วิธีปฏิบัติบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เรื่อง ผู้ฝากและการจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ พ.ศ. 2544
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5 แห่งระเบียบบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เรื่อง การประกอบการเป็นศูนย์รับฝาก พ.ศ. 2543 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2543
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกวิธีปฏิบัติไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 วิธีปฏิบัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2544 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิกวิธีปฏิบัติบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เรื่อง ผู้ฝากและการจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ พ.ศ. 2543 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2543
หมวด 1
การเป็นผู้ฝาก
ข้อ 3 การขอเป็นผู้ฝากต้องยื่นคำขอตามแบบที่ศูนย์รับฝากกำหนด พร้อมยื่นเอกสารและหลักฐานดังต่อไปนี้
(1) หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัทที่ออกโดยหน่วยราชการที่รับผิดชอบ ซึ่งได้ออกไว้ไม่เกิน 3 เดือนนับแต่วันที่ลงในหนังสือรับรองดังกล่าว
(2) สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการของบริษัท เฉพาะบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยการประกอบการเป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และประกาศตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยบุคคลที่ศูนย์รับฝากอาจอนุญาตให้เป็นผู้ฝาก
(3) หลักฐานอื่นตามที่ศูนย์รับฝากกำหนด
ข้อ 4 เมื่อศูนย์รับฝากพิจารณาเห็นว่าบุคคลที่ยื่นคำขอเป็นผู้ฝากมีคุณสมบัติครบถ้วน ศูนย์รับฝากจะอนุญาตให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ฝากและแจ้งผลการอนุญาตให้บุคคลผู้ยื่นคำขอทราบเป็นหนังสือ
ในกรณีที่ศูนย์รับฝากกำหนดเงื่อนไขใดๆ ให้ผู้ฝากปฏิบัติก่อนการอนุมัติเป็นผู้ฝาก บุคคลที่ยื่นคำขอจะเป็นผู้ฝากได้ต่อเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นครบถ้วนแล้ว
ข้อ 5 เมื่อศูนย์รับฝากอนุญาตให้เป็นผู้ฝากแล้ว ผู้ฝากต้องยื่นคำขอเปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์ตามแบบที่กำหนดต่อศูนย์รับฝาก โดยต้องขอเปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์เพื่อการฝาก การถอน หรือการโอนหลักทรัพย์ในคราวแรกที่ขอใช้บริการ
ข้อ 6 ผู้ฝากที่เป็นนิติบุคคลที่ดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์ที่ตนออกหรือหลักทรัพย์ที่ตนมีข้อตกลงกับผู้รับซื้อหรือรับโอนตามเงื่อนไขที่ศูนย์รับฝากเห็นชอบ จะฝากหลักทรัพย์ไว้กับศูนย์รับฝากได้เฉพาะหลักทรัพย์ที่ตนออกหรือหลักทรัพย์ของผู้รับซื้อหรือรับโอน แล้วแต่กรณี
ในการฝากหลักทรัพย์ของผู้ฝากตามวรรคหนึ่ง ผู้ฝากจะขอเปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์ต่อศูนย์รับฝากได้เฉพาะเพื่อการเก็บรักษาหรือบัญชีฝากหลักทรัพย์อื่นตามที่ศูนย์รับฝากเห็นว่าเหมาะสม
ข้อ 7 ในการใช้บริการของศูนย์รับฝาก ผู้ฝากที่เป็นนิติบุคคลผู้ดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์ที่ตนออกต้องมอบหมายให้ศูนย์รับฝากเป็นตัวแทนในการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่ผู้ฝากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อศูนย์รับฝาก
ข้อ 8 ในกรณีที่ผู้ฝากจะมอบหมายให้บุคคลใดเป็นตัวแทนในการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่ผู้ฝากมีหน้าที่
ต้องปฏิบัติต่อศูนย์รับฝากไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน จะต้องได้รับอนุญาตจากศูนย์รับฝากก่อน
หมวด 2
การพ้นสภาพการเป็นผู้ฝาก
ข้อ 9 กรณีการพ้นสภาพการเป็นผู้ฝากโดยผู้ฝากร้องขอให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้
(1) ให้ผู้ฝากแจ้งยกเลิกการเป็นผู้ฝากให้ศูนย์รับฝากทราบล่วงหน้าก่อนวันที่ประสงค์จะยกเลิกการเป็นผู้ฝากไม่น้อยกว่า 7 วัน
(2) ผู้ฝากต้องดำเนินการถอนหรือโอนหลักทรัพย์ออกจากบัญชีฝากหลักทรัพย์ของผู้ฝากทั้งหมดพร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมการฝากหลักทรัพย์และค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดจากการฝากหลักทรัพย์ให้แก่ศูนย์รับฝากให้เสร็จครบถ้วนก่อนวันยกเลิกการเป็นผู้ฝากนั้น
(3) เมื่อผู้ฝากดำเนินการตาม (1) และ (2) แล้วศูนย์รับฝากจะแจ้งการพ้นสภาพการเป็น
ผู้ฝากให้ผู้ฝากทราบพร้อมกับปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์ทั้งหมดของผู้ฝากนั้น
ข้อ 10 กรณีการพ้นสภาพการเป็นผู้ฝากโดยศูนย์รับฝากมีคำสั่งเมื่อมีเหตุที่อาจทำให้ผู้ฝากพ้นสภาพการเป็นผู้ฝากหรือโดยศูนย์รับฝากมีคำสั่งปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์ทั้งหมด ให้ผู้ฝากจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ให้แก่ศูนย์รับฝากตามวิธีการและภายในเวลาที่ศูนย์รับฝากกำหนดโดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำและจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ตามที่ตลาดหลักทรัพย์และศูนย์รับฝากกำหนด เพื่อให้ศูนย์รับฝากรวบรวมส่งให้แก่บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์เพื่อใช้ประกอบการขอออกใบหลักทรัพย์และศูนย์รับฝากจะออกใบรับให้ผู้ฝากเพื่อขอรับใบหลักทรัพย์ต่อไป
หากผู้ฝากจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง โดยมีข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามที่ตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์รับฝากกำหนด ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ศูนย์รับฝากหรือเจ้าของหลักทรัพย์ผู้ฝากต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น
ในการขอรับใบหลักทรัพย์ ผู้ฝากต้องยื่นใบรับต่อศูนย์รับฝากโดยจะขอรับใบหลักทรัพย์ได้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่กำหนดในใบรับ ถ้าผู้ฝากไม่มารับภายในเวลาดังกล่าว ศูนย์รับฝากอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเก็บรักษาใบหลักทรัพย์ตามที่ศูนย์รับฝากกำหนด
หมวด 3
การจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์
ข้อ 11 ผู้ฝากต้องจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ที่ฝากไว้กับศูนย์รับฝาก โดยต้องมีรายการเกี่ยวกับเจ้าของหลักทรัพย์อย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) ชื่อและชื่อสกุล
(2) ที่อยู่
(3) อาชีพและสัญชาติ
(4) ชื่อหลักทรัพย์
(5) จำนวนหลักทรัพย์
(6) เลขบัตรประจำตัวประชาชน สำหรับกรณีที่เจ้าของหลักทรัพย์เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย หรือเลขที่หนังสือเดินทางหรือเลขที่ใบสำคัญคนต่างด้าวสำหรับกรณีที่เจ้าของหลักทรัพย์เป็นบุคคลธรรมดาที่มิได้มีสัญชาติไทย
(7) เลขที่ทะเบียนนิติบุคคลสำหรับกรณีที่เจ้าของหลักทรัพย์เป็นนิติบุคคล
*ข้อ 12 ในวันปิดสมุดทะเบียนของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ หรือวันถึงกำหนดให้สิทธิใดแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ หรือวันถึงกำหนดไถ่ถอนหรือขายคืนหลักทรัพย์ ผู้ฝากต้องจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ในวันก่อนวันแรกที่ปิดสมุดทะเบียนหรือวันก่อนวันถึงกำหนดดังกล่าว แล้วแต่กรณี ให้แก่ศูนย์รับฝากโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในระบบที่ศูนย์
รับฝากกำหนดภายในเวลา 14.30 น. เพื่อให้ศูนย์รับฝากรวบรวมส่งให้แก่นายทะเบียนของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์
นั้นต่อไป
หากผู้ฝากจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง โดยมีข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามที่ตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์รับฝากกำหนด ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ศูนย์รับฝากหรือเจ้าของหลักทรัพย์ ผู้ฝากต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ความในวรรคหนึ่งมิให้นำมาใช้บังคับกับหลักทรัพย์ประเภทพันธบัตร
(*ความในข้อ 12 เดิมถูกยกเลิกและใช้ความใหม่นี้แทน โดยวิธีปฏิบัติบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เรื่อง ผู้ฝากและการจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2548)
*ข้อ 12/1 ในวันก่อนวันแรกแห่งระยะเวลาที่นายทะเบียนของผู้ออกพันธบัตรได้กำหนดขึ้นเพื่อการชำระดอกเบี้ย หรือเงินต้น หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ถือพันธบัตร ผู้ฝากต้องจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของพันธบัตรและเอกสารในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับพันธบัตรตามที่ศูนย์รับฝากกำหนดให้แก่ศูนย์รับฝาก ภายในเวลา 10.00 น. ของวันดังกล่าว เพื่อให้ศูนย์รับฝากรวบรวมส่งให้แก่นายทะเบียนของผู้ออกพันธบัตรนั้นต่อไป
หากผู้ฝากจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของพันธบัตรและเอกสารในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับพันธบัตรตามที่ศูนย์รับฝากกำหนดตามวรรคหนึ่ง โดยมีข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามที่ตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์รับฝากกำหนด ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ศูนย์รับฝากหรือเจ้าของพันธบัตร ผู้ฝากต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น
(*เพิ่มเติมความในข้อ 12/1 โดยวิธีปฏิบัติบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เรื่อง ผู้ฝากและการจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2548)
*ข้อ 13 ในกรณีที่ผู้ฝากไม่จัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ภายในเวลาที่กำหนดตามข้อ 12 หรือ
ไม่จัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของพันธบัตรและเอกสารในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับพันธบัตรตามที่ศูนย์รับฝากกำหนดภายในเวลาที่กำหนดตามข้อ 12/1 ศูนย์รับฝากอาจพิจารณาปรับผู้ฝากตามอัตราที่ศูนย์รับฝากกำหนด
กรณีผู้ฝากไม่จัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการถัดจากวันปิดสมุดทะเบียน หรือถัดจากวันถึงกำหนดให้สิทธิ หรือถัดจากวันถึงกำหนดไถ่ถอนหรือขายคืนหลักทรัพย์ศูนย์รับฝากอาจไม่รับบัญชีรายชื่อนั้นทั้งหมดหรือบางส่วน หรือไม่จัดส่งบัญชีรายชื่อนั้นให้แก่นายทะเบียนของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์โดยผู้ฝากต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากการไม่ดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ ความในวรรคสองมิให้นำมาใช้บังคับกับหลักทรัพย์ประเภทพันธบัตร
(*ความในข้อ 13 เดิมถูกยกเลิกและใช้ความใหม่นี้แทน โดยวิธีปฏิบัติบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เรื่อง ผู้ฝากและการจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548
ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2548)
*ข้อ 14 กรณีผู้ฝากจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ตามข้อ 12 หรือจัดส่งบัญชีรายชื่อเจ้าของพันธบัตรและเอกสารในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับพันธบัตรตามที่ศูนย์รับฝากกำหนดตามข้อ 12/1 โดยมีข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามที่ตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์รับฝากกำหนด ผู้ฝากอาจขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนได้ตามที่ศูนย์รับฝากเห็นสมควร โดยศูนย์รับฝากอาจพิจารณาปรับผู้ฝากตามอัตราที่ศูนย์รับฝากกำหนด
กรณีเกิดความเสียหายแก่ศูนย์รับฝากหรือเจ้าของหลักทรัพย์หรือเจ้าของพันธบัตรเนื่องจากข้อมูลในบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์หรือบัญชีรายชื่อเจ้าของพันธบัตรและเอกสารในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับพันธบัตรตามที่ศูนย์รับฝากกำหนดที่ผู้ฝากจัดส่งไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ผู้ฝากต้องรับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว
(*ความในข้อ 14 เดิมถูกยกเลิกและใช้ความใหม่นี้แทน โดยวิธีปฏิบัติบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เรื่อง ผู้ฝากและการจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548
ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2548)
ประกาศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2544
(ลงนาม) นงราม วงษ์วานิช
(นางนงราม วงษ์วานิช)
กรรมการผู้จัดการ