การจัดทำและส่งงบการเงินและรายการเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday February 28, 1996 17:41 —ข้อบังคับและประกาศตลาดหลักทรัพย์ฯ

การจัดทำและส่งงบการเงินและรายการเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน                                                     วันที่บังคับใช้ 31 พฤษภาคม 2536     (บจ. 45-1-01) ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงาน เกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 56 อนุโลมตามมาตรา 199 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ พ.ศ.2535 คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในข้อบังคับนี้ "ตลาดหลักทรัพย์" หมายความว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย "บริษัทจดทะเบียน" หมายความว่า บริษัทจดทะเบียนตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรับและเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน "บริษัทใหญ่" หมายความว่า บริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมเกิน กว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้วของบริษัทจดทะเบียน "บริษัทย่อย" หมายความว่า บริษัทที่บริษัทจดทะเบียนถือหุ้นไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมเกิน กว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้วของบริษัทนั้น "บริษัทในเครือ" หมายความว่า บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทในเครือของบริษัทย่อยโดย อนุโลม "บริษัทร่วม" หมายความว่า บริษัทที่บริษัทจดทะเบียนถือหุ้นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมเกิน กว่าร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้วของบริษัทนั้น "ผู้บริหาร" หมายความว่า กรรมการ กรรมการบริหาร ผู้จัดการ พนักงานระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไป หรือผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีอำนาจในการจัดการบริษัทจดทะเบียนและรวมถึงบุคคลซึ่งบริษัท จดทะเบียนทำสัญญาให้มีอำนาจทั้งหมดหรือบางส่วนในการบริหารงานของบริษัทจดทะเบียน "ผู้ที่เกี่ยวข้อง" หมายความว่า บุคคลหรือห้างหุ้นส่วนตามมาตรา 258 (1) ถึง (7) แห่งพระราช บัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 "ผู้ถือหุ้นรายใหญ่" หมายความว่า ผู้ถือหุ้นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในบริษัทจดทะเบียนรวม กันเกินร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วของบริษัทจดทะเบียน การถือหุ้นดังกล่าวให้นับรวมถึงหุ้นที่ถือโดยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย "ผู้สอบบัญชี" หมายความว่า ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากตลาดหลักทรัพย์และสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 2 ให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำ และนำส่งงบการเงินรายไตรมาสที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานตาม มาตรฐานการสอบบัญชีที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ให้ตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 45 ฉบับ ภายใน 45 วันนับแต่วันสุดท้ายของแต่ละไตรมาส การเสนองบการเงินตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทจดทะเบียนแสดงรายการย่อตามแบบแนบท้ายข้อบังคับ นี้ และให้บริษัทจดทะเบียนเสนองบการเงินรายไตรมาสสำหรับแต่ละงวดไตรมาสของปี และงบเปรียบเทียบดังนี้ (1) งบกำไรขาดทุน แสดงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสปัจจุบันเปรียบเทียบกับไตรมาส เดียวกันของปีก่อน และงวดสะสมของไตรมาสปัจจุบันเปรียบเทียบกับงวดสะสมของไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ หากมีรายการพิเศษ การเปลี่ยนแปลงทางบัญชี รายได้และค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามฤดูกาล หรือรายการอื่นใดที่ทำให้ ฐานะหรือรายได้และค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผิดปกติ บริษัทจดทะเบียนต้องแจ้งรายการดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลประกอบด้วย (2) งบดุล แสดงฐานะการเงิน ณ วันสุดท้ายของไตรมาสปัจจุบันเปรียบเทียบกับ ณ วันสุด ท้ายของไตรมาสเดียวกันของปีก่อน บริษัทจดทะเบียนอาจนำส่งงบการเงินที่ปิดบัญชีทุกงวดการบัญชีในรอบระยะเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปีที่มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้วแทนการนำส่งงบการเงินรายไตรมาสที่ 2 หรือไตรมาส ที่ 4 ของงวดบัญชีนั้นได้ หากบริษัทจดทะเบียนสามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวให้ตลาดหลักทรัพย์ได้ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่สิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีนั้นโดยแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบล่วงหน้าก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะดำเนิน การดังกล่าวภายใน 30 วันนับแต่วันที่สิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ทั้งนี้หากบริษัทจดทะเบียนดำเนินการดังกล่าวแล้ว บริษัทจดทะเบียนต้องถือปฎิบัติโดยสม่ำเสมอเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 3 ให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำและนำส่งงบการเงินที่ปิดบัญชีทุกงวดการบัญชีในรอบระยะ เวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี ที่มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้ว ให้ตลาดหลักทรัพย์จำนวน 45 ฉบับภาย ใน 3 เดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนหรือ 1 ปี โดยงบการเงินนั้นอย่างน้อยต้องเปิดเผยสาร สนเทศดังนี้ (1) เปิดเผยสารสนเทศในงบการเงินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2519) อกตามความใน ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 285 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 และให้ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่กำหนด โดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ในกรณีที่มีกฎกระทรวงที่กำหนดรายการและความ หมายของรายการในงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัดแล้ว ให้บริษัท จดทะเบียนที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด เปิดเผยสารสนเทศในงบการเงินตามกฎกระทรวงดังกล่าวด้วย (2) ในการปฏิบัติตาม (1) อย่างน้อยให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยรายละเอียดไว้ในหมายเหตุ ประกอบงบการเงินดังต่อไปนี้
(ก) รายการบัญชีกับบริษัทในเครือ บริษัทร่วม ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ที่เกี่ยว ข้องกับบุคคลดังกล่าว (ข) การนำสินทรัพย์วางเป็นหลักประกันหนี้สิน ข้อจำกัดอื่นที่มีต่อกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ ในการใช้สินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน การประกันหนี้สินของบริษัทจดทะเบียนโดยบุคคลหรือโดยสินทรัพย์ของ บุคคลที่สาม (ค) ข้อผูกพันที่จะต้องรักษาระดับทุนทำการ หรือรักษาส่วนของผู้ถือหุ้นไว้ (ง) ข้อจำกัดเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผล (จ) ข้อผูกพันที่จะลดหนี้ระยะยาว (ฉ) เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นที่มีตามสัญญาเงินกู้ระยะยาว (ช) ข้อผูกพันซื้อโรงงานหรือเครื่องจักรซึ่งเป็นจำนวนเงินมาก (ซ) การทำสัญญาเช่าระยะยาว (ฌ) การให้กู้ยืมแก่ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนและการเปลี่ยนแปลงในระหว่างปีโดย ไม่รวมถึงการให้กู้ยืมเพื่อเป็นสวัสดิการตามปกติของบริษัทจดทะเบียน (ญ) ข้อผูกพันตามโครงการ บำเหน็จ บำนาญและข้อผูกพันอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อ สิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น (ฎ) รายการใด ๆ ตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด (3) ให้จัดทำงบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงิน หรืองบแสดงที่มาและใช้ไปของเงินทุน หรืองบกระแสเงินสดเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน (4) ในกรณีที่เป็นปัญหาการบัญชีที่ไม่มีมาตรฐานการบัญชีของไทยครอบคลุมถึงให้ปฏิบัติ ตามลำดับดังนี้ (ก) ใช้มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศของ International Accounting Standards Committee (ข) ใช้มาตรฐานการบัญชีของ American Institution of Certified Public Accountants หรือ Financial Accounting Standards Board ในกรณีที่ใช้มาตรฐานตาม (ก) หรือ (ข)ให้ระบุแหล่งที่มาของมาตรฐานการบัญชีที่ใช้ ด้วย
ข้อ 4 ให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำงบการเงินรวมรายไตรมาสตามข้อ 2 และประจำงวดการบัญชี ตามข้อ 3 เป็นการเพิ่มเติมในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนมีบริษัทย่อย และนำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์พร้อมกับการนำส่งบ การเงินตามข้อ 2 และข้อ 3 แล้วแต่กรณี ในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนไม่ได้นำบริษัทย่อยดังกล่าวมารวมในงบการเงินรวม ให้แจ้งเหตุผลถึง การไม่นำมารวม และให้เปิดเผยงบการเงินของบริษัทย่อยดังกล่าวนั้นไว้เป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินรวมด้วย
ข้อ 5 ในกรณีที่ผลการดำเนินงานตามงบกำไรขาดทุนที่บริษัทจดทะเบียนนำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเกินกว่าร้อยละ 20 ให้บริษัทจดทะเบียนชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ต่อตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกับนำส่งงบการเงินที่บริษัทจดทะเบียนต้องนำส่งตามข้อบังคับนี้
ข้อ 6 ให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำรายงานสรุปฐานะการเงินและผลการดำเนินงานตามประเภทกิจการ ของบริษัทจดทะเบียนตามแบบแนบท้ายข้อบังคับนี้ และนำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์จำนวน 1 ฉบับ พร้อมกับนำส่งงบ การเงินที่บริษัทจดทะเบียนต้องนำส่งตามข้อบังคับนี้
ข้อ 7 ในการนำส่งงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนตามข้อบังคับนี้ ให้กรรมการผู้ซึ่งมีอำนาจลงลาย มือชื่อผูกพันบริษัทจดทะเบียนซึ่งปรากฎตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่ออกโดยกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ลงลายมือชื่อรับรองในงบการเงินฉบับที่นำส่งต่อตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เฉพาะงบการเงินประจำงวด การบัญชีหรืองบการเงินรวมประจำงวดการบัญชีฉบับที่นำส่งต่อตลาดหลักทรัพย์ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรม การของบริษัทจดทะเบียนด้วย
ข้อ 8 ให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำรายงานประจำปีส่งให้ผู้ถือหุ้นพร้อมกับหนังสือเรียกประชุมสามัญ ประจำปีผู้ถือหุ้น และนำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์จำนวน 45 ฉบับภายในระยะเวลา 4 เดือนนับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะ เวลาบัญชี รายงานประจำปีนั้นต้องมีสารสนเทศอย่างน้อยดังนี้
(1) ชื่อ สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ ประเภทธุรกิจ
(2) จำนวน มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น และทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วทั้งหมด
(3) คำชี้แจงของประธานกรรมการหรือคณะกรรมการเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน
(4) สารสนเทศที่สำคัญโดยสรุปของกิจการ
(5) รายงานโดยสังเขปในลักษณะวิเคราะห์เกี่ยวกับผลการดำเนินงานและการเปลี่ยนแปลงใน ผลการดำเนินงาน
(6) ชื่อและตำแหน่งของกรรมการ และกรรมการบริหาร
(7) สารสนเทศที่สำคัญเกี่ยวกับบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทร่วม รวมถึงการถือหุ้นของ บริษัทในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
(8) งบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้วโดยไม่ตัดทอน
(9) ตัวเลขสถิติเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและฐานะการเงินเปรียบเทียบอย่างน้อย 3 ปี ได้แก่ ตัวเลขเกี่ยวกับสินทรัพย์รวม ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว ส่วนของผู้ถือหุ้น รายได้จากการขาย กำไรสุทธิ กำไรต่อหุ้น มูลค่าหุ้นตามบัญชี เงินปันผลต่อหุ้น และอัตราเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ
(10) รายการใด ๆ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535
ข้อ 9 ให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำและนำส่งรายงานการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยมีรายละเอียดตามแบบรายงานการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทที่ออกหุ้น (แบบ 56-1)ของสำนักงานคณะกรรม การกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้ตลาดหลักทรัพย์จำนวน 45 ฉบับ ภายในระยะเวลา 3 เดือนนับแต่วันสิ้น สุดรอบระยะเวลาบัญชี ในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนจัดทำและนำส่งรายงานการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมให้สำนักงานคณะกรรม การกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้ว ให้บริษัทจดทะเบียนนำส่งสำเนารายงานดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ก็ได้
ข้อ 10 ในกรณีมีเหตุจำเป็นที่บริษัทจดทะเบียนไม่สามารถนำส่งงบการเงินหรือรายงานให้ตลาดหลัก ทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลาดหลักทรัพย์อาจผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงิน หรือรายงานดังกล่าวได้ เป็นคราว ๆ ไป โดยให้บริษัทจดทะเบียนแจ้งขอผ่อนผันเป็นหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์เป็นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ในกรณีที่เหตุจำเป็นตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปและมีผลทำให้บริษัทจดทะเบียน ไม่สามารถนำส่งงบการเงินตามข้อ 2 ข้อ 3 หรือข้อ 4 ให้ตลาดหลักทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลาดหลักทรัพย์ อาจผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินดังกล่าวได้ตามกำหนดระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์เห็นสมควร โดยให้บริษัท จดทะเบียนแจ้งขอผ่อนผันเป็นหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์เป็นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนวันครบกำหนดระยะ เวลาดังกล่าว ให้บริษัทจดทะเบียนจดทะเบียนชี้แจงเหตุผลและแจ้งกำหนดเวลาที่จะส่งงบการเงินหรือรายงานให้ ตลาดหลักทรัพย์ไว้ในหนังสือขอผ่อนผันด้วย ในการผ่อนผันตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ตลาดหลักทรัพย์อาจกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ก็ได้ (ความในข้อ 10 เดิมถูกยกเลิกและใช้ความใหม่นี้แทนโดยข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนิน งานของบริษัทจดทะเบียน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2536) ในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนได้แจ้งขอผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินหรือรายงานต่อตลาด หลักทรัพย์แล้ว แต่ไม่ได้กระทำภายในระยะเวลาที่กำหนดในวรรคหนึ่งหรือวรรคสองข้างต้น หากตลาดหลักทรัพย์เห็น สมควรก็อาจผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินหรือรายงานดังกล่าวได้ (ความในวรรคห้าของข้อ 10 ถูกเพิ่มเติมโดยข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลัก เกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจด ทะเบียน (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2538)
ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2536 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2536
(ลงนาม) สังเวียน อินทรวิชัย
(สังเวียน อินทรวิชัย) ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ