24 พฤษภาคม 2553
เรียน ผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์ทุกบริษัท
บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการ
กองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลทุกบริษัท
บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท
บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทการเป็น
ผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท
นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ที่ กลต.น./ธ.(ว) 12/2553 เรื่อง มาตรการดำเนินการบันทึกคะแนนความผิด (point system)
ตามที่สำนักงานได้มีหนังสือที่ กลต.น./ธ.(ว) 23/2552 เรื่อง มาตรการดำเนินการบันทึกคะแนนความผิด (point system) ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2552 (“หนังสือที่ กลต.น./ธ.(ว) 23/2552”) ซึ่งบังคับใช้กับผู้บริหารและผู้จัดการกองทุน โดยนิยาม “ผู้บริหาร” อ้างอิงตามประกาศเกี่ยวกับผู้บริหาร ในขณะนั้น แต่โดยที่สำนักงานมีการแก้ไขประกาศเกี่ยวกับผู้บริหารดังกล่าว (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย) สำนักงานจึงขอยกเลิกหนังสือที่ กลต.น./ธ.(ว) 23/2552 และขอซักซ้อม ดังนี้
1. ขอบเขตการบังคับใช้
บุคคลภายใต้ขอบเขตบังคับใช้มาตรการดำเนินการบันทึกคะแนนความผิดยังคงเป็นไปตามเจตนารมณ์เดิม ได้แก่ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมทั้ง Fund Manager โดยผู้บริหารหมายถึงผู้จัดการและบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการซึ่งครอบคลุมบุคคลดังต่อไปนี้
“ผู้จัดการ” หมายถึง บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทให้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงานของบริษัท
“บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ” หมายถึง รองผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้จัดการสาขา และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าที่เรียกชื่ออย่างอื่นโดยบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบงานในสายงานเกี่ยวกับการให้บริการ การปฏิบัติการ การกำกับดูแลการปฏิบัติงาน หรือการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับด้านหลักทรัพย์หรือตลาดทุนหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสายงานอื่นในทำนองเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่ว่าสายงานนั้นจะปฏิบัติงานเพื่อให้บริการแก่บุคคลอื่นหรือเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเอง และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการในคณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการงานที่เกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เช่น คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คณะกรรมการพิจารณาการลงทุน หรือคณะกรรมการกำกับดูแลการปฏิบัติงาน เป็นต้น หรือที่ปรึกษาของคณะกรรมการดังกล่าว
1.1 กรณีกรรมการและผู้บริหาร
(1) กรณีกรรมการและผู้บริหารของบริษัทได้กระทำผิด หรือมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอันเป็นลักษณะต้องห้าม หรือกรณีที่บริษัทมีการกระทำผิดและสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่กรรมการและหรือผู้บริหารสั่งการหรือไม่สั่งการ กระทำการหรืองดเว้นกระทำการ หรือละเลยการทำหน้าที่ตามสมควรในการตรวจสอบดูแลมิให้บริษัทปฏิบัติฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อฐานะการเงิน การดำเนินธุรกิจ หรือต่อลูกค้า หรือมีการปฏิบัติในลักษณะอื่นใดอันเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
(2) ในการพิจารณาการเป็นบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ (“บุคคลผู้มีอำนาจฯ”) ในสายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติการจะพิจารณาลักษณะงานที่ปฏิบัติด้วย เช่น
- กรณีเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป หากได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านการลงทุนของบริษัทจัดการ จะถือเป็นบุคคลผู้มีอำนาจฯ เนื่องจากรับผิดชอบส่วนงานที่เกี่ยวกับการให้บริการเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจหรือเพื่อ port การลงทุนของบริษัท
- กรณีเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ หากได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมการใช้งานที่เกี่ยวกับฐานข้อมูลของลูกค้าหรือกองทุนภายใต้การจัดการ ซึ่งสามารถเข้าถึงหรือจัดการฐานข้อมูลของลูกค้าหรือกองทุนภายใต้การจัดการได้ จะถือเป็นบุคคลผู้มีอำนาจฯ เนื่องจากรับผิดชอบส่วนงานที่เกี่ยวกับด้านหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- กรณีเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะไม่ถือเป็นบุคคลผู้มีอำนาจฯ หากขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบไม่เกี่ยวกับด้านหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
1.2 กรณี Fund Manager
กรณี Fund Manager กระทำผิด หรือกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนมีการกระทำผิดและสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่ Fund Manager จัดการลงทุนโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือขาดความระมัดระวังหรือมีพฤติกรรมจงใจโดยไม่ได้ใช้ความสามารถเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างเต็มที่ ไม่คำนึงถึงและรักษาผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และไม่ตั้งอยู่บนหลักแห่งความซื่อสัตย์สุจริตและความรอบคอบระมัดระวัง
2. ระดับคะแนนความผิดและการดำเนินการ
การพิจารณาระดับคะแนนความผิดจะพิจารณาจากการปฏิบัติงาน ผลกระทบ และนัยสำคัญของเรื่อง โดยจะนำปัจจัยในข้อ 3 มาเป็นปัจจัยในการกำหนดคะแนน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ระดับความผิด (พิจารณาจากการปฏิบัติงาน ผลกระทบ และนัยสำคัญของเรื่อง) คะแนนที่ได้ในแต่ละครั้ง - ผลกระทบเล็กน้อย หรือไม่ใช้ความระมัดระวังเท่าที่ควร 1 หรือ 2 - ผลกระทบปานกลาง หรือไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ 3 หรือ 4
- ผลกระทบมาก หรือจงใจกระทำผิด หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น
ในลักษณะเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีการปฏิบัติในลักษณะส่อไปในทางไม่สุจริต มากกว่า 4
เมื่อผู้กระทำผิดถูกลงโทษ สำนักงานจะบันทึกประวัติการถูกลงโทษเป็นคะแนนตามระดับโทษที่ได้รับ หากผู้กระทำผิดมีการกระทำผิดขึ้นอีก สำนักงานจะนำคะแนนที่บันทึกไว้จากประวัติการถูกลงโทษมาใช้เป็นปัจจัยในการเพิ่มระดับโทษทางปกครองที่จะลงสำหรับการกระทำผิดครั้งใหม่ โดยในแต่ละระดับคะแนนมีบทลงโทษดังนี้
คะแนน บทลงโทษ การดำเนินการ 1-2 คะแนน ภาคทัณฑ์โดย - มีหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์ ไม่เปิดเผย - มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการ) หรือ
มีหนังสือถึงผู้จัดการ (กรณี Fund Manager หรือผู้บริหารอื่น)
เพื่อแจ้งการดำเนินการ
- แจ้งสมาคมบริษัทจัดการลงทุน/สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ถึง
พฤติกรรมความผิดโดยไม่เปิดเผยชื่อผู้กระทำผิดและบริษัทที่สังกัด
3-4 คะแนน ตำหนิโดยเปิดเผย - มีหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์ ต่อสาธารณชน - มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการ) หรือ
มีหนังสือถึงผู้จัดการ (กรณี Fund Manager หรือผู้บริหารอื่น)
เพื่อแจ้งการดำเนินการ
- เปิดเผยต่อสาธารณชน (เปิดเผยชื่อผู้กระทำผิดและบริษัทที่สังกัด)
5-6 คะแนน พัก 7 คะแนน เพิกถอน
2.1 ในการบันทึกคะแนนความผิดจะบันทึกเป็นคะแนนของแต่ละบุคคลโดยไม่พิจารณาเรื่องการสังกัดบริษัทใด ๆ และในกรณีที่บุคคลใดมีสถานะเป็นทั้งผู้บริหาร และ Fund Manager จะนับรวมคะแนนความผิดของทั้ง 2 สถานะเข้าด้วยกัน
2.2 บริษัทที่จะรับกรรมการ ผู้บริหารหรือ Fund Manager เข้าปฏิบัติงานสามารถสอบถามคะแนนความผิดจากสำนักงานได้โดยการแสดงหนังสือยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลจากกรรมการ ผู้บริหารหรือ Fund Manager ดังกล่าวต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ในการเปิดเผยสำนักงานจะให้ข้อมูลคะแนนความผิดในช่วง 3 ปีย้อนหลัง
2.3 การล้างคะแนน จะล้างเมื่อผู้กระทำผิดได้รับโทษเพิกถอนหรือเมื่อครบระยะเวลา 3 ปี โดยจะล้างทิ้งเฉพาะคะแนนที่ครบกำหนด
3. ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาระดับความผิด
ในการพิจารณาระดับความผิดตามข้อ 2 สำนักงานจะคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
3.1 การปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ผู้บริหาร และ Fund Manager
- พิจารณาจากระดับของการขาดความระมัดระวัง หรือไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือละเลยการทำหน้าที่ตามสมควร
- พิจารณาจากการมีพฤติกรรมจงใจโดยรู้ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือมีการวางแผนหรือเตรียมการ หรือมีพฤติกรรมซับซ้อน หรือร่วมกับบริษัทในการกระทำผิด หรือช่วยเหลือ สนับสนุนหรือยอมเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือจงใจกระทำผิด หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่นในลักษณะเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมีการปฏิบัติในลักษณะส่อไปในทางไม่สุจริต
3.2 นัยสำคัญของเรื่องและผลกระทบ
- นัยสำคัญของเรื่อง : จะพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
1) เรื่องที่มีนัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อฐานะการเงิน หรือการดำเนินธุรกิจ หรือต่อลูกค้า หรือการตัดสินใจของผู้ลงทุน เช่น การปิดบังข้อมูลหรือเปิดเผยข้อมูลเท็จหรือมีการกระทำใด ๆ ให้ลูกค้าสำคัญผิดเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนหรือผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้รับจากการลงทุน เป็นต้น
2) ความถี่และระยะเวลาของการกระทำความผิด เช่น มีการกระทำความผิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ หรือมีระยะเวลากระทำผิดต่อเนื่อง เป็นต้น
- ผลกระทบ : จะพิจารณาจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบ จำนวนเงินหรือขนาดความเสียหาย ผลประโยชน์ที่บริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับ โดยแบ่งผลกระทบเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1) ผลกระทบเล็กน้อย เมื่อปรากฏว่าเป็นการผิดระเบียบปฏิบัติหรือข้อกำหนดต่าง ๆ ที่กำหนดในประกาศ หรือเป็นเรื่องการดำเนินงานทั่วไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ลูกค้า หรือนักลงทุน เพียงเล็กน้อย
2) ผลกระทบปานกลาง เมื่อปรากฏว่าอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และลูกค้าหรือนักลงทุน
3) ผลกระทบมาก เมื่อปรากฏว่าอาจกระทบฐานะความมั่นคงของบริษัทและหรือระบบการเงินโดยรวม
ทั้งนี้ สำนักงานอาจนำพฤติกรรมภายหลังการกระทำผิด เช่น การให้ความร่วมมือต่อสำนักงานหรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการชี้แจงข้อมูลหรือรวบรวมพยานหลักฐาน หรือแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบ หรือการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น มาประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดระดับความรุนแรงของมาตรการลงโทษได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ
ล่วงหน้า