
2.1.4 การดำเนินการ
กรณีกองทุนรวมที่จดทะเบียนก่อนประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ (กองทุนเก่า) และมีบุคคลใดหรือบุคคลเดียวกันใด ถือหน่วยเกิน 1 ใน 3 ให้บริษัทจัดการรายงานโดยระบุชื่อกองทุน รายชื่อบุคคลหรือรายชื่อบุคคลเดียวกัน และจำนวนหน่วยของบุคคลดังกล่าวถือให้สำนักงานทรายภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ และดำเนินการดังต่อไปนี้ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ประกาศมี
ผลใช้บังคับ
(1) เสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติม หรือควบรวมกองทุนรวมเพื่อให้สัดส่วนการถือหน่วยของบุคคลดังกล่าวไม่เกิน 1 ใน 3
(2) เลิกกองทุนรวม
(3) ดำเนินการอื่นใดที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน
หากไม่ดำเนินการดังกล่าวข้างต้นหรือไม่สามารถดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวถือหน่วยไม่เกิน 1 ใน 3 ได้ สำนักงานอาจสั่งให้บริษัทจัดการเลิกกองทุนรวม ทั้งนี้ เกณฑ์ดังกล่าวไม่ใช้กับกองทุนเก่าเฉพาะกรณีดังต่อไปนี้
(ก) กองทุน ABF2
(ข) กองทุนรวมวายุภักษ์
(ค) กองทุนเปิดที่ไม่มีการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมอีก
(ง) country fund
(จ) กองทุนปิดที่กำหนดวันสิ้นอายุโครงการไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี ถ้ากองทุนปิดดังกล่าวมีการแก้ไขอายุโครงการหรือมีการแปลงสภาพเป็นกองทุนเปิด จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ 1 ใน 3 ณ วันที่มีผลในการต่ออายุโครงการ หรือวันที่เปลี่ยนสภาพเป็นกองทุนเปิด หรือ
(ฉ) กรณีที่ได้รับยกเว้นให้ถือเกิน 1 ใน 3 ได้แก่ การจัดสรรให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันที่ได้รับยกเว้นภาษีที่มีลักษณะเป็น collective investment scheme และไม่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจลงทุนตามที่กล่าวข้างต้น หรือกรณีอื่นใดที่ได้รับการผ่อนผันจากสำนักงาน
2.2 การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการ เดิม การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการ กำหนดให้เรียกเก็บตามวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้
(ก) เรียกเก็บตามร้อยละของ NAV
(ข) เรียกเก็บโดยอิงกับผลการดำเนินงาน แก้ไขเป็น กำหนดวิธีการเรียกเก็บเพิ่มเติมใน (ก) ดังนี้
(ก) เรียกเก็บเป็นจำนวนคงที่ หรือตามร้อยละของมูลค่าทรัพย์สินหรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
2.3 เพิ่มเติมข้อยกเว้นสำหรับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพไม่ต้องดำเนินการเลิกกองทุนอันเนื่องมาจากมูลค่าหน่วยลงทุนลดลงต่ำกว่า 50 ล้านบาทติดต่อกัน 5 วันทำการ หรือต่ำกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติ
ขอแสดงความนับถือ
(นางสาวดวงมน ธีระวิคาวี)
ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับธุรกิจจัดการลงทุน
เลขาธิการแทน
สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. ประกาศสำนักงานที่ สน. 6/2549 เรื่อง การจัดตั้งกองทุนรวมและการเข้าทำสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคล (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549
2. ประกาศสำนักงานที่ สข/น. 7/2549 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549
ฝ่ายกำกับธุรกิจจัดการลงทุน
โทร. 0-2263-6032

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ